เปิดรับสมัครเลือกตั้ง “นายก อบจ.- ส.อบจ.” ชายแดนใต้คึกคัก อดีตนายกทั้ง 3 จังหวัดลงป้องกันแชมป์อีกสมัย ขณะที่ผู้ท้าชิงมีทั้งอดีต สส. และคนของพรรคการเมืองใหญ่แห่ลงสนาม ส่วนสงขลาวันแรกได้เบอร์แล้ว 5 คน
วันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.67 วันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( ส.อบจ.) ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23-27 ธ.ค.67 และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.68 ซึ่งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ก็เป็น 4 จังหวัดที่มีการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. ในวันดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากไม่มีนายก อบจ.คนใดลาออกก่อนครบวาระเหมือนพื้นที่อื่นๆ
จ.ยะลา ที่ห้องประชุมศรีญาลอ อบจ.ยะลา สถานที่รับสมัคร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แต่ละทีมมีกองเชียร์ไปร่วมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เดินทางไปสมัครลงเลือกตั้งในตำแหน่ง นายก อบจ.ยะลา จำนวน 2 คน
คนแรกคือ นายมุขตาร์ มะทา อดีต นายก อบจ.ยะลา ได้หมายเลข 1 มีกองเชียร์จากพื้นที่ อ.เมืองยะลา และจากพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัด แห่นำดอกไม้มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
นายมุขตาร์ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง กล่าวว่า มั่นใจในการเลือกตั้ง อบจ.ยะลา ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ 68 ว่าได้ครองพื้นที่ได้อีกสมัย เพราะประชาชนยังให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
สิ่งแรกที่จะทำให้กับประชาชนหลังได้มาเป็น นายก.อบจ.ยะลา คือสานต่อนโยบายเดิม สร้างศาลาดูดวงจันทร์ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นแลนด์มาร์คทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้พี่น้องมุสลิมในแถบนี้ไม่เฉพาะในไทย ได้ใช้ดูดวงจันทร์ประกอบพิธีถือศีลอดและวันรายอ พร้อมๆ กับการพัฒนาตลาดเกษตรที่ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา เป็นศูนย์กลางรับซื้อผลไม้ทุกฤดูกาล ให้เท่าเทียมกับตลาดผลไม้ในจังหวัดอื่นๆ
ส่วนคนที่ 2 ที่ยื่นใบสมัครในวันเดียวกัน คือ นายอับดุลลาเตะ ยากัด อดีตผู้ลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ยะลา และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 จ.ยะลา เมื่อปี 2544
@@ “อับดุลบาซิม” อดีต สส.ภูมิใจไทย ท้าชน “นายกเศรษฐ์”
ส่วนที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักเช่นเดียวกัน มีว่าที่ผู้สมัคร ทั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. เดินทางไปรอกันตั้งแต่ช่วงเช้า ท่ามกลางกองเชียร์จำนวนมากที่เดินทางไปให้กำลังใจ
ในตำแหน่งนายก อบจ.ปัตตานี มีผู้เดินทางมาสมัคร 2 คน คือ นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี อดีตนายก อบจ.ปัตตานี ซึ่งเป็นแชมป์เก่าหลายสมัย และนายอับดุลบาซิม อาบู อดีต สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคภูมิใจไทย
เนื่องจากทั้งคู่ได้เดินทางมารอสมัครก่อนเวลา 08.30 น. ทำให้ต้องมีการจับฉลากหมายเลข ผลปรากฏว่า นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี ได้หมายเลข 1 ส่วนนายอับดุลบาซิม อาบู ได้หมายเลข 2 ซึ่งการลงสู้ในสนาม อบจ.ครั้งนี้ของทั้งสองคน ถือว่าเป็นคู่ที่สูสีกันมาก ทั้งในด้านประสบการณ์ทางการเมือง และทั้งคู่ยังเป็นที่รู้จักของประชาชน จ.ปัตตานีเป็นอย่างดี
นายเศรษฐ กล่าวว่า ต้องการสานต่อนโยบายที่ตนมีความตั้งใจอยากจะทำให้ชาวปัตตานีอีกจำนวนมาก และพร้อมรับใช้ประชาชนชาวปัตตานีต่อไป ส่วนในเรื่องคดีของทาง ป.ป.ช.นั้น ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่ในวันนี้ตนยังมีสิทธิตามกฎหมายในการลงเลือกตั้ง
ขณะที่ นายอับดุลบาซิม กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนของพี่น้องปัตตานี จะใช้ประสบการณ์ในการเมืองท้องถิ่น และการเป็น สส.เพื่อเปลี่ยนปัตตานีเพื่อประชาชน จากจังหวัดที่ยากจนที่สุด ให้ลืมตาอ้าปากได้ จึงตั้งใจในการแก้ปัญหาปากท้อง รวมถึงด้านการกีฬา วันนี้ปัตตานีมีปัญหามาก แต่ขาดการดูแล จึงอาสาเข้ามาเพื่อพัฒนาให้ปัตตานีดีกว่าเดิม
ในขณะที่บรรยากาศของผู้สมัคร ส.อบจ. ก็คึกคักไม่แพ้กัน มีบรรดาผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เดินทางเข้ายื่นใบสมัครอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า มีกลุ่มผู้สมัคร ส.อบจ.หน้าใหม่ๆ และเป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาสมัครเป็นจำนวนมาก
สำหรับในพื้นที่ จ.ปัตตานี มีเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.ปัตตานี ทั้งสิ้น 30 เขต มีสมาชิกได้เขตละ 1 คน คือ อ.เมืองปัตตานี 5 เขต, อ.ยะรัง อ.ยะหริ่ง อำเภอละ 4 เขต, อ.โคกโพธิ์ อ.สายบุรี อ.หนองจิก อำเภอละ 3 เขต, อ.ปะนาเระ อ.มายอ อำเภอละ 2 เขต ส่วน อ.กะพ้อ อ.แม่ลาน อ.ทุ่งยางแดง และไม้แก่น อำเภอละ 1 เขต
@@ “กูเซ็ง” ขนลูกทีม 30 คน ชิง อบจ.นราธิวาส
ส่วนบรรยากาศที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ภายในศาลากลางจังหวัดนราธิวาสหลังเก่า ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส เป็นไปด้วยความคึกคัก มีว่าที่ผู้สมัครเป็นนายก อบจ.และ ส.อบจ.นราธิวาส พร้อมกองเชียร์และผู้สนับสนุนจำนงนมากแห่มาให้กำลังใจ
ในส่วนของผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส รายแรกที่เดินทางมาลงสมัครตั้งแต่ช่วงเช้าคือ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ. 5 สมัย ที่ได้หมายเลขผู้สมัครหมายเลข 1 ไปครอง โดยได้เดินทางไปพร้อมผู้สมัคร ส.อบจ.ในทีมอีก 30 คน ลงสมัครทั้ง 30 เขตของ จ.นราธิวาส โดยมีหัวคะแนนและประชาชนผู้สนับสนุนกว่า 1,000 คนเดินทางมาให้กำลัง มอบดอกไม้และชูป้าย พร้อมเดินรณรงค์ไปกับรถหาเสียงอีก 10 คันที่ติดป้ายและรูปภาพพร้อมหาเสียงได้ทันที
ส่วนช่วงบ่ายก่อนที่จะปิดรับสมัครในวันแรก มีผู้เดินทางเข้าสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.นราธิวาส อีก 1 คน คือ นายอับดุลลักษณ์ สะอิ นักธุรกิจก่อสร้างอันดับต้นๆ ของ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ ดร.ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจาก นายนัจมุดดีน อูมา ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอดีต สส.นราธิวาสหลายสมัย
โดย นายอับดุลลักษณ์ ใช้ชื่อ “ทีมเปลี่ยน” แต่ไม่มีผู้สมัคร ส.อบจ.มาลงสมัครด้วยแต่อย่างใด
มีรายงานว่า สนามเลือกตั้ง อบจ.นราธิวาส ยังมีว่าที่ผู้สมัครอีก 1 คนที่มีข่าวว่าจะลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.ด้วย แต่ยังไม่เดินทางมาสมัคร คือ นายไพซอล อาแว นายกเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก 3 พี่น้องภายใต้ทีมกล้าทำ คือ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3, นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคกล้าธรรม และ นายสกุลศักดิ์ มะดาโอ๊ะ อดีตนายกเทศบาลตำบลปาเสมัส ซึ่งในวันนี้ ทั้ง 3 ได้นำผู้สมัครเป็น ส.อบจ.นราธิวาส จำนวน 6 คน มาลงสมัคร 6 เขต
@@ สงขลาแรง! วันแรกโผล่สมัครนายก อบจ. 5 ราย
บรรยากาศวันแรกของการรับสมัครนายก อบจ.สงขลา และ ส.อบจ.สงขลา ที่ห้องประชุมศรีเกียรติพัฒน์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นไปอย่างคึกคักสุดขีด เพราะมีบรรดากองเชียร์และผู้สนับสนุนมารอให้กำลังใจผู้สมัครจนล้นห้อง
ช่วงเช้าก่อนเวลาเปิดรับสมัคร 08.30 น. มีผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลาเดินทางมารอยื่นใบสมัคร 3 คน โดยผลการจับฉลากหมายเลข ปรากฎว่า น.ส.อภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัครอิสระ ได้หมายเลข 1, นายนิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน ได้หมายเลข 2 และ นายประสงค์ บริรักษ์ หรือ “นายกแบน” ทีมสงขลาเข้มแข็ง ได้หมายเลข 3
ส่วนในช่วงบ่ายมีผู้มาสมัคร นายก อบจ.สงขลาอีก 2 คน คือ นางดวงพร เสนาวัลย์ ผู้สมัครอิสระ ได้หมายเลข 4 และนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ทีมสงขลาพลังใหม่ ได้หมายเลข 5
ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังมีการซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากนี้จะเชิญผู้สมัครมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในวันที่ 7 ม.ค.68
สำหรับ จ.สงขลา มีเขตการเลือกตั้ง ส.อบจ. 36 เขตเลือกตั้ง มีหน่วยการเลือกตั้ง 1,823 หน่วยใน 16 อำเภอ