ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งตำรวจและทหาร ลงพื้นที่เกิดเหตุ “คาร์บอมบ์บันนังสตา” แทบตลอดทั้งวัน พร้อมกำชับมาตรการคุมเข้ม และความจำเป็นของการมี “ด่านตรวจ” เพื่อดูแลประชาชน
วันจันทร์ที่ 1 ก.ค.67 หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์หน้าแฟลตตำรวจ ใกล้ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เพียง 1 วัน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปที่โรงพยาบาลบันนังสตา เพื่อเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ ซึ่งยังมีพักรักษาตัวอยู่หลายราย เช่น นายรอมือลี เจ๊ะสนิ อายุ 64 ปี และ น.ส.น้ำอ้อย เตะเหมทอง อายุ 36 ปี พร้อมบุตรชาย ด.ช.อนาวิล สุนทรกิจ อายุเพียง 9 เดือน
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางต่อไปยังบ้านตันหยง หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ นางสาวรอกีเย๊าะห์ สะระนะ อายุ 45 ปี ครูตาดีกาที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัว
พล.ท.ศานติ กล่าวว่า การก่อเหตุทั้งแบบคาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์ เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเมื่อเกิดเหตุจะนำมาซึ่งความสูญเสียกับทุกสิ่งเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ฉะนั้นการดูแลพื้นที่จะต้องเข้มข้น
“ยืนยันด่านความมั่นคงทุกด่านยังมีความจำเป็นและต้องคุมเข้มตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะเข้าออกพื้นที่ สร้างพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยในทุกมิติให้ดีที่สุด ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนเป็นด่านให้สามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งบทเรียนที่เกิดขึ้นให้นำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสร้างรอยยิ้ม สร้างความเชื่อมั่น นำความสงบสุขคืนสู่พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้” แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ
วันเดียวกัน นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา เข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของนางสาวรอกีเย๊าะ พร้อมแจ้งว่าทางจังหวัดยะลาจะมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวน 500,000 บาท โดยจะดำเนินการมอบให้แก่ทายาท จำนวน 4 ราย ได้แก่ สามี และบุตรอีก 3 คน พร้อมสิทธิอื่นๆ ที่ควรจะได้รับตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในเรื่องของสิทธิด้านการศึกษาของบุตรทั้ง 3 คน ซึ่งจะดำเนินจนจบปริญญาตรี
ที่ สภ.บันนังสตา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่โรงพัก เพื่อตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บถึง 34 ราย โดย ผบ.ตร.ได้ตรวจจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพัก พร้อมร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดี
“เหตุที่เกิดขึ้นเรามีแผนอยู่แล้ว เป็นแผนของแต่ละหน่วย และพื้นที่แต่ละพื้นที่ทางกายภาพไม่เหมือนกัน ในวันเกิดเหตุมีวีไอพีมาด้วย รถที่มาก่อเหตุเป็นช่องว่างอย่างหนึ่ง เป็นของหน่วยราชการ ส่วนแนวทางการสืบสวน คืบหน้าไปได้เยอะแล้ว อีกไม่นานน่าจะรู้ตัวผู้กระทำความผิด” ผบ.ตร.ระบุ