ภารกิจการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย นายกฯยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดทั้งวัน ขณะที่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นเลยตลอดเวลาที่ผู้นำหญิงอยู่ในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ มีเหตุรุนแรงขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์
ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้สังเกตการณ์จากหลากหลายแวดวงเห็นตรงกันว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเชื่อว่ากันว่าปี 2568 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจากความร่วมมือกันอย่างแข็งขันของรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย อย่างแทบไม่เคยปรากฏมาก่อน
โดยเฉพาะการไปเยี่ยมโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ที่ จ.ยะลา ถือเป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวกอย่างมากต่อผู้คนที่นั่น โดยเฉพาะกลุ่มปัญญาชน
@@ มิติใหม่...ใช้การศึกษานำการทหาร
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และความมั่นคง ให้ความเห็นว่า การไปเยี่ยมโรงเรียนธรรมวิทยาฯ เพื่อเน้นนโยบายด้านการพัฒนาโอกาสของเยาวชนในด้านการศึกษา สังคม และวัฒนธรรม ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะจากผู้นำรัฐบาลที่ไม่ค่อยได้ไปที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่คนในพื้นที่ทราบกันดีว่าหลายๆ โรงเรียน ทั้งเอกชนและของรัฐในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่แอบแฝงเพื่อบ่มเพาะแนวความคิดรุนแรงแบบสุดโต่งของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนบางกลุ่ม และมีการชักจูงให้เยาวชนเข้าร่วมขบวนการก่อความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
“หากรัฐบาลจะขอความร่วมมือให้ผู้บริหารและนักเรียนของโรงเรียนซึ่งมีศักยภาพสูง ให้ช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเหล่านั้นเข้าไปใช้พื้นที่การศึกษาของโรงเรียนในการเคลื่อนไหวหรือบ่มเพาะ ก็ช่วยกันป้องกันการสร้างแนวร่วมของขบวนการและสกัดกั้นการแสวงหาสมาชิกใหม่ๆ ได้มากทีเดียว”
รศ.ดร.ปณิธาน บอกด้วยว่า การที่นายกฯไปที่โรงเรียนธรรมวิทยาฯ ยังเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยปัญหาด้านความมั่นคงและความรู้สึกของพี่น้องที่นั่นอย่างชัดเจน
@@ เกมพ่อ...ส่งไม้ต่อลูกสาว
นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ นักวิชาการอิสระ และอดีตประธานสภาประชาสังคมชายแดนภาคใต้ มองว่า บทบาทของนายกฯแพทองธาร และอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เป็นการเดินเกมทางการเมืองครั้งสำคัญ เนื่องจากดร.ทักษิณ ไปพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อเร็วๆนี้ และ ดร.ทักษิณ ได้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวนายกฯอันวาร์ เกมนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่อย่างยิ่ง เพราะในสายตาฝ่ายความมั่นคงรู้ดีว่า มาเลเซียเป็นที่พักพิงสำคัญของ BRN และ BRN ก็เป็นฐานเสียงระดับหนึ่งให้กับผู้นำและพรรคการเมืองในมาเลเซีย การเปิดฉากพูดคุยในทางลับกับมาเลเซีย จึงถูกต้องและสอดคล้องกับภูมิทัศน์ทางการเมืองอย่างยิ่ง
“การที่นายกฯลงพื้นที่ไปพบปะกับผู้นำศาสนา ผู้นำภาคประชาสังคมในพื้นที่ โดยเฉพาะการไปเยือนโรงเรียนธรรมวิทยาฯ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะโรงเรียนธรรมวิทยาฯ เป็นสถานที่กำเนิดของนักต่อสู้ และเป็นหัวใจของอุดมการณ์เอกราชปาตานี เป็นแหล่งผลิตบุคลากรระดับนำมายาวนานเกือบจะทุกยุคทุกสมัย”
“เท่าที่ได้ติดตามภารกิจของนายกฯ พบว่ามีการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน ของบุคคลระดับนโยบายของรัฐบาลกับผู้นำศาสนา ผู้นำภาคประชาสังคมในพื้นที่ หากรัฐบาลเอาจริง โอกาสที่จะแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้อาจได้ผล” อาจารย์ประสิทธิ์ ระบุ
@@ หนุนลงพื้นที่ โอกาสดีรับฟังปัญหาโดยตรง
ดร.อันวาร์ กอมะ อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) กล่าวว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ตัวนายกฯ เองจะได้เห็น ได้รับฟัง และสัมผัสคนในพื้นที่โดยตรง แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาที่สั้นมากก็ตาม
ส่วน นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการที่นายกฯลงพื้นที่ น่าจะมาจากการที่อดีตนายกฯทักษิณได้พบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม และการที่นายกฯลงไปเยี่ยมและหารือปัญหาชายแดนใต้ที่โรงเรียนธรรมวิทยาฯ ถือเป็นการเริ่มต้นในการรับฟังปัญหาด้วยตนเอง และเป็นสัญญาณเชิงบวก
“คนที่ติดตามสถานการณ์ภาคใต้จะทราบว่า โรงเรียนธรรมวิทยาฯ ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบมาโดยตลอด และที่ผ่านมาทั้งนักเรียน ครู รวมถึงบุคลากรของโรงเรียนก็เคยถูกจับกุม ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนไม่น้อย จึงขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
@@ แนะรัฐ “จริงจัง จริงใจ” สันติวิธีหยุดไฟใต้ได้จริง
ขณะที่สมาชิก BRN ที่พำนักในพื้นที่ชายแดนใต้รายหนึ่ง กล่าวว่า ทุกอย่างคือการเมืองของรัฐบาล แต่ก็ถือว่าดีที่ลงไปที่โรงเรียนธรรมวิทยาฯ ส่วนตัวอยากเห็นนโยบายที่เกี่ยวกับแก้ปัญหาและการพัฒนาภาคใต้ที่ชัดเจนกว่านี้ ก็ยังมีความหวังและเห็นอยู่ว่ารัฐมีความพยายามที่จะแก้ปัญหา คนในขบวนการเองก็มีความหวังว่าปัญหาจะจบลงได้ด้วยสันติวิธี
ส่วนจะต้องทำอะไรบ้าง รัฐบาลก็รู้อยู่แล้ว แค่ใช้ความจริงใจ ใช้ความจริงจังในการทำ ก็จะสามารถยุติปัญหาได้
@@ เปิดมหกรรมแก้หนี้ - เยือน รร.ธรรมฯ กลางสายฝน
สำหรับการลงพื้นที่ของนายกฯแพทองธาร ตรงกับวันครู วันที่ 16 ม.ค. โดยมีรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงร่วมคณะ ได้แก่
- นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม
- พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
- พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.)
- พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
- นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม
เดิมกำหนดการนายกฯ จะลงพื้นที่ครบทั้ง 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี แต่ระหว่างเดินทางโดยเครื่องบิน พ.ต.อ.ทวี รายงานว่าปัตตานีฝนตกหนัก ไม่เหมาะกับการเดินทาง จึงยกเลิกกำหนดการเฉพาะที่ปัตตานี
ความเคลื่อนไหวและภารกิจสำคัญของนายกฯ สรุปได้ดังนี้
- ซ้อมคำทักทายพี่น้องในพื้นที่เป็นภาษามลายู โดยมี พ.ต.อ.ทวี ช่วยติวเข้มบนเครื่องบิน
- เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” โดยกระทรวงยุติธรรม ตามคำเชิญของ พ.ต.อ.ทวี ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส พบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน เน้นเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. โดยใช้ AI ไม่ต้องเดินทาง หรือมอบอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยรับเรื่องแทน กยศ.
- เร่งรัดติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก และโครงการรถไฟทางคู่ หาดใหญ่ - สุไหงโก-ลก โดยโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานจะเริ่มได้กลางปีนี้ และเปิดใช้ได้ในปี 2570
- เยี่ยมโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา มีนักเรียนกว่า 5,000 คนรอต้อนรับท่ามกลางสายฝน