
บึ้มตู้ ATM ชายแดนใต้ 7 จุด “ดุซงญอ - ปูยุด” กล่องเงินถูกขโมย แฉคนร้ายใช้ระเบิดแบบท่อวางตามแนวขอบเซฟบรรจุธนบัตร ก่อนจุดระเบิด แล้วงัดซ้ำ ฉกเงินหลักล้าน คาดประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เป็นน้ำมือกลุ่มขบวนการ ระดมทุนซื้ออาวุธป่วนต่อ
จากเหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM 7 จุด รวมกับวางวัตถุต้องสงสัย และเผายางรถยนต์อีก 2 จุด รวมเป็น 9 จุด เมื่อช่วงดึกของวันที่ 31 ส.ค.68 ต่อเนื่องถึงเช้ามืดวันที่ 1 ก.ย. ซึ่งคาดกันว่าเป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันสถาปนาขบวนการเบอร์ซาตู ซึ่งในปีก่อนๆ ก็เคยเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น
อ่านประกอบ : บึ้มป่วน 5 อำเภอนราธิวาส รับวันชาติมาเลย์ - สถาปนาเบอร์ซาตู
อ่านประกอบ : ป่วนรับ 36 ปีเบอร์ซาตู บึ้มตู้ ATM หวังชิงเงิน!
พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบก.สส.จชต.) เปิดเผยว่า คนร้ายมุ่งเป้าประสงค์ต่อทรัพย์ เพื่อทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางหลักนิติวิทยาศาสตร์
“เชื่อว่าเป็นกลุ่มขบวนการมีความประสงค์ต่อทรัพย์อย่างชัดเจน เป็นลักษณะของการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการ วางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ก่อเหตุในเวลาเดียวกันทั้ง 3 จังหวัด ใช้ระเบิดที่ออกแบบเพื่อทำลายตู้ ATM ลักษณะเป็นท่อวิ่งตามขอบของเซฟบรรจุธนบุตรของตู้ ATM ทุกตู้ โดยใช้รีโมตในการจุดระเบิด จากนั้นกลุ่มคนร้ายมีความพยายามงัดแงะฝาเซฟ เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ หวังทำลายระบบเศรษฐกิจ ส่วนจะเป็นกลุ่มใหม่หรือกลุ่มเก่า ขอใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และกำลังเร่งติดตามกลุ่มขบวนการที่ก่อเหตุในครั้งนี้”
@@ ตู้ ATM ดุซงญอ - ปูยุด กล่องใส่เงินล่องหน

สำหรับเหตุลอบวางระเบิดตู้ ATM รอบนี้ เกิดขึ้น 7 จุด แบ่งเป็น จ.นราธิวาส 4 จุด ยะลา 2 จุด และปัตตานี 1 จุด ได้แก่
ตู้ ATM ธ.ก.ส. สาขาบาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย บริเวณตลาดบ้านดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
ตู้ ATM ธ.ก.ส. บริเวณหน้า อบต.ตะมะยูง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
ตู้ ATM ธ.ก.ส.บริเวณหน้าร้านโรสบิ้วตี้ซ็อป อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย แยกบันนังดามา อ.กาบัง จ.ยะลา
ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาบ้านบุดี อ.เมือง จ.ยะลา
ตู้ ATM ธนาคารอิสลาม สาขาปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี
โดยคนร้ายสามารถนำเอากล่องใส่เงินของตู้ ATM ไปได้ 2 จุด คือ ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ตลาดบ้านดุซงญอ อ.จะแนะและ ตู้ ATM ธนาคารอิสลาม สาขาปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งกล่องใส่เงินในตู้จำนวน 3 กล่องหายไป คาดว่าเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังพบพฤติกรรมของคนร้ายวางระเบิดและงัดเซฟใส่ธนบัตร ที่ตู้ ATM ในปั๊มน้ำมัน ปตท.บุดี บ้านกำปงบือแน ต.บุดี อ.เมืองยะลา ด้วย แต่นำเซฟไปไม่สำเร็จ
สำหรับตู้ ATM โดยทั่วไปจะมีกล่องใส่เงินจำนวน 4 ตลับ แต่ละตลับจะใส่ธนบัตรได้ประมาณ 2,200 – 2,500 ฉบับ ขึ้นอยู่กับธนาคารและชนิดของตู้ ATM โดยในกล่องใส่เงินจะใส่ธนบัตรมูลค่า 100 บาท, 500 บาท และ 1,000 บาท ส่วนจำนวนเงินภายในกล่องใส่เงิน 1 ตลับ จะมีมูลค่าเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับธนบัตรที่ใส่ และขนาดบรรจุของกล่องใส่เงิน รวมถึงการกำหนดปริมาณเงินของธนาคารเจ้าของตู้ ATM
@@ คาดขโมยเงินตู้ ATM ไว้เป็นทุนซื้ออาวุธ

เจ้าหน้าที่อีโอดี และกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุระเบิดตู้ ATM ตลาดดุซงญอ อ.จะแนะ พบคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก และประกอบใส่ไว้ในแป๊ปเหล็กทรงกลม จำนวน 2 ลูก น้ำหนักดินระเบิดลูกละประมาณ 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยรีโมท นำไปตั้งไว้ที่บริเวณแท่นพิมพ์รหัสของตู้ ATM หลังจากเกิดระเบิดแล้วคนร้ายได้งัดกล่องเงินสดไปด้วย ส่วนมูลค่าความเสียหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของธนาคาร
เบื้องต้นฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ในวันครบรอบก่อตั้งขบวนการเบอร์ซาตู ซึ่งตรงกับวันชาติของมาเลเซีย 31 ส.ค. ขณะที่เงินสดที่ถูกขโมยไปคาดว่าจะถูกนำไปใช้เป็นทุนสนับสนุนการจัดหาอาวุธและการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ โดยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของ นายมูฮัมหมัดซากีมิง สาแม สมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่แฝงตัวอยู่ใน อ.จะแนะ
@@ “ปล้นตู้ ATM” ยุทธวิธีใหม่ ระดมทุน หาเงินทุนก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่จากหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่ เผยข้อมูลเชิงลึกถึงการปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบล่าสุดว่า เหตุการณ์ปล้นเงินจากตู้ ATM ของธนาคารอิสลาม คนร้ายได้เงินสดไปกว่า 900,000 บาท และเงินในร้านเครื่องสำอางบริเวณเดียวกันอีกกว่า 10,000 บาท ซึ่งการก่อเหตุดังกล่าวไม่ใช่เหตุการณ์ฉกฉวยทั่วไป แต่เป็นยุทธวิธีใหม่เพื่อระดมทุนสนับสนุนการก่อเหตุ คล้ายๆ กับเหตุปล้นเงินกว่าล้านบาท จากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาปาลัส เมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 ซึ่งเงินที่ได้จากการปล้นจะถูกนำไปใช้เป็นทุนในการซื้ออาวุธ ยานพาหนะ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อก่อเหตุร้ายในพื้นที่
“จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มค้ายาเสพติด โดยผู้ก่อเหตุหลักคือกลุ่มของ นายมะกอเซ็ง หม้าแอ ซึ่งมีประวัติเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดบิ๊กซีปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.60 และหลบหนีการจับกุมอยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 คน เบื้องต้นพบว่า มีหมายจับติดตัวและเคยก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่มาแล้ว” แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรอง ระบุ
@@ เผากล้องวงจรปิด สัญญาณเตือนเหตุรุนแรง

เจ้าหน้าที่รายเดิมยังเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจถึงความเชื่อมโยงของเหตุระเบิดตู้ ATM เพื่อปล้นเงิน กับเหตุการณ์ทำลายกล้องวงจรปิดในช่วงวันที่ 10-24 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยบอกว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางเพลิงและทำลายกล้องในพื้นที่ อ.ยะรัง, อ.มายอ, อ.ยะหริ่ง และ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รวม 16 ตัว ได้รับความเสียหายทั้งหมด
“การทำลายกล้องวงจรปิดถือเป็นยุทธวิธีสำคัญของกลุ่มคนร้าย เพื่อตัดระบบการควบคุมและการติดตามของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการแสดงศักยภาพเชิงสัญลักษณ์ของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงรุ่นใหม่ และเป็นการเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการก่อเหตุร้ายในอนาคต การกระทำลักษณะนี้เป็นการบ่งชี้ถึงการวางแผนที่ซับซ้อน ไม่ใช่เพียงการก่อกวนทั่วไป แต่เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าถึงเหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา”
@@ ปล้นเงินมาใช้ก่อเหตุ ไม่ผิดอุดมการณ์

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นายหนึ่ง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่มขบวนการในยุคปัจจุบันมีวิธีคิดต่างไปจากเดิม โดยการหาเงินเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการด้วยวิธีการปล้น ไม่ได้ถูกมองว่าผิดอุดมการณ์อีกต่อไป แต่เป็นเพียงวิธีการใหม่ที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของกลุ่มขบวนการเพื่อให้สามารถอยู่รอดและปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่
“การปฏิบัติการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน ทั้งการปล้นเงินและการทำลายระบบกล้องวงจรปิด เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าระวังและจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า กลุ่มขบวนการยังคงมีความเคลื่อนไหวและพร้อมที่จะก่อเหตุร้ายในทุกเมื่อที่โอกาสเอื้ออำนวย” แหล่งข่าวจากฝ่ายตำรวจ ระบุ
