แม่ลูกอ่อนชาวปัตตานี วอนช่วยเหลือลูกวัย 4 เดือนป่วย “ผนังหัวใจรั่ว” หลังใช้สิทธิบัตรทองรักษานอกเขตที่หาดใหญ่ ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เผยมีลูกเยอะ ช่วงชีวิตปกติก็มีรายได้ไม่พอรายจ่ายอยู่แล้ว เจอค่ารักษาวันละหลักพันถึงหลายพันทำลำบากหนัก ด้านเลขาธิการ ศอ.บต.แนะค่ายานอกระบบสามารถขอความช่วยเหลือกองทุนของโรงพยาบาลได้
วันศุกร์ที่ 21 ก.ค.66 น.ส.ไซนะ มะมิง อายุ 33 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญ เพื่อให้ช่วยเหลือลูกสาว ด.ญ.นูรฟาติน มะสาแม อายุ 4 เดือน ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ “ผนังหัวใจรั่ว” และ “เส้นเลือดเกินมาตั้งแต่กำเนิด” ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้สิทธิ์บัตรทองนอกเขต จากเดิมที่ใช้สิทธิ์รักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลใน อ.หาดใหญ่
น.ส.ไซนะ กล่าวว่า การรักษาจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนอกจากสิทธิ์บัตรทอง โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ค. มีค่ายาเป็นเงิน 3,679 บาท และวันที่ 20 ก.ค. จะต้องจ่ายค่ายา ซึ่งในเอกสารระบุว่า เป็นค่ายานอกระบบ เป็นเงิน 1,104 บาท
“ทางโรงพยาบาลยังบอกอีกว่า หากน้องยังรักษาต่ออยู่ที่โรงพยาบาล ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจนกว่าจะหาย ทำให้เราและสามีกังวล ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากร้องขอความช่วยเหลือจากทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ สื่อ หรือผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือ”
น.ส.ไซนะ เล่าอีกว่า ด.ญ.นูรฟาติน เป็นลูกสาวคนที่ 6 ของตนเอง กับ นายมะนันต์ มะสาแม ตนกับสามีทำงานที่สะพานปลาปัตตานี มีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน ปกติก็รายได้ไม่พอกับรายจ่ายอยู่แล้ว แถมลูกเยอะ เมื่อลูกคนเล็กป่วย ทำให้ต้องไปหายืมจากญาติและเพื่อนบ้านคนละนิดคนละหน่อย เพื่อให้ได้มาจ่ายค่ารักษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตลอด 3 เดือนที่รักษาตัวลูก
“เมื่อต้องย้ายลูกไปรักษาที่หาดใหญ่ ก็ต้องไปเช่าบ้านที่หาดใหญ่ เดือนละ 2,900 บาท เพราะต้องไปอยู่เฝ้าลูก ส่วนค่ากินเราพออดทนได้ กินเท่าที่มี กินบ้างไม่กินบ้าง และตอนนี้หมอยังมาบอกว่า จะต้องมีค่าใช้จ่ายอีก ถ้ายังต้องรักษาน้อง ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากขอให้ภาครัฐเห็นใจช่วยเหลือครอบครัวด้วย”
แม่ลูกอ่อนรายเดิม บอกอีกว่า ทุกวันนี้สามีก็ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างปัตตานีกับโรงพยาบาล เพราะต้องดูแลลูกที่บ้านอีก และต้องไปทำงาน แต่วันที่ไปโรงพยาบาลก็จะไม่มีรายได้เลย ไม่ไปก็ไม่ได้
ด้าน นายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้คำแนะนำว่า กรณีเกี่ยวกับเรื่องยานอกบัญชียาหลักที่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มนอกเหนือสิทธิบัตรทอง ทางครอบครัวสามารถทำบันทึกข้อความขอความช่วยเหลือจากกองทุนของโรงพยาบาลได้ จากนั้นผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็จะมีการพิจารณาเป็นกรณีไป