เจ้าหน้าที่พบเอกสารขั้นตอนการฝึกร่างกายในตัวผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดใส่ตัวเอง ที่สวนศรีเมือง ยะลา คาดเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง “กลุ่มหน้าขาว” ไร้ประวัติและหมายจับ เข้ามาก่อเหตุตอบโต้วิสามัญฯ 3 ศพศรีสาคร ด้านชาวบ้านรือเสาะยืนยันเป็นคนในพื้นที่ แต่ไม่รู้อยู่ในขบวนการหรือไม่
จากกรณีเกิดระเบิดบริเวณประตูระบายน้ำสวนศรีเมือง ในเขตเทศบาลนครยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อช่วงเวลา 01.30 น.ของวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค.66 โดยแรงระเบิดทำให้ นายนุด ตานิโล อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ แต่เกิดพลาดระเบิดใส่ตัวเองจนได้รับบาดเจ็บนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารภายในตัวของ นายนุด ตานิโล พบพาสปอร์ตอยู่ภายในเสื้อ ระบุมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และเอกสารเป็นกระดาษขนาด A4 เขียนด้วยลายมือเป็นภาษารูมี จำนวน 2 แผ่น มีเนื้อหาระบุเป็นขั้นตอนการฝึกร่างกาย
หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงได้ตรวจสอบเอกสารแล้ว คาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงรุ่นใหม่ที่ไม่มีประวัติอาชญากรรมและยังไม่มีหมายจับ ที่เรียกกันว่า “กลุ่มหน้าขาว” มีเป้าหมายเข้าไปก่อเหตุลอบวางระเบิดในเขตเมืองยะลา หรือบริเวณสวนศรีเมือง แต่ผิดพลาดเกิดระเบิดเสียก่อน จนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ โดยจุดประสงค์ในการก่อเหตุครั้งนี้ เชื่อว่าเพื่อเป็นการตอบโต้กรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 3 ราย จากเหตุปิดล้อมยิงปะทะในพื้นที่ป่าเขา อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.66 ที่ผ่านมา
“ทีมข่าวอิศรา” ได้ตรวจสอบข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่ อ.รือเสาะ ได้รับการยืนยันว่า นายนุด ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนในพื้นที่บ้านสือแลเบาะ หมู่ 5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จริง แต่ก็ไม่ยืนยันว่าอยู่ในกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนหรือไม่ เพราะแยกไม่ออกว่าคนไหนขบวนการจริง คนไหนไม่ใช่ขบวนการ
“ส่วนเรื่องเอกสารฝึกร่างกายที่เจ้าหน้าที่พบในตัวผู้บาดเจ็บนั้น เท่าที่เคยเห็นพวกที่อยู่ในขบวนการ เขาจะค่อนข้างระวังตัว ไม่พกอะไรติดตัวที่จะทำให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองอยู่ในขบวนการง่ายๆ แบบนี้” ชาวบ้านใน อ.รือเสาะ ตั้งข้อสังเกต
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า แนวทางของกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน จากอดีตจนถึงปัจจุบันไม่ได้เปลี่ยนยุทธวิธีหรือเปลี่ยนวิธีการใดๆ เลย กลุ่มเหล่านี้พร้อมขยับ โดยเฉพาะยุคนี้ที่ความสัมพันธ์ไทยกับมาเลเซียมีการเปลี่ยนแปลงเพราะเปลี่ยนผู้นำ ส่วนเคสนี้จากเอกสารที่พบในตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ก็ยืนยันได้ว่าเป็นคนวางระเบิดเอง และอยู่ในขบวนการ