สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้กลับมาสงบเรียบร้อยพอสมควร แตกต่างจากห้วงเวลาที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ “ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา” ได้นำเสนอบทวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาไฟใต้ที่กลับมาร้อนแรง โดยมีการอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงที่มองว่า สาเหตุที่สถานการณ์กลับมารุนแรง สืบเนื่องจากการแสดงบทบาทของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่นัดหารืออย่างไม่เป็นทางการกับผู้นำมาเลเซียที่จังหวัดภูเก็ต เมื่ือปลายเดือนเมษายน
คล้ายคลึงกับที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งในอดีต และเกิดเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ตามมาอย่างมีความเชื่อมโยง
และการส่งสัญญาณผิดของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เรื่องการคงบทบาทในภารกิจดับไฟใต้ หลังปี 2570 ซึ่งกองทัพมีแผน “ถอนทหารหลัก” ออกจากพื้นที่ทั้งหมด แล้วส่งมอบภารกิจการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ให้กับ “กองกำลังอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือ กองกำลัง อส.จชต. ซึ่งเป็นกองกำลังพลเรือน ปฏิบัติหน้าที่ประจำชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต. แต่ปรากฏว่าระยะหลังถูกลอบโจมตีบ่อยครั้ง จนอาจต้องปรับแผนการถอนทหารออกไป
ล่าสุด “ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา” ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับอดีตนายกฯทักษิณ และเคยปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานความมั่นคง ให้ข้อมูลในทางตรงกันข้ามกับที่สำนักข่าวนำเสนอว่า สถานการณ์ไฟใต้ที่ร้อนแรงขึ้น จริงๆ แล้วเป็นไปตามปัจจัยและวงรอบปกติของพื้นที่ โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการนัดพูดคุยสันติสุข ซึ่งมักจะมีกลุ่มขบวนการที่คัดค้านการพูดคุย ออกมาแสดงพลัง แสดงศักยภาพด้วยการก่อเหตุรุนแรงอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับบทบาทของอดีตนายกฯ
@@ ฝ่ายมั่นคงหนุน “ทักษิณ” ใช้ “การทูตทางข้าง”
ส่วนการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ พบปะกับผู้นำมาเลเซียเพื่อหารือถึงปัญหาภาคใต้นั้น แหล่งข่าวคนเดิม ยืนยันว่า ไม่ได้ส่งผลลบกับสถานการณ์ แต่กลับส่งผลบวกด้วยซ้ำ ถือเป็น “การทูตทางข้าง” ที่ไม่ได้ล้ำเส้นการทำงานของหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด และเหตุการณ์รุนแรงในอดีตต่างๆ ก็ไม่เกี่ยวเป็นผลจากเรื่องนี้ เพราะผู้ก่อเหตุรุนแรงมีเจตจำนงในการสร้างสถานการณ์อยู่แล้ว และการแก้ไขปัญหา จำเป็นต้องให้ทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกัน
เช่นเดียวกับคำสัมภาษณ์ของนายกฯเศรษฐา ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ และประเมินสถานการณ์ ยังไม่ได้ออกเป็นนโยบายจริงๆ คำสัมภาษณ์ว่าจะคงบทบาททหารเอาไว้ จึงไม่ได้ส่งผลกับเหตุการณ์ในพื้นที่แบบทันที ตามที่มีเสียงวิจารณ์
@@ “บิ๊กแป๊ะ” ชูคอนเนคชั่น “อดีตนายกฯ” ช่วยดับไฟใต้
สอดคล้องกับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม หนึ่งในฮีโร่ที่อยู่เบื้องหลังการประสานงานนำตัว “แป้ง นาโหนด” กลับประเทศไทย บอกกับ “ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา” ว่า สิ่งที่อดีตนายกฯทำ เป็นเรื่องถูกต้อง เพราะกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ขัดแย้งทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ต้องใช้กลไกหลายระดับ ไม่ใช่แค่คณะพูดคุยเจรจา แต่ผู้นำประเทศ หรือผู้นำโลกที่มีบารมี มักจะมีบทบาทด้วยเสมอ
สำหรับอดีตนายกฯทักษิณ ถือเป็นผู้นำระดับภูมิภาค มีคอนเนคชั่นมาก นายกฯมาเลเซียคนปัจจุบันก็เป็นเพื่อนกับท่าน จึงเป็นเรื่องดีที่อดีตนายกฯนัดพูดคุยนอกรอบกับผู้นำมาเลเซีย เท่ากับเป็นการช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นด้วยซ้ำ
พล.อ.นิพัทธ์ ยังบอกด้วยว่า ข่าวลบๆ ที่ออกมา น่าจะมาจากกลุ่มคนที่เสียประโยชน์มากกว่า เพราะต้องไม่ลืมว่า มีพวกหากินกับความขัดแย้งและความรุนแรงเสมอ
อนึ่ง สำหรับ พล.อ.นิพัทธ์ ถือเป็นตัวอย่างการใช้คอนเนคชั่นแก้ปัญหาให้ประเทศ เพราะมีความสัมพันธ์ดีเยี่ยมกับอินโดนีเซีย เคยไปร่วมในกระบวนการปลดอาวุธ และสร้างสันติภาพที่อาเจะห์ จนอินโดนีเซียมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงให้ และมีสายสัมพันธ์แนบแน่นเรื่อยมา กระทั่งสามารถใช้ความสัมพันธ์นั้น ประสานงานจับกุม เสี่ยแป้ง นาโหนด โดยไม่ต้องทำหนังสือขอความร่วมมืออย่างเป็นทางการแม้แต่ฉบับเดียว