จุฬาราชมนตรี ขอทุกมัสยิดละหมาดวันศุกร์ ขอพรให้สงครามใน “ฉนวนกาซา” ยุติ ขณะที่กลุ่มหนุนปาเลสไตน์ในไทยนัดรวมตัวประท้วงหน้าสถานทูตอิสราเอล ด้าน “ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ” วอนฝ่ายความมั่นคงเข้าใจท่าทีมุสลิมไทยปกป้องปาเลสไตน์
ความรุนแรงจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมา นับวันยิ่งทวีความรุนแรง และยังไม่มีทีท่าว่าจะหาข้อยุติได้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียกับทั้งสองฝ่ายอย่างมาก โดยเฉพาะพลเรือนและผู้บริสุทธิ์ที่ต้องกลายเป็นเหยื่อสงคราม ถูกสังหาร ถูกฆ่า เสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกจับเป็นตัวประกัน
โดยเฉพาะล่าสุดกับเหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา ที่ทำให้ประชาชน ทั้งคนป่วย ผู้หญิงและเด็ก ต้องเสียชีวิตหลายร้อยคนในคราวเดียว
ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลต้องเสียชีวิตไปไม่น้อย ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 30 ราย บาดเจ็บ 16 ราย และถูกจับเป็นตัวประกันอีก 17 ราย ยังไม่ทราบชะตากรรม
วันพฤหัสบดีที่ 19 ต.ค.66 นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ออกเอกสารส่งถึงประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เพื่อขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ทุกมัสยิดร่วมละหมาดฮาญัตขอพร
ความว่า...ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของประชาชนทั้งสองฝ่าย และแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของพี่น้องชาวไทยและประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์
ในการนี้สำนักจุฬาราชมนตรีใคร่ขอความร่วมมือมายังท่านโปรดประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทุกมัสยิดในสังกัดได้ประกาศให้สัปปุรุษร่วมกันละหมาดฮาตหลังละหมาดวันศุกร์ เพื่อขอดุอา (ขอพร) จาก อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดให้เหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวยุติลงโดยเร็ว และขอโปรดนำสันติภาพและความสงบสุขมาสู่พี่น้องชาวปาเลสไตน์และประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเร็ววัน พร้อมนี้ได้แนบบทดุอา (ขอพร) ส่งถึงผู้นำทุกมัสยิดในประเทศ
@@ กลุ่มหนุนปาเลสไตน์ นัดรวมตัวสถานทูตอิสราเอล
จากกระแสความรุนแรงของการต่อสู้ที่ฝ่ายอิสราเอลยังคงเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา จนทำให้ประชาชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งมีพลเรือนชาติอื่นปะปนอยู่ด้วย
ส่งผลให้พี่น้องมุสลิมในหลายประเทศออกมาเคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการโจมตีฉนวนกาซา
ล่าสุดในประเทศไทยเองก็มีการเชิญชวนให้กลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ ออกมารวมตัวกันในวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.66 เวลา 10.00 น. บริเวณหน้าสถานทูตอิสราเอล อโศก กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเชิญรวมตัวเพื่อปาเลสไตน์ หยุดการเหยียดเชื้อชาติ และการฆ่าล้างเผาพันธุ์ในกาซา
@@ วอนฝ่ายความมั่นคงเข้าใจท่าทีมุสลิมไทย
จากการสู้รบปาเลสไตน์ - อิสราเอล ส่งผลให้มุสลิมโลกออกโรงประณามอิสราเอลพร้อมปกป้องปาเลสไตน์ รวมถึงชาวมุสลิมในประเทศไทยต่างออกมาแสดงจุดยืนของตัวเองในกรณีดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแนวทางสนับสนุนปาเลสไตน์ เพราะมองเป็นผู้ถูกรุกราน และยังนับถือศาสนาอิสลามนิกายเดียวกัน คือ สุหนี่ (ซุนหนี่)
ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวเรื่องนี้ว่า จากที่ฝ่ายความมั่นคงอาจไม่สบายใจต่อการแสดงออกของพี่น้องมุสลิมไทยในกรณีสงครามปาเลสไตน์ในช่วงนี้ จึงขอร้องฝ่ายความมั่นคงทุกท่านโปรดเข้าใจว่า การแสดงออกของมุสลิมในเรื่องนี้เป็นเพียงปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อภาพความโหดร้ายที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ที่อิสราเอลกระทำต่อพลเรือน เด็ก ผู้หญิง และคนชราในฉนวนกาซา
“ล่าสุดก็คือการระเบิดโรงพยาบาลมะอฺมะดานีย์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คน การแสดงออกเหล่านี้เป็นธรรมชาติของคนที่มีคุณธรรมและมนุษยธรรมในหัวใจ และหากประชาชนคนไทยถูกกระทำเช่นที่ประชาชนกาซาถูกกระทำอยู่ในเวลานี้ พวกเรามุสลิมไทยก็พร้อมที่จะแสดงออกเพื่อปกป้องชีวิตคนไทยดุจเดียวกัน ดังเช่นที่ผู้ใหญ่หลายคนในองค์กรมุสลิมกำลังพยายามที่จะช่วยชีวิตคนไทยที่ตกเป็นตัวประกันในมือของฮามาสอยู่ในเวลานี้”
ดร.วิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้เข้าใจว่าทุกคนที่แสดงออกว่าสนับสนุนปาเลสไตน์ พวกเขาก็รักประเทศไทยเหมือนที่ท่านรัก จึงไม่มีวันที่จะทำให้ประเทศไทยเสียหายด้วยการแสดงออกเหล่านี้ ที่สำคัญประเทศไทยควรเป็นที่รู้จักว่า ค้ำจุนความเป็นธรรม เคารพความเป็นมนุษย์ และไม่ฝักใฝ่ฆาตกรสงครามกระหายเลือด