เหตุโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา ทำให้โอกาสของการเกิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาส กับ อิสราเอล ยากยิ่งกว่ายาก
สันติภาพดับวูบ มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ผ่านมาหลายวันมีแต่การสาดโคลนโจมตีกันไปมา อิสราเอล รวมถึงสหรัฐงัดหลักฐานอ้างว่าเป็นฝีมือของฝั่งฮามาส โดยกลุ่มที่ชื่อว่า “ปาเลสไตน์ อิสลามิก ญิฮาด” (Palestine Islamic Jihad ; PIJ)
ขณะที่ฮามาส ปาเลสไตน์ โลกมุสลิม พากันประณามอิสราเอล และปลุกม็อบต่อต้านขึ้นทั่วโลก
หลายคนที่ติดตามข่าวสาร อาจไม่เคยได้ยินชื่อกลุ่ม “ปาเลสไตน์ อิสลามิก ญิฮาด” แต่พอได้ยินกว่า “ญิฮาด” ก็พาลคิดไปถึงกลุ่มก่อการร้าย
แต่ในโลกแห่งสงครามและการโฆษณาชวนเชื่อชิงความได้เปรียบและความชอบธรรม การฟังหูไว้หู และรับข้อมูลหลายๆ ด้านย่อมดีกว่า เหมาะสมกว่ากับสถานการณ์
ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลอีกด้านที่แตกต่างจากสื่อตะวันตก
“การถล่มโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่มาก เทียบกับอีกหลายๆ ครั้งเท่าที่ติดตามสถานการณ์มา แต่ครั้งนี้ถ้าสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าใครเป็นผู้กระทำ ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้สูญเสียความชอบธรรมทันที จึงทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางฝั่งตะวันตก มุมมองของสื่อ มุมมองของสหรัฐอเมริกา บอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มปาเลสไตน์ อิสลามิก ญิฮาด ตามที่อิสราเอลออกมาให้ข่าว แต่ในตะวันออกกลาง โลกมุสลิม ฟันธงว่าแน่นอนเป็นฝีมือของอิสราเอล เชื่อว่า ปาเลสไตน์ อิสลามิก ญิฮาด หรือฮามาส ไม่มีทางที่จะโจมตีเป้าหมายที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแน่นอน
กลุ่มเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มขบวนการที่เป็นไอซีส (ไอเอส หรือ กลุ่มรัฐอิสลาม) หรือ อัลกออิดะห์ แต่กลุ่มพวกนี้เป็นขบวนการภาคประชาชน กลุ่มนี้มีตัวตน มีอยู่จริงในโลกมุสลิมที่มีเยอะแยะมากมาย กลุ่มพวกนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการความชอบธรรม เคลื่อนไหวตามกรอบโครงสร้าง เพียงแต่ว่าขบวนการเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ ดินแดนที่มีความขัดแย้ง มีการต่อสู้ จึงพัฒนากลายเป็นกลุ่มขบวนการติดอาวุธเพื่อที่จะต่อสู้กับการยึดครอง”
อาจารย์ศราวุฒิ ประเมินว่า สถานการณ์ของสงครามในขณะนี้อยู่ในช่วงแย่งชิงมวลชน และมีแนวโน้มบานปลาย ยืดเยื้อ
“สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ คือ สงครามแย่งชิงมวลชน แย่งชิงความชอบธรรม และมีทีท่าว่าจะวิกฤติ เนื่องจากว่าสถานการณ์ขณะนี้อิสราเอลเลือกที่จะเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ในสายตาของอิสราเอล เขารู้สึกว่ามีความชอบธรรมที่จะทำอะไรก็ได้ในดินแดนฉนวนกาซา
มองจากผู้นำของอิสราเอลในอดีต หลายฝ่ายก็เคยพูดว่า ถ้าอิสราเอลตาย 1 คน ชาวปาเลสไตน์ต้องตายเป็นสิบ หรือ 20 หรือเป็นร้อย สิ่งที่เราจะเห็นต่อไปนี้คือการตายของปาเลสไตน์ที่มากกว่าสิบเท่าของจำนวนประชากรชาวอิสราเอลที่ตาย
หมายความว่าความรุนแรงจะขยายตัวและยึดเยื้อ ขณะที่อิสราเอลก็จะเจอกับสมรภูมิหลายแนวรบ ซึ่งปาเลสไตน์เขาก็มีเครือข่าย ถ้าหากว่าการปฏิบัติการของอิสราเอลไม่ยอมหยุดจริงๆ”