เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปิดล้อม ตรวจค้น และยิงปะทะ กระทั่งวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 2 ราย ขณะซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6 บ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.66 ที่ผ่านมานั้น
ปรากฏว่า 1 ใน 2 ของผู้เสียชีวิต คือ นายรอกิ สิดะ อายุ 32 ปี
พลิกประวัตินาย รอกิ สิดะ เป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคง มีหมายจับในคดีลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก ตั้งอยู่เลขที่ 200/1 บ้านดอนยาง หมู่ 8 ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43) ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
เหตุการณ์ระเบิดปั๊มบางจากครั้งนั้น หากใครจำไม่ได้แล้ว ให้นึกถึงเหตุการณ์ระเบิดปั๊มที่มีคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปไล่คนออกจากปั๊ม แล้วนำระเบิดไปวางใต้ท้องรถบรรทุกน้ำมันที่จอดอยู่บริเวณหัวจ่าย เป็นเหตุการณ์สุดสะพรึง น่าขนพองสยองเกล้า ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายอย่างย่อยยับ
และในคืนเดียวกันนั้นเอง ยังมีการวางระเบิดปั๊มน้ำมัน และระเบิดเพลิงเผาร้านสะดวกซื้อแบรนด์ต่างๆ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 17 แห่ง ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งใหญ่ที่เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ในห้วง18 ปีไฟใต้ ทำให้สถานการณ์ร้ายที่ปลายด้ามขวานยังไม่มีท่าทีจะยุติลง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า วันเกิดเหตุระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก และวางระเบิดเพลิงเผาร้านสะดวกซื้ออีก 17 แห่ง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ส.ค.65 หรือครบ 1 ปีพอดี และนายรอกิ สิเดะ ก็มาถูกวิสามัญฯ วันก่อนครบรอบ 1 ปีของเหตุการณ์ที่เขาตกเป็นผู้ต้องหา เพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งหากนับจำนวนวันก็เท่ากับ 1 ปีเต็มพอดี
เหตุระเบิดปั๊มน้ำมันบางจากใกล้แยกดอนยาง ซึ่งเดิมเป็นสามแยกที่ใครๆ ก็รู้จัก และทุกคนที่จะเข้าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องผ่าน เพราะสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อไปปัตตานี และนราธิวาส หรือเลี้ยวขวาเข้ายะลาได้ นับเป็นเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ที่หลานความรู้สึกของคนจำนวนมาก
ปั๊มน้ำมันแห่งนี้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 มี.ค.66 หลังจากปิดปรับปรุงเป็นเวลา 7 เดือนกับอีก 5 วัน
บรรยากาศภาพรวมวันนี้ ก็ยังคงเปิดให้ประชาชนนำรถยนต์เข้าไปใช้บริการตามปกติ โดย จุฑารัตน์ ไลวานิช ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันบางจาก กล่าวสั้นๆ ว่า ธุรกิจเปิดปกติแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีเท่าเดิม ส่วนเรื่องคนร้ายขอไม่พูดถึง ไม่อยากยุ่งเลย
ด้านผู้ประกอบการอีกรายซึ่งเช่าพื้นที่ขายของอยู่ภายในปั๊ม และได้รับความเสียหายในวันเดียวกันกับที่ปั๊มถูกระเบิด กล่าวว่า วันนี้ดีกว่าเมื่อวาน แม้จะไม่ได้ดีมาก อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจด้วย หลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ไม่ดีเหมือนเดิม แต่ก็ต้องพยายามต่อไป ขอแค่ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ก็ถือว่าดีแล้ว
“ส่วนเรื่องคนร้ายขอไม่ออกความเห็น อยู่ในพื้นที่ต้องระวังหลายๆ อย่าง คือถ้าเจ้าหน้าที่สามารถ ลงโทษคนร้ายที่ทำจริงๆ ก็ถือว่าดีแล้ว”
สาวียะห์ (สงวนนามสกุล) ชาว จ.ยะลา ที่เข้าไปใช้บริการปั๊มน้ำมันบางจาก กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นว่า “ครบ 1 ปีแล้วหรือนี่ เร็วมาก มาใช้บริการปั๊มนี้ เพราะคนไม่มากบริการดี แต่ก็ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าไม่ถามก็ลืมเลยว่าที่นี่เคยเกิดเหตุมา”
“ขอเป็นกำลังใจเจ้าของปั๊มน้ำมันที่สู้มาได้จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะคนทำธุรกิจ ก็ขอชื่นชม เพราะเศรษฐกิจแย่มานานแล้ว เข้าใจเลยต้องสู้มากับอะไรหลายอย่างกว่าจะอยู่ให้ได้”
สาวียะห์ เล่าด้วยว่า เคยประสบเหตุความไม่สงบ จึงรู้และเข้าใจคนหัวอกเดียวกัน ขอเป็นกำลังใจและสู้ต่อไป เชื่อว่าคนไม่ดีมีไม่มาก และมั่นใจด้วยว่าพลังของพวกเราทุกคน พลังพหุวัฒนธรรม จะสู้ภัยที่เกิดขึ้นในบ้านเราได้ แม้จะใช้เวลานาน เพราะทั้งหมดคือผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มเท่านั้น
ด้านเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นายหนึ่ง เปรยว่า อย่าไปจดจำเลยว่าคือวันครบรอบ 1 ปี ปล่อยให้เป็นไปตามปกติ ชาวบ้านก็ลืมแล้ว คนไม่หวังดีมีน้อย มาร่วมพัฒนาบ้านเกิดของเราดีกว่า บ้านเมืองจะได้เจริญ
ในส่วนของการดำเนินการติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีนั้น หลังเกิดเหตุได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 13 ราย รวมถึ งนายมะรุสดี มะนุ ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเมื่อวันที่ 6 ก.ย.65 และอ้างว่าให้การรับสารภาพ มีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมก่อเหตุครั้งนั้น รวมไปถึงการอ้างเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นที่ร่วมก่อเหตุอีก 3 คน ประกอบด้วย นายมะนาเซร์ ไซรดี (ถูกวิสามัญฯ เมื่อ 7 พ.ย.65), นายมะนัง บาราเฮง และ นายซาการียา ดือเระ ซึ่งทั้งสองคนยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี
จากคำให้การของมะรุสดี สรุปความได้ว่า ตัวเขาทำหน้าที่ขับรถ มีนายซาการียา ดือเระ เป็นคนถือระเบิดเข้าไปก่อเหตุในปั๊มน้ำมันบางจาก ส่วนนายมะนาเซร์ ไซรดี และนายมะนัง บาราเฮง นั่งรถจักรยานยนต์มาอีกคัน ขับเข้ามาในปั๊มน้ำมัน คอยไล่ประชาชนและพนักงานให้ออกจากปั๊ม โดยบอกว่ามีระเบิด
จากนั้นนายซาการียา จึงนำระเบิดแสวงเครื่องไปซุกไว้ในถังน้ำมันรถบรรทุกน้ำมัน ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไป ประมาณ 2 นาที คนร้ายก็กดชนวนระเบิดขึ้นทันที
ต่อมาประมาณเดือน ม.ค.66 อัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 12 คน ซึ่งบางส่วนก็คือกลุ่มผู้ต้องสงสัย 13 คนที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยทั้งหมดเป็นอิสระ เนื่องจากหมดอำนาจการควบคุมตัว และไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ เพิ่ม มีเพียง นายมะรุสดี มะนุ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเพื่อดำเนินคดีในชั้นศาล เพราะเจ้าตัวให้การรับสารภาพ ล่าสุดคดีนี้ยังอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด
จากคดีที่เกิดขึ้น และการปล่อยผู้ต้องหากับผู้ต้องสงสัยนับสิบคนเพราะอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง กลายเป็นที่มาของการโยกย้ายนอกฤดู พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองกฎหมายและคดี ภาค 9
โดยมีการระบุสาเหตุจากเจ้าตัวว่า มีความเห็นไม่ตรงกับผู้บังคับบัญชาในคดีลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก