เสือโคร่งโผล่! บุกธารโตกินลิงชาวบ้าน กล้องดักถ่ายภาพเป็นหลักฐานชัด ระดมตั้งเวรยามดูแลความปลอดภัยประชาชนหลายหมู่บ้านเส้นทางเสือผ่าน ส่วนที่เบตง ฝนถล่มซัดสะพานขาด ดินสไลด์ น้ำทะลักท่วม
จากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ บล.1 (บ้านวังไทร) ได้รับแจ้งจากกำนันและชาวบ้านบ้านปะเด็ง หมู่ 4 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ว่าพบรอยเท้าคล้ายรอยเท้าเสือที่บริเวณสวนทุเรียน จึงได้แจ้งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติบางลาง
จากนั้นมีการประสานเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสารักษาดินแดนอำเภอธารโต (อส.ธารโต) และ ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) บ้านปะเด็ง ร่วมกันออกตรวจสอบรอยเท้าเสือนั้น
ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พบรอยเท้าเสือจริงตามที่รับแจ้ง วัดขนาดรอยเท้าได้ กว้าง 10.5 เซนติเมตร ยาว 12 เซนติเมตร
ต่อมาวันที่ 7 พ.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ บล.1 (บ้านวังไทร) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนวันที่ 6 พ.ย. ได้ยินเสียงคล้ายสัตว์ตัวใหญ่บุกทำร้ายลิงที่เลี้ยงไว้ และผูกไว้ที่ต้นไม้ พอรุ่งเช้าออกมาดู ปรากฏว่าลิงที่ผูกไว้หายไป จำนวน 1 ตัว และพบรอยเล็บคล้ายกับเล็บเสือที่ต้นไม้
หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย อส.ธารโต สารวัตรใหญ่ สภ.แม่หวาด ผู้ใหญ่บ้าน และชุด ชรบ.บ้านวังไทร หมู่ 12 ต.แม่หวาด ได้ร่วมกันออกติดตามร่องรอย กระทั่งพบซากลิงที่เหลือ และได้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง (ส่วนกลาง) ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์บริเวณที่พบซากลิง
กระทั่งวันที่ 11 พ.ย. เจ้าหน้าที่ชุดเดิมเข้าไปตรวจสอบกล้องที่ติดตั้งไว้ พบภาพเสือโคร่งกำลังกินซากลิงที่พบก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าน่าจะเป็นเสือโคร่งตัวเดียวกับที่พบรอยเท้าที่บ้านปะเด็ง หมู่ 4 ต.แม่หวาด เพราะหมู่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้านอยู่ติดกัน และเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับชายขอบป่าฮาลา–บาลา (ฝั่ง จ.ยะลา)
สำหรับภาพเสือโคร่งตัวดังกล่าวเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลางจะนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบต่อไป และได้ประสานเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี เพื่อจะได้วางแผนในการติดตามและผลักดันให้กลับคืนสู่ป่าโดยเร็ว
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้ร่วมกันตั้งชุดเวรยามรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน และติดตามร่องรอยเสือโคร่ง จนกว่าจะแน่ใจว่า ได้กลับคืนสู่ป่าฮาลา–บาลา แล้ว จึงจะถอนกำลัง
@@ ฝนถล่มเบตง สะพานขาด-ดินสไลด์
ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งอยู่ติดกับ อ.ธารโต ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้สะพานบ้านจันทรัตน์ ซึ่งอยู่บริเวณหลัง สภ.ยะรม อ.เบตง เส้นทางไปอ่างเก็บน้ำยะรม ได้รับความเสียหาย ถูกน้ำป่าไหลหลากจนทำให้สะพานทรุดพังลง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่รอยต่อ หมู่ 4 และ หมู่ 6 ต.ยะรม รวมกว่า 151 ครัวเรือน ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และแทบจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ต่อมา นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย พร้อมเร่งประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และให้ดำเนินการก่อสร้างสะพานชั่วคราวให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ยะรม (องค์การบริหารส่วนตำบลยะรม) และชุด อส.ชคต.ยะรม (ชุดคุ้มครองตำบลยะรม) ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาในพื้นที่ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุดินสไลด์ บริเวณซอยโรงอิฐเก่า หมู่ 1 ต.ยะรม ด้วย
@@ น้ำล้นตลิ่งทะลักท่วมบ้านเรือนริมคลอง
วันเดียวกัน นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมให้การช่วยเหลือชาวบ้านชุมชนกุนุงจนอง เนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ริมคลองชุมชนกุนุงจนอง จนเกิดความเสียหาย
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 26 หลัง เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำความสะอาด ช่วยเหลือและฟื้นฟูให้กลับสู่ภาวะปกติ และติดตามเรื่องการเยียวยาตามกฎหมายเป็นลำดับต่อไป