ประเดิมแล้ว 3 เหตุรุนแรงชายแดนใต้ นับจากปีใหม่ก่อนถึงวันครบรอบ 20 ปีปล้นปืน 4 ม.ค. ทั้งซุ่มยิงทหาร อส. และเผารถจักรยานยนต์ เบื้องต้นยังไม่สรุปเป็นเหตุความมั่นคงทั้งหมดหรือไม่
เช้าวันพุธที่ 3 ม.ค.67 พ.ต.ท.รัชกฤต พรหมศิลา สารวัตรสอบสวน สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต ในท้องที่บ้านตือกอ หมู่ 7 ต.จะแนะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการ สภ.จะแนะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ในที่เกิดเหตุพบหลักฐานและวัตถุพยานตกอยู่ 3 จุด
จุดแรก บริเวณรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ป้ายทะเบียน บฉ 2838 นราธิวาส ซึ่งจอดอยู่ริมถนน หน้าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านตือกอ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ตกอยู่บนถนนท้ายรถกระบะ จำนวน 3 ปลอก
จุดที่ 2 บริเวณถนนข้างบ้าน ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนชนิดและขนาดเดียวกันอีก 3 ปลอก ตกอยู่บนถนน
และจุดที่ 3 เป็นบ้านของชาวบ้านอีกหลังหนึ่ง ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 200 เมตร ภายในบ้านซึ่งเป็นห้องโถง เจ้าหน้าที่พบกองเลือด และปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ตกอยู่อีก 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ถูกยิงทราบชื่อ นายสมเกียรติ หน่อสกุล อายุ 43 ปี เป็นเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ที่ศีรษะ ลำตัว และแขนซ้าย รวม 3 นัด เพื่อนบ้านและพลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลจะแนะ แต่ไม่ทัน เสียชีวิตระหว่างทาง
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมเกียรติ ได้ขับรถกระบะออกจากบ้านของตนเอง ไปยังบ้านอดีตภรรยาที่ได้หย่าร้างกันไปแล้ว ซึ่งก็คือบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรับลูกไปส่งที่โรงเรียน โดยระหว่างที่นายสมเกียรติ รอลูกอยู่นั้น ได้ยืนเช็ดรถอยู่ริมถนนหน้าบ้าน
จังหวะนั้นเองมีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขี่โฉบเข้ามา เมื่อได้จังหวะ คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ออกมายิงใส่นายสมเกียรติ 3 นัด กระสุนถูกบริเวณแขนซ้าย
หลังจากถูกยิง นายสมเกียรติ ได้วิ่งหลบหนีไปตามถนนข้างบ้านของอดีตภรรยา และได้เคาะประตูบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่ง แต่ชาวบ้านไม่เปิด คนร้ายจึงวิ่งไล่ตามและยิงใส่นายสมเกียรติอีก 3 นัดแต่ไม่ถูก นายสมเกียรติจึงได้วิ่งเข้าไปในบ้านของชาวบ้านอีกหลัง ซึ่งเปิดประตูอยู่ เพื่อเข้าไปซ่อนตัว แต่คนร้ายได้วิ่งตามเข้าไปพบ จึงใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีก 3 นัดที่บริเวณศีรษะ จนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นคนร้ายได้วิ่งออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ก่อนขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องยนต์รออยู่ ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ด้วยการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะในวาระใกล้จะครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ปล้นปืน 4 ม.ค.2547
@@ เผา จยย.บนสะพานในยะหริ่ง
ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 1 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจาก นายมะสูดิง มะเซง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านบาโลย ต.บาโลย อ.ยะหริ่ง ว่ามีเหตุเผารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 บริเวณสะพานแห่งหนึ่ง ช่วงรอยต่อบ้านยือริง กับ ต.บาโลย
ผู้ใหญ่บ้านได้พาลูกบ้านช่วยกันดับไฟ พร้อมปิดกั้นเส้นทางไม่ให้มีการสัญจรผ่านไป-มา เพื่อความปลอดภัย และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการเผารถจักรยานยนต์เช่นกัน
@@ เปิดชื่อ 2 ทหารพราน ชป.ป่าภูเขา ถูกลอบยิง
ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 1 ม.ค.เช่นกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่กำลังพลชุดปฏิบัติการป่าภูเขา (ชป.ป่าภูเขา) ขณะสนับสนุนภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ เหตุเกิดในโรงเรียนบ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วรฤทธิ์ เกลี้ยงส่ง กับ อส.ทพ.เอกณรงค์ ลำพันธ์ สังกัดกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานกองหนุน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47
โดยเหตุการณ์ยิง ชป.ป่าภูเขา นับเป็นเหตุรุนแรงเหตุแรกของปี 2567 เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามสร้างสถานการณ์ในวาระ 20 ปีปล้นปืน