ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ขยับหาเสียง ชูกระแสแลนด์สไลด์ เข้าไปทำงานตามนโยบายได้จริง ขณะที่เลขาธิการพรรคประชาชาติเดินสายขึ้นเวทีดีเบตที่นครศรีธรรมราช ประกาศแก้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ดึงงบ “รัฐรวมศูนย์” ใช้สร้างรัฐสวัสดิการ แง้มโพลลับภูมิใจไทยมีลุ้นหลายเขต เปิด 5 ปัจจัย “กระแสต้านกัญชา” โค่นไม่ลง
วันพฤหัสบดีที่ 27 เม.ย.66 นายแวหะมะ แวและ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ยะลา หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 ได้ลงพื้นที่พบปะพ่อค้า ประชาชน เกษตรกร และนักธุรกิจ ตามพื้นที่ต่างๆ ของ อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน สัมผัสถึงความต้องการของชาวบ้านที่อยากจะเห็นการเมืองดีขึ้น มีการพัฒนามากขึ้นจ ซึ่งการลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องประชาชน
นายแวหะมะ กล่าวว่า ตนเป็นคนเบตง เป็นคนพื้นที่ เข้าใจปัญหาและศึกษารับรู้อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาตนและทีมงานลงพื้นที่รับฟังความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด เรามีเป้าหมายเดียวกันคือจะต้องช่วยให้พี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดี ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเราคิดนโยบายเพื่อพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ทั้งของการแก้ปัญหาราคายางพารา ตลอดจนการผลักดันอาหารฮาลาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลางอาหารฮาลาลที่โด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งเพิ่มรายได้ต่อหัวต่อเดือนให้ประชาชนทุกพื้นที่ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ตลอดจนนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระจายรายได้และหมุนเวียนเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของพี่น้องให้ดีขึ้น เศรษฐกิจพลิกฟื้น ความยากจนจะหมดไป
“พรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้ต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น ซึ่งโพลจากสำนักต่างๆ ก็ให้เพื่อไทยเป็นอันดับ 1 ต้องขอขอบคุณสำหรับแรงเชียร์และกำลังใจที่ทุกๆคนมีให้มาโดยตลอด ผมจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด” นายแวหะมะ กล่าว
สำหรับในพื้นที่เขต 3 จ.ยะลา ซึ่งนายแวหะมะ เป็นผู้สมัคร ส.ส.และตั้งใจจะปักธงชิงเก้าอี้มาให้ได้นั้น ถือว่าไม่ใช่งานง่าย เนื่องจาก ส.ส.เก่า คือ นายอับดุลอายี สาแม็ง จากพรรคประชาชาติ มีฐานเสียงเหนียวแน่น และลงพื้นที่ต่อเนื่อง ทำงานในสภาเข้มแข็ง จึงมีโอกาสได้กลับมาเป็น ส.ส.อีกสมัย นอกจากนั้นยังมี นายณรงค์ ดูดิง อดีต ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมาเป็นตัวสอดแทรกอีกด้วย
@@ “ทวี” ลั่นดึงงบรัฐรวมศูนย์สร้างสวัสดิการคนไทย
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวบนเวทีดีเบตภาคใต้ ช่อง 7 เอชดี ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 25 เม.ย.66
โดย พ.ต.อ.ทวี ตอบคำถามในประเด็นที่หลายฝ่าย รวมทั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงความเป็นห่วงนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่มุ่งประชานิยม ลดแลกแจกแถม ว่า คำถามเป็นความคิดกดทับทางการเมือง เพราะการที่พรรคการเมืองคิดให้ประชาชนได้เรียนฟรี การคิดให้ประชาชนมีสวัสดิการ 3,000 บาทต่อเดือน ความคิดให้ประชาชนมีที่ดินทำกินนั้น ไม่ทำให้คนตาย แต่การบริหารประเทศที่ผ่านมาโดยปล่อยให้ประชาชนยากไร้ มันทำให้คนตาย
แล้ววิธีคิดของรัฐบาลปัจจุบันยังคิดเป็นการสงเคราะห์ที่เป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพราะว่าคนจะต้องมาแสดงว่ายากจนก่อน แล้วจึงได้การสงเคราะห์
เพราะฉะนั้นการจัดทำงบประมาณ ถามว่าจะนำเงินมาจากไหน คำตอบคือถ้าจะทำให้งบเยอะ รัฐเก็บรายได้ได้ได้ดี ก็ต้องสร้าง GDP ให้กับประเทศ วันนี้รัฐบาลเริ่มจากการทำเศรษฐกิจแย่ เงินเลยไม่มา แต่ที่สำคัญเราเดินไปที่งบประมาณ ถ้าเรามีเจตจำนงว่าจะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็ต้องจัดงบประมาณให้ภารกิจนั้น
ประการแรกแก้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 20 ที่เราไปเขียนว่า รายจ่ายลงทุนให้ไปทำเฉพาะสร้างถนน หรือโครงสร้างพื้นฐานทางวัตถุ ทั้งที่มันต้องนำรายจ่ายลงทุนมาสร้างมนุษย์ เพราะเราได้มีการวิจัยแล้วว่า ถ้าการสร้างมนุษย์ที่เป็นเด็ก จะได้ผลตอบแทนกลับมา 9 เท่า
การสร้างการพัฒนาในประเทศที่มีความเจริญนั้น เขาวัดกันที่คุณภาพของมนุษย์ แล้วการแก้ปัญหาความยากจนที่ดีที่สุดคือ แก้ที่การศึกษา ผลการวิจัยออกมาแล้วว่า ถ้าการแก้ปัญหาความยากจน โดยให้คนมีการศึกษาดี สามารถแก้ได้ 47 เปอร์เซ็นต์ การแก้แบบให้คนมีสาธารณสุขทีีดี แก้ได้ 35 เปอร์เซ็นต์ การแก้ด้วยการสร้างถนน เพื่อขนรถ เพื่อให้คนรวยอยู่สบาย แก้ได้ 17 เปอร์เซ็นต์ อันนี้คือประการที่ 1
ประการที่ 2 ที่สำคัญที่สุด ก็คือไปแก้มาตรา 20 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่ไปเขียนเฉพาะว่า บุคลากรของรัฐและสวัสดิการของรัฐต้องมีรายได้พอเพียง ฉะนั้นเราต้องไปเติมข้อความอีกคำหนึ่ง นอกจากบุคลากรของรัฐแล้ว ประชาชนต้องมีรายได้และสวัสดิการเพียงพอด้วย ทางรอดของประเทศมีทางเดียว ต้องสร้างคนเพื่อให้คนไปสร้างชาติ
"ถ้าท่านไปสร้างเงินก่อน มันทำให้คนมีกิเลส แล้วการสร้างเงินก่อนจะทำให้คนทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คนมีความสำคัญมาก เพราะมนุษย์มีคุณค่ามีศักดิ์ศรี ประเทศจะไปได้ก็คือการสร้างคน ดังนั้นการหางบประมาณอีกประการหนึ่งก็คือเราต้องเดินไปที่รัฐรวมศูนย์ วันนี้รัฐเกิดมากมาย เราสามารถดึงเงินมาได้แสนกว่าล้าน" เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุ
@@ เปิด 5 ปัจจัย กระแสต้านกัญชาโค่นภูมิใจไทยไม่ลง
มีรายงานจากในพื้นที่ชายแดนใต้ว่า มีการทำโพลลับจากบางหน่วยงาน และบางพรรคการเมือง พบว่ากระแสพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัครของพรรคในแต่ละเขต โดยเฉพาะใน จ.นราธิวาส ไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ แม้จะถูกโจมตีอย่างหนักเรื่อง “กัญชา” ก็ตาม แต่คะแนนของผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยในหลายๆ เขต ก็ยังเกาะติดอยู่ในกลุ่มนำ
“ทีมข่าวอิศรา” จึงสอบถามไปยัง นายนัจมุดดีน อูมา ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 7 ซึ่งเป็น “ขุนพลนราธิวาส” ดูแลผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาสของภูมิใจไทย เพราะเคยเป็น ส.ส.นราธิวาสมาถึง 4 สมัย
นายนัจมุดดีน บอกว่า ได้ยินข่าวเกี่ยวกับโพลลับบ้างเหมือนกัน ซึ่งก็สอดคล้องกับบรรยากาศที่ได้สัมผัสกับพี่น้องประชาชนขณะลงพื้นที่ เพราะประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี คาดว่ามาจาก 5 ปัจจัยสำคัญ คือ
1.ผู้สมัครของพรรคลงพื้นที่มานานกว่า 1 ปี และได้ชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะงานผลงานที่ผลักดันสำเร็จแล้ว เช่น ฟอกไตฟรี ขึ้นค่าตอบแทน อสม. ค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนตาดีกา (เรียนศาสนาวันเสาร์และอาทิตย์) พร้อมชี้แจงนโยบายทั้ง 13 ข้อที่จะทำต่อไป
2.พรรคเล็กๆ ที่มีแนวโน้มได้ ส.ส.ไม่ถึง 10 คน ถึงจะมีนโยบายดีแค่ไหน แม้จะได้เข้าร่วมรัฐบาล แต่ถ้าพรรคแกนนำไม่เอาด้วย ก็ทำอะไรไม่ได้ ผิดกับภูมิใจไทยที่ทำได้จริง ตามสโลแกน “พูดแล้วทำ”
3.กระแสต้านกัญชา กลายเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เพราะพรรคการเมืองบางพรรคนำมาสร้างกระแสมากเกินไปจนคนเบื่อ
4.พรรคภูมิใจไทยหาเสียงแบบสร้งสรรค์ ไม่โจมตีใคร
5.ที่ผ่านมานโยบายของพรรคภูมิใจไทย สามารถทำได้จริง 64% ถือว่ามากกว่าทุกพรรค และการจะเสนอกฎหมายเข้าสภาได้นั้น ต้องมี ส.ส.อย่างน้อย 20 คนจึงจะเสนอได้ ซึ่งประชาชนเข้าใจตรงจุดนี้ การสนับสนุนพรรคเล็กที่มีโอกาสได้ ส.ส.น้อยเกินไป จึงไม่ค่อยมีประโยชน์