เหตุการณ์ลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณหน้าแฟลตที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ สภ.บันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่จบ
โดยเฉพาะเมื่อปรากฏว่า พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ได้ลงนามในคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าที่ 82/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทนที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จำนวน 6 ราย
ข่าวที่ออกมาตอนแรก มีการไปพาดหัวข่าวว่า “เด้ง 6 ตำรวจบันนังสตาเซ่นคาร์บอมบ์”
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะมีการย้ายตำรวจบันนังสตา พื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ แค่ 3 คน ส่วนอีก 3 คน เป็นการย้ายตำรวจจากท้องที่อื่น ตำแหน่งอื่น เข้าไปรักษาราชการแทน
อ่านประกอบ : เด้งตำรวจบันนังสตาเซ่นคาร์บอมบ์
ตำรวจบันนังสตา 3 นายที่ถูกย้าย คือ ผู้กำกับการ (ผกก.) รองผู้กำกับการ งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม หรือ รอง ผกก.ป. และ สารวัตรปราบปราม หรือ สวป.
กล่าวสำหรับ รอง ผกก.ป. กับ สวป. ซึ่งย้ายไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า เรียกว่า “เด้งเข้ากรุ” จริงๆ
ส่วน ผกก.สภ.บันนังสตา คือ พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ปรากฏว่ามีการย้ายให้ไปรักษาราชการแทน ผู้กำกับการ กองบังคับการสืบสวน ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผกก.บก.สส.จชต.)
ตำแหน่งนี้มีการวิจารณ์ว่า “ไม่ใช่ย้ายเข้ากรุ” แต่เหมือน “ย้ายไปได้ดี” เพราะย้ายจากหน่วยระดับกองกำกับการ ไปหน่วยระดับกองบังคับการ และมีหน้างานสืบสวนทั่วทั้งพื้นที่ชายแดนใต้ จึงเหมือนได้โบนัสหลังมีคาร์บอมบ์ มากกว่าถูกลงโทษ
“ทีมข่าวอิศรา” สอบถามเรื่องนี้ไปยัง ผบช.ภ.9 ได้รับคำอธิบายว่า “เป็นการย้ายระนาบ (หมายถึงย้ายตำแหน่งระดับเดียวกัน) ให้ไปทำงานที่ถนัด เหมาะสมกับเจ้าตัวมากขึ้น”
ด้านนายตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่นายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การย้ายแบบนี้ถือว่าเป็นการย้ายให้ไปทำงานส่วนกลาง ได้ทำหน้าที่ที่ดีขึ้น เหมือนเป็นการย้ายในสายงานแบบปกติ ไม่น่าใช่การสั่งย้ายเพื่อลงโทษ โดยเฉพาะการสั่งย้ายเพราะเกิดคาร์บอมบ์