ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมโยธา – นักธรณีวิทยา ใช้เทคโนโลยี LiDAR ตรวจสอบพื้นที่ดินสไลด์อาคารสำนักงานเทศบาลเบตง พร้อมวางแนวป้องกันในการรื้อดินและซ่อมแซมอาคาร ด้านกรมราชทัณฑ์ยังเดินหน้านำผู้ต้องขังชั้นดีร่วมกับจิตอาสา ออกช่วย ซ่อมแซม จยย. – เครื่องใช้ไฟฟ้าและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย
วันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค.67 นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมด้วย รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและรากฐาน ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ผศ.ดร.ธนันท์ ชุปอุปการ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยพิบัติธรรมชาติภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, นายจิรศักดิ์ เจริญมิตร นักธรณีวิทยาชำนาญการพิเศษ สำนักทรัพยากรธรณี และทีมงาน ได้เข้าตรวจสอบอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา และบริเวณลานจอดรถที่เกิดดินสไลด์ลงมาจากภูเขาจนได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยได้ทำการสำรวจพื้นที่และเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ศึกษาร่วมกับข้อมูลจากการถ่ายภาพด้วย LiDAR (เทคโนโลยีสำรวจระยะไกลด้วยแสงเลเซอร์) พร้อมวางแผนและหาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมจากสภาพปัจจุบัน
การตรวจสอบในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงโดยตรวจสอบทุกจุดของตัวอาคารที่มีข้อสงสัยอย่างละเอียด และตรวจสอบบริเวณรอบอาคาร บริเวณลานจอดรถ รวมถึงด้านบนที่เกิดดินสไลด์ และแนวป่าที่ดินสไลด์ลงมา ก่อนที่จะวางแผนทำการรื้อกองดินที่สไลด์ออกไป และหาทางป้องกันระหว่างรื้อดินออก รวมถึงการป้องกันในระยะยาว เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และไม่ให้มีผลกระทบต่อตัวอาคาร
จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ตัวโครงสร้างอาคารยังคงมั่นคงแข็งแรง ส่วนที่เสียหายมีเพียงเล็กน้อย มีเพียงกำแพง เสา 2 ต้น ด้านล่างห้องที่รถกระบะไหลเข้าไปชน ซึ่งก็ไม่น่าห่วง เพราะตัวอาคารมีขนาดใหญ่ และจากการตรวจดูความเสียหาย ก็ไม่ได้ถึงขั้นเสาหัก เหล็กโผล่ออกมา
แต่เพื่อความไม่ประมาท ในระหว่างทำการรื้อกองดินที่ลานจอดรถออก ก็ให้วางแนวทำกำแพงป้องกันไปด้วยพร้อมๆ กัน เพื่อกันดินที่อาจจะสไลด์ลงมาเพิ่ม และจะติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดการสั่นของตัวอาคารเป็นระยะๆ ในช่วงดำเนินการรื้อและการก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัย
ในเบื้องต้นได้ให้ทำการขุดทางระบายน้ำออก เพื่อให้น้ำที่ขังอยู่หลายจุดในป่าด้านหลังลานจอดรถระบายออกไปให้หมด จะได้ไม่เป็นการไปเพิ่มน้ำหนักของดินที่กดทับตัวอาคาร
ในส่วนด้านบนที่ดินสไลด์ลงมา และมีถนนคอนกรีตตัดผ่านไปยังบ้านพักเจ้าหน้าที่ พนักงานเทศบาลเมืองเบตง ก็ให้รถสัญจรได้เพียง 1 ช่องจราจร และไม่ให้รถที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมากวิ่งผ่าน ในส่วนอาคารบ้านพักด้านบน ไม่มีผลกระทบ แต่ก็ได้หาทางในการก่อสร้างแนวป้องกันระยะยาวไว้แล้ว
ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไปก็จะดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้มีการวางแผนเอาไว้ ซึ่งก็จะติดตั้งเครื่องมือตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ และตรวจสอบทุกระยะในการก่อสร้าง การรื้อกองดิน การซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหายต่างๆ เพื่อความไม่ประมาท และเพื่อความปลอดภัยของตัวอาคาร ตลอดจนผู้ที่ปฏิบัติงานต่างๆ ด้วย
@@ นำจิตอาสาร่วมกับผู้ต้องขังชั้นดี ซ่อม จยย. – เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ชาวตากใบ
วันเดียวกัน ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส, รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, นายกูฮาลิ่ม อูเซ็ง นายก อบต.เกาะสะท้อน เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และกลุ่มจิตอาสา ร่วมกันสนับสนุนอุปกรณ์ในการซ่อมรถจักรยานยนต์ของพี่น้องประชาชนที้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย
อีกทั้งยังมีการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งพัดลม เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้าอีกจำนวนมาก โดยมีนักโทษชั้นดีจากเรือนจำนราธิวาสร่วมบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 7-13 ธ.ค.67 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย
@@ ผู้ต้องขังชั้นดีเรือนจำกลางยะลา ช่วยฟื้นฟูโรงเรียนหลังน้ำลด
ส่วนที่เรือนจำกลางจังหวัดยะลา พ.ต.อ. ทวี ได้สั่งการให้เรือนจำกลางยะลานำผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งหญิงและชาย กว่า 70 คน ทำความดีเพื่อสังคม ช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลด ที่บริเวณโรงเรียนเทศบาล 5 บ้านตลาดเก่า และชุมชนใกล้โรงเรียน โดยเฉพาะการเก็บกวาดขยะ ทำความสะอาดล้างถนน เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้วันจันทร์ที่ 9 ธ.ค.
นายศรชัย ตลาสุข ผู้บัญชาการเรือนจำลางยะลา กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้มอบนโยบายให้นำน้องๆ ผู้ต้องราชทัณฑ์ชั้นดี เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีแผนฟื้นฟูเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้กลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เป็นกลุ่มแรงงาน และมีความรู้ด้านช่างเทคนิค ซึ่งทางเรือนจำกลางยะลาได้คัดน้องๆ ผู้ต้องราชทัณฑ์ชั้นดีทั้งสิ้น 73 คน ไว้ออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. จนถึงวันนี้ก็ยังดำเนินการอยู่
“สำหรับสิทธิประโยชน์ของน้องๆ ทางเรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ก็จะดูด้านสวัสดิการต่างๆ ตามระเบียบที่กำหนดไว้ให้กับน้องๆ และก็เป็นข่าวดีของน้องๆ กลุ่มนี้ หากไม่มีงานทำภายหลังพ้นโทษ ทางเทศบาลก็จะรับเข้าทำงาน เพื่อเป็นการช่วยเหลือน้องๆ ผู้ต้องราชทัณฑ์อีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก” ผบ.เรือนจำกลางยะลา กล่าว
@@ เครือข่ายมุสลิมเบตงมอบถุงยังชีพพี่น้องไทยพุทธ อ.รามัน
วันเดียวกันนี้ เครือข่ายองค์กรมุสลิมอำเภอเบตง เดินทางไปมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร น้ำดื่ม อาหารแห้ง ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมชุมชนชาวไทยพุทธ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบอุทกภัย
ด้านชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เล่าว่า น้ำท่วมสูงในหลายหมู่บ้าน ทำให้การสัญจรต้องใช้เรือเท่านั้น อีกทั้งไฟฟ้ายังถูกตัด สัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ก็ใช้ได้เพียงครั้งคราว ส่วนเรื่องอาหารการกิน แม้มีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปแจกอาหารอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เพียงพอครบทุกมื้อ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณเครือข่ายองค์กรมุสลิมอำเภอเบตงที่เดินทางมาแจกถุงยังชีพให้ชาวบ้าน