ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการปรับคณะรัฐมนตรี ล่าสุดหลายสื่อเริ่มเสนอตรงกัน เป็นการคอมเฟิร์มว่าจะมีการปรับ ครม.เกิดขึ้นแน่ และน่าจะปรับเร็ว มีความชัดเจนหลังวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้อย่างแน่นอน
จากการตรวจสอบข้อมูลไปยังคนใกล้ชิดของ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งการให้สัมภาษณ์แทบทุกครั้ง ยังคงปฏิเสธ และแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องปรับ ครม.อยู่ ทั้งๆ ที่มีความเคลื่อนไหวจากหลายๆ ส่วนคึกคักเป็นอย่างมาก
คนใกล้ชิดนายกฯเศรษฐา บอกว่า นายกฯไม่ได้ปัด หรือปฏิเสธเรื่องปรับ ครม. แต่จำเป็นต้องให้สัมภาษณ์กลางๆ เพื่อลดแรงกดดัน เนื่องจากขณะนี้กลุ่มรัฐมนตรีทีมีชื่ออยู่ในโผถูกปรับออก โทรศัพท์หานายกฯ เพื่อพูดคุย กดดัน และขอความชัดเจนแทบจะตลอดเวลา
@@ เพื่อไทยขอคุมคลังเบ็ดเสร็จ ดันแจกเงินหมื่น!
สำหรับโผปรับ ครมในส่วนของพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างลงตัวเกือบหมดแล้ว และเป็นการปรับใหญ่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ
เริ่มจากกระทรวงการคลัง พรรคเพื่อไทยแจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ขอคุมกระทรวงการคลังทั้งกระทรวง โดยให้ นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ขณะเดียวกันก็ตั้ง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ซึ่งอยู่เบื้องหลังขับเคลื่อนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เข้าไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่อ ให้สามารถแจกเงินหมื่นได้สำเร็จภายในปลายปีนี้ตามที่ประกาศไว้
ส่วน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หรือ “รมต.หนิม” ที่เคยมีข่าวย้ายจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปอยู่ตำแหน่งอื่น เช่น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ล่าสุดยังได้อยู่ตำแหน่งเดิมต่อไป เพราะที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนงานได้ดี และมีบทบาทในการชี้แจงงานของกระทรวงการคลังต่อสื่อมวลชน และต่อที่ประชุมสภา
ฉะนั้นการวางตัว “รมต.หนิม” เอาไว้ ถือว่าสามารถช่วยงานการเมืองให้กับ นายพิชัย และนายเผ่าภูมิ ได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับนายกฯเศรษฐา ซึ่งเดิมควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่นั้น จะเปลี่ยนกระทรวงควบ ไปควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแทน
@@ “บิ๊กทิน” หมดโปรฯ - “บิ๊กเล็ก” ผงาด
สาเหตุที่นายกฯเศรษฐา ต้องขยับไปควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะ “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน มีปัญหาการบริหารงานในกระทรวง โดยเฉพาะบทบาทของคนใกล้ชิด ทำให้ “บิ๊กทิน” หมดโปรฯ ได้เป็นรัฐมนตรีแค่เพียงราวๆ 7 เดือน และต้องข้ามห้วยไปทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ (งานสภา) แทน ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ตัวล่วงหน้านานแล้ว จึงไม่ได้ยื่นลาออกจาก สส. เหมือนรัฐมนตรี “สายแข็ง” คนอื่นๆ
การควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของนายกฯเศรษฐา ยังเป็นเรื่องของเกียรติประวัติด้วย เพราะถือว่าเป็นนายกฯพลเรือนอีกคนหนึ่งที่ได้เป็น “เจ้ากระทรวงกลาโหม” เช่นเดียวกับ หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช, นายชวน หลีกภัย, นายสมัคร สุนทรเวช, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นอกจากนั้น นายกฯเศรษฐา ยังทำงานเข้าขากับผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งยังแสดงท่าทีเข้าอกเข้าใจกองทัพ และร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี ให้เกียรติกองทัพและทหาร ทั้งยังไม่ยุบหรือลดบทบาทหน่วยงาน เช่น กอ.รมน.ตามกระแสเรียกร้องของบางฝ่ายอีกด้วย
ขณะเดียวกันยังประสานงานกับ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีตเลขาธิการ สมช. อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก อยู่ตลอด
มีรายงานว่า เมื่อนายกฯเศรษฐา ไปนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ต้องมีรัฐมนตรีช่วย เพื่อเป็นมือเป็นไม้ทำงานธุรการและภาคปฏิบัติต่างๆ แทน ซึ่งก็ได้วางตัว “บิ๊กเล็ก” เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ด้วย
@@ “มหาดีล” ยังเดินต่อ?
การปรากฏชื่อ ”บิ๊กเล็ก” เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม สื่อนัยเชิงลึกทางการเมืองหลายอย่าง เพราะ
หนึ่ง “บิ๊กเล็ก” เป็น “น้องรัก” ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยในรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ ได้มอบหมายงานสำคัญให้ “บิ๊กเล็ก” มากมาย โดยเฉพาะการรับมือโควิด-19 (เป็นรองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 คือเป็นรอง “บิ๊กตู่” ในภารกิจปราบโควิด โดยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นเครื่องมือนั่นเอง)
สอง “บิ๊กเล็ก” เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.20 ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง ที่ว่ากันว่าเป็นตัวจักรสำคัญใน “ดีลลับลังกาวี”
ฉะนั้นการปรากฏร่างเงาของ “บิ๊กเล็ก” ในครม.เศรษฐา 2 ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็สื่อนัยทางการเมืองได้ว่า “มหาดีล” ยังคงมีอยู่ และยังไม่มีการ “หักดีล”
@@ สลับ รมต.ท่องเที่ยว - วัฒนธรรม
อีกด้านหนึ่งยังมีข่าวการสลับกระทรวงระหว่าง “รมต.ปุ๋ง” สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ “รมต.เสริมศักดิ์” เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แม้ระยะหลัง “รมต.ปุ๋ง” จะโชว์ผลงานได้ดีขึ้นมากก็ตาม
ส่วนอีกคนหนึ่งที่มีข่าวสลับตำแหน่ง คือ นายจักรพงษ์ แสงมณี จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขยับไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายจักรพงษ์ เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย และมีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์
@@ “หมอชลน่าน” ถูกโยกทำงานสภา - “สมศักดิ์” ลุ้นเสียบ
สำหรับตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการ” อีกรายหนึ่งที่มีข่าว “หลุดเก้าอี้” ไปเลย นอกจาก “บิ๊กทิน” ก็คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีปัญหาคล้ายๆ กับ “บิ๊กทิน” คือปัญหาคนใกล้ชิดเข้าไปมีบทบาทในการบริหารงานกระทรวง จึงมีข่าวถูกโยกไปช่วยงานสภาเช่นเดียวกับ “บิ๊กทิน”
ทั้งยังถือว่าตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา การดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการ” เป็นการตอบแทนผลงานการเดินเกมการเมืองช่วงที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ “ล้มดีล” ตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลไปพอสมควรแล้ว
ส่วนคนที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่แทน มีข่าวว่าคือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขยับเปิดทางให้เก้าอี้รองนายกฯว่าง ให้นายพิชัย เป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ
@@ พปชร. - รทสช. ฝุ่นตลบ ขยับขุนพล
โควต้ารัฐมนตรีในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล คาดว่าจะมีการปรับอีก 2 พรรค คือ
พลังประชารัฐ - ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ว่าง 1 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการว่างอยู่เดิม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ยังคงสนับสนุน นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ให้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วย ตามดีลเดิม
และมีแนวโน้มให้นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นมือไม้ในกระทรวงเกษตรฯแทน เพราะรัฐมนตรีช่วยอีก 2 คน จาก 2 พรรค คือ นายไชยา พรหมา จากพรรคเพื่อไทย และ นายอนุชา นาคาศัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำงานไม่เข้าขากัน แถมมีปัญหาขัดแย้งกันตลอด
แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค สนับสนุน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต สส.สิงห์บุรี หรือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้ท้าชิงด้วย
พรรครวมไทยสร้างชาติ - ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยน่าจะว่าง 2 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ซึ่งน่าจะหลุดโผไปเลย และ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ “รัฐมนตรีโลกลืม”
สำหรับขุนพลที่มีข่าวมานั่งแทน ยังช่วงชิงกันระหว่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น หรือ “รัฐมนตรีเฮ้ง” หัวหน้าซุ้มภาคกลาง-ตะวันออก ของพรรค, ตัวแทนกลุ่ม สส.สุราษฎร์, ตัวแทนกลุ่ม สส.ชุมพร และ “ดร.แด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ ที่เคยเป็นขุนพลข้างกาย “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ล่าสุด มีข่าวว่า ปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้ หลังจากหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลนัดหารือรัฐมนตรีที่อยู่ในเป้าหมายต้องปรับตำแหน่ง ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย และส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการปรับรัฐมนตรีในโควต้าด้วย