ร่วมส่งผู้แสวงบุญฮัจย์จากชายแดนใต้ชุดแรก 290 คน ขึ้นเครื่องบินเที่ยวแรกจากหาดใหญ่เหินฟ้าสู่เมืองมาดีนะห์ เผยตัวเลขผู้ลงทะเบียนทั่วประเทศกว่า 7,000 ราย ด้านสาธารณสุขส่งแพทย์ 3 ทีม 42 ชีวิต ตามดูแลสุขภาพฮุจญาจถึงซาอุฯ
วันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ค.67 ที่อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ผู้แสวงบุญจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 290 คน ได้ขนสัมภาระเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย
โดยพี่น้องมุสลิมกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกและเที่ยวบินแรกสำหรับเทศกาลฮัจย์ ประจำปี 2567 เป็นเที่ยวบิน TG 8800 สายการบินไทย ออกเดินทางเวลา 10.10 น. จากต้นทางท่าอากาศยานหาดใหญ่ ปลายทางท่าอากาศยานเมืองมาดีนะห์
โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าฯ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และหัวหน้าส่วนราชการร่วมอวยพร ส่งฮุจญาจขึ้นเครื่อง
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมส่งประชาชนชายแดนใต้ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ วันนี้เป็นวันแรกและเที่ยวบินแรก ในนามของรัฐบาล ศอ.บต. และจังหวัดให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จึงจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือและบริการทั้งที่ประเทศไทยและประเทศซาอุดิอาระเบีย ตลอดระยะเวลาของการประกอบพิธีฮัจย์ โดยรัฐมีเป้าหมายให้ประชาชนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างสะดวกราบรื่นและสมบูรณ์ที่สุด
สำหรับผู้ลงทะเบียนไปประกอบพิธีฮัจย์ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2567 มีจำนวนทั้งหมด 7,738 คน แยกเป็น จ.ปัตตานี 1,566 คน จ.ยะลา 1,136 คน จ.สงขลา 990 คน จ.นราธิวาส 954 คน กรุงเทพฯ 935 คน ที่เหลือเป็นจังหวัดอื่นๆ
ส่วนเที่ยวบินฮัจย์จากท่าอากาศยานหาดใหญ่ที่รองรับการเดินทางไปแสวงบุญ มีทั้งหมด 28 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาไป 14 เที่ยวบิน ในเดือน พ.ค. และเที่ยวบินขากลับ 14 เที่ยวบิน ในเดือน ก.ค.
@@ สธ.ส่งแพทย์ 3 ทีม 42 ชีวิตดูแลผู้แสวงบุญถึงซาอุฯ
นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย เดินทางไปดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2567 (ฮ.ศ.1445) โดยชุดแรก 15 คนได้ออกเดินทางไปแล้ว
“กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้เดินทางตั้งแต่ก่อนเดินทาง โดยคัดกรองความเสี่ยง ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น และโรคไข้หวัดใหญ่ ให้กับผู้แสวงบุญทุกคนล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน ตามที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียกำหนด พร้อมออกเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนด้วย”
นพ.มณเฑียร กล่าวอีกว่า ในช่วงที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมพำนักที่ซาอุดิอาระเบียเพื่อประกอบพิธีฮัจย์ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไปให้การดูแลสุขภาพ ประกอบด้วย แพทย์ 10 คน เภสัชกร 4 คน พยาบาลวิชาชีพ 24 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 4 คน รวม 42 คน โดยเปิดให้บริการที่สำนักงานแพทย์ 2 แห่ง คือ เมืองเมกกะ และเมืองมะดีนะห์ ทั้งยังมีทีมแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการดูแลสุขภาพที่ทุ่งอาราฟะห์ และเมืองมีนา รวมทั้งที่พักที่อยู่ห่างไกลจากสำนักงานแพทย์ด้วย
“หลังจากผู้แสวงบุญเดินทางกลับถึงประเทศไทย หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จะมีการติดตามเฝ้าระวังสุขภาพต่อเนื่องอีก 14 วัน ซึ่งการดูแลสุขภาพทั้งหมดนั้นดำเนินงานภายใต้กรอบแนวคิด HEALTH FOR HAJJ” นพ.มณเฑียร กล่าว