แม่ทัพภาค 4 ตั้งคณะทำงานลุยพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ลักลอบตัดไม้บน “เกาะใหญ่” กลางทะเลสาบฮาลา-บาลา ป.ป.ช.ยะลานำทีม พบไม้มีค่า-ไม้หวงห้ามถูกตัดโค่นด้วยเลื่อยยนต์เพียบ สั่งหน่วยพิทักษ์อุทยานบางลางฯ ตรวจความเสียหายอย่างละเอียด พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ - พ.ร.บ.อุทยานฯ
ความคืบหน้ากรณีการลักลอบตัดไม้ แผ้วถางป่า บนพื้นที่ “เกาะใหญ่” กลางทะเลสาบฮาลา-บาลา ท้องที่บ้านสันติ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ตามที่ประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนให้ “ทีมข่าวอิศรา” ช่วยตรวจสอบ เพราะสงสัยว่าอาจอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ และภาพการแผ้วถางป่า ทำลายภาพลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ของป่าฮาลา-บาลา
ต่อมาปรากฏว่าทางอุทยานแห่งชาติบางลางได้มีหนังสือชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติจริง แต่อยู่ในกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ดินราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ และทับซ้อนกับนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จ.ยะลา หรือ “นิคมกือลอง” นั้น
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 26 ธ.ค.66 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาค 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้คณะเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยะลา, กอ.รมน.ภาค 4, ฉก.ยะลา, กอ.รมน.จ.ยะลา, ฉก.ตชด.44, ฝ่ายปกครอง, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี, อุทยานแห่งชาติบางลาง, นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ และทีมงาน “สตรอง” สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดยะลา จัดประชุมหารือ ที่ห้องประชุมเขื่อนบางลาง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้แผ้วถางป่าในพื้นที่เกาะใหญ่ โดยมี นายนพพร บุญโชติตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุม
บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียดจริงจัง โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ได้รายงานผลการตรวจสอบการแผ้วถางป่าในเบื้องต้นว่า อยู่ในพื้นที่เขื่อนบางลาง และอยู่ในแปลงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งอยู่ระหว่างรอกฎหมายลูกออกมารองรับ และทับซ้อนกับพื้นที่นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา (นิคมกือลอง)
ตรวจสอบพบการแผ้วถางป่าในพื้นที่บนเกาะใหญ่ จำนวน 47 ไร่ 4 ตารางวา และมีการแจ้งถือครองที่ดินเกาะ ของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้จังหวัดยะลา (นิคมกือลอง) ด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่นิคมกือลอง ชี้แจงว่า ได้เคยให้ประชาชนถือครองที่ดิน แต่มีการเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของการครอบครองเป็นคนอื่น ไม่ใช่เจ้าของเดิม ซึ่งผิดระเบียบที่ดินที่มีการครอบครอง ซึ่งจะมอบให้ผู้อื่นได้ต้องมอบโดยทางมรดกเท่านั้น และที่ดินที่ถูกตัดไม้แผ้วถางป่าแปลงดังกล่าว ไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน เช่น นส.3 หรือ โฉนด แต่อย่างใด
หลังรับฟังคำชี้แจง ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยะลา จึงขอลงพื้นที่ตรวจดูป่าไม้ที่ถูกทำลายเสียหาย จำนวน 47 ไร่ 4 ตารางวา ว่าเป็นสวนยางพาราที่ทำกินของประชาชนต่อเนื่อง หรือเป็นพื้นที่ป่า และมีการตัดไม้ขนาดใหญ่ ตัดไม้หวงห้าม ไม้มีค่า ตามที่เป็นข่าวหรือไม่
ทางคณะจึงเดินทางโดยเรือลาดตระเวนของ ฉก.ตชด.44 จำนวน 4 ลำ ไปตามทะเลสาบฮาลา-บาลา ในเขื่อนบางลาง จนไปถึงเกาะใหญ่กลางทะเลสาบ มองเห็นพื้นที่เกาะถูกกลุ่มบุคคลตัดไม้ แผ้วถางป่าจำนวน 2 แปลง แปลงเล็กมองเห็นลักษณะเป็นสวนยางพาราที่ประชาชนทำกินมานานจนถึงปัจจุบัน ส่วนแปลงใหญ่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง ชี้แจงว่า เป็นสวนยางพาราเก่า
จากการตรวจสอบพบการแผ้วถางป่าตั้งแต่ริมน้ำ ขึ้นไปบนภูเขาบนเกาะใหญ่ ลักษณะพื้นที่มีต้นยางพาราเก่าที่ปลูกมานานแล้วบ้างประปราย ลักษณะพื้นที่ต้นยางพาราถูกทิ้งร้างมานาน จนมีต้นไม้ป่าขึ้นใหม่เป็นป่ารก มีการแผ้วถางต้นยางพาราบ้าง และไม้ป่าชนิดและขนาดต่างๆ ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ล้มคาตอจำนวนมาก ไม้ขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า
ในพื้นที่บนภูเขาบนเกาะบริเวณใกล้กลางแปลงป่าไม้ถึงแนวภูเขาสูงบางส่วนที่ถูกตัดไม้ แผ้วถางป่าใหม่ พบต้นไม้มีค่า ไม้หวงห้าม ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ล้มคาตอจำนวนมาก เช่น ไม้พญาสัตบรรณ ไม้จวง ไม้ตะเคียน ไม้ก่อ ไม้ขนุนปาน ไม้เอาะ ไม้ยวน ไม้แดงเขา และอีกหลายชนิด
ตรวจที่ตอไม้ หน้าตัดของไม้ทุกท่อนที่ถูกตัด ไม่พบรอยรูปดวงตราของเจ้าพนักงานป่าไม้ตีประทับแต่อย่างใด ส่วนไม้ขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกตัดฟัน แผ้วถางด้วยมีดพร้า สภาพตอนกลางของแปลงถึงยอดเขา สภาพเป็นป่าไม้สมบูรณ์มากที่ถูกตัดโค่น แผ้วถางป่าใหม่ และสภาพป่าไม้ข้างเคียงแปลงที่ถูกแผ้วถางมีสภาพเป็นป่าไม้ที่กำลังเติบโตสมบูรณ์มาก จึงเชื่อว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
นายนพพร และคณะเจ้าหน้าที่ทีมตรวจสอบได้ลงความเห็นว่า การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าบนเกาะใหญ่แปลงนี้ ผู้ที่ตัดไม้ แผ้วถางป่าใหม่ เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย ในเบื้องต้น คือ
1.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 และ 54
2.พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 16
พร้อมได้แจ้งให้ นายอายุ มูแว เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานบางลางที่ บล.2 (ฮาลาซะ) ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตรวจสอบไม้หวงห้ามที่ถูกตัด คิดคำนวณปริมาตรไม้ ค่าเสียหายไม้ และค่าเสียหายที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ แล้วนำเรื่องร้องทุกข์ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 โดยแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่หวาด อ.ธารโต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป