กอ.รมน.แถลงเหตุทหารพรานระแงะเหยียบกับระเบิด ที่แท้บาดเจ็บ 2 นาย แต่อาการปลอดภัยแล้ว เปิดรายงานยึดของกลางเพียบ หลังทลายเพิงพักบนภูเขา กระสุนปืนสงคราม ระเบิดขึ้นรูปครบ
จากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส (นปพ.ร่วม จ.นราธิวาส) สนธิกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 และหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา เปิดแผนปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนและพิสูจน์ทราบแหล่งพักพิงผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่บ้านโต๊ะอีแต ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแหล่งหลบซ่อนพักพิงของผู้ก่อเหตุรุนแรง มีกำลังพลพลาดเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.ต.ต.ธีรชัย กิ้มตั้น ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา บริเวณน่อง และ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) เจ๊ะมาฮาดี แจะแล ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าขวา ถูกนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปัจจุบันอาการปลอดภัยนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด มีการรายงานผลการตรวจแหล่งหลบซ่อนพักพิงของผู้ก่อเหตุรุนแรง พบวัตถุพยาน จำนวน 7 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 จุดเกิดเหตุระเบิดแบบเหยียบ หลุมระเบิดกว้าง 52 เซนติเมตร ลึก 15 เซนติเมตร, สายไฟ, รอยเลือด, ภาชนะบรรจุกล่องเหล็ก, แก็ปจุดระเบิด
จุดที่ 2 ก้นใบจาก, ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ขวดน้ำอัดลม, ไฟแช็คสีม่วง, รองเท้าแตะแบบหนีบสีดำ
จุดที่ 3 ก้นใบจาก, ขวดพลาสติก, กระปุกพลาสติกภายในมีมีดแบบพับสีเขียว, แผงตากปลา, ก้นบุหรี่
จุดที่ 4 เชือกผ้าร่ม, สายเชือก, ก้นใบจาก
จุดที่ 5 ขวดน้ำ, กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน, หมวกกาปีเยาะสีดำ
จุดที่ 6 ถุงดำ, ขวดน้ำพลาสติก, ไฟแช็คสีน้ำเงิน
จุดที่ 7 กระเป๋าเป้ 5 ใบ, เปล 5 ผืน, ผ้าใบสีเขียว, ผ้าใบสีลายพราง, สายไฟ, สมุดปากกา, ถุงดำ, กระสอบสีขาว, ผ้าพันคอสีดำแถบเหลือง, รองเท้าแตะสีเขียว, เสื้อผ้า, ถุงเท้าสีดำ, กางเกงใน, เชือก, สบู่, เตาแก๊สปิคนิค, แก๊สกระป๋อง, อุปกรณ์ดำรงชีพ, ข้าวสาร, อาหารแห้ง, เปล, เชือก, แบตเตอรี่สำรอง, ไฟแช็ค, ช้อนจาน, ถ้วย, หม้อ เครื่องปรุง, น้ำมัน, เข็มขัดสนาม 2 เส้น พร้อมกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 33 นัด และ กระสุนปืน ขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 1 นัด, ระเบิดขึ้นรูป จำนวน 1 ลูก
ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนแจ้งเบาะหากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ พร้อมเตือนประชาชนให้ทราบว่า หากผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยการนำพาซ่อนเร้น ให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามกฎหมายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
@@ อีโอดีเร่งเคลียร์จุดบึ้มคลังเก็บวัตถุพยาน
ความคืบหน้าเหตุคลังเก็บวัตถุพยาน กองกำกับการเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (บก.สส.จชต.) ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านบูเกะคละ ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เกิดระเบิดขึ้นช่วงสายของวันอังคารที่ 26 มี.ค.67 จนทำให้อาคารได้รับความเสียหาย เกิดเพลิงไหม้ แต่ไม่มีผู้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น
วันพุธที่ 27 มี.ค.67 มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ ภายในศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน เนื่องจากยังเป็นพื้นที่เสี่ยงมีระเบิดที่ยังรอการทำลาย ส่วนเส้นทางเข้า-ออก สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติ
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (รอง ผบช.ภ.9) ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ เยี่ยมเยียนพบปะประชาชนในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อสร้างความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
@@ รองผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ชี้แจงชาวบ้าน
พล.ต.ต.อาชาน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่อาคารเก็บวัตถุพยาน ด้วยความห่วงใยจาก พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 มีเจตนารมณ์ที่จะมาเสริมสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่า มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และมามอบสิ่งของในช่วงเดือนรอมฎอนด้วย พบว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่โดยรอบเข้าใจดี
“จุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อีโอดีกำลังตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของพื้นที่ หากมีวัตถุพยานใดที่อันตรายและตกค้างอยู่ก็จะต้องมีการทำลาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองก็ได้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทราบแล้ว” รองผบช.ภ.9 ระบุ และว่าความเสียหายหลักๆ เป็นในส่วนของอาคาร สำหรับของกลาง มีเสียหายบางส่วน จะตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป
ด้านชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ บอกว่า แถวนี้ (ละแวกใกล้ศูนย์ฝึกยุทธวิธี) มีบ้านเรือนประชาชนประมาณ 40 หลัง ปกติแล้วชาวบ้านเคยได้ยินเสียงระเบิดอยู่แล้วเป็นประจำ แต่เป็นแบบเล็กๆ น้อย ๆ ที่มีการฝึก แต่เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ดังมากกว่าปกติ จึงตกใจมาก แต่ทางตำรวจก็ได้รีบแจ้งชาวบ้านทราบ โดยให้ชาวบ้านอยู่แต่ภายในบ้านเพื่อความปลอดภัย คิดว่าเกิดเหตุเพราะอากาศร้อน และเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ