ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ เผยรวบ 2 มือคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจนราฯ พร้อมเร่งจับกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุตามหมายจับอีก 7 ราย ด้านคดีบึ้มรถไฟสงขลาออกหมายจับ “อัซมัน เป๊าะเลาะ” และเตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการฯ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันจันทร์ที่ 2 ม.ค.66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด., นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รอง ผบช.ตชด., พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นย.ทร. ร่วมกับแถลงข่าวจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องคดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจนราธิวาสและความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟในพื้นที่สงขลา
โดย ผบ.ตร.ได้เดินชมความเสียหายของแฟลตข้าราชการตำรวจ ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ใช้งบประมาณ 7 ล้านบาทในการซ่อมแซม ซึ่งแล้วเสร็จไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 66 พร้อมกันนั้นได้เยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจและครอบครัว ซึ่งทุกนายมีขวัญกำลังใจดี พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อ 22 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บาดเจ็บ 18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามผู้กระทำผิดและดูแลขวัญกำลังใจตำรวจให้ดี ตนได้สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจนพบว่า คนร้ายขับรถยนต์กระบะคันประกอบระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ มาจอดภายในบริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ แล้วเดินลงจากรถออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่มารอรับด้านหน้าแล้วหลบหนีไป
เมื่อตรวจสอบทางทะเบียนรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีดำ ทะเบียน กค 6961 ตรัง พบว่ามีการโอนขายลอยกันเป็นทอด ๆ ตั้งแต่ปี 2564 และน.ส.ไซนะ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้ายก่อนที่จะได้มีการประกาศขายทางเฟสบุ๊ค ต่อมามีคนมาติดต่อซื้อนัด ส่งมอบรถกันบริเวณ ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พ.ย.65 โดยมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับรถ มีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็นนายฮัสบูเล๊าะ สะนิ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่า คนร้ายเดินทางออกมาจากพื้นที่ อ.ตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจำนวน 6 คัน ตรวจยึดแล้ว 5 คันและขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ นายอุสมัน สะนิ ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันกับพวกก่อเหตุคดีนี้สามารถพิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดแล้ว 9 คน
ขณะนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้แล้วจำนวน 9 คน ประกอบด้วย 1.นายฮัสบูเลาะ สะนิ 2.นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ 3.นายอับดุลมาทิน มามะ 4.นายอุสมัน สะนิ 5.นายอับดุลฮาฟิซ ดือเระ 6.นายวาฟี สะปาดี 7.นายอีซาล สาและ 8.นายไซปูรูสมัน มามะ และ 9.นายมูฮำหมัดฮาฟิส เจะดือราแม ซึ่งตำรวจจับกุมได้ 2 ราย ส่วนอีก 7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ 2 ความคืบหน้า "คดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า" ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ – ปาดังเบซาร์ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทำให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และกรณีเหตุ วันที่ 6 ธ.ค.65 ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าทำการเก็บกู้รางและขบวนรถไฟ ได้เกิดระเบิดอีกหนึ่งลูก ทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย
จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบ โดยที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดแบบเหยียบที่มีการก่อเหตุต่อรางและขบวนรถไฟ ที่มีลักษณะคล้ายกับคดีนี้ มีการออกหมายจับนายอัซมัน เปาะเลาะ กับพวกคนร้ายที่ก่อเหตุในช่วงปี 2564 ซึ่งจากการเปรียบเทียบวัตถุพยานและแผนประทุษกรรมคดีนี้พบว่า เหมือนกันกับคดีที่นาย อัซมัน เปาะเลาะ เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้
และจากกรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัวนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ พร้อมกับอาวุธปืน 4 กระบอก พื้นที่ อ.จะนะ เมื่อ 3 ก.พ.65 ผลการซักถามของนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ ให้การยอมรับว่าก่อนถูกควบคุมได้รับคำสั่งจาก นายอับดุล ให้ตนกับนายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ บริเวณบ้านท่าโพธิ์ เพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ ซึ่งได้มีการชี้จุดไว้ในแผนและได้มีการแจ้งเตือนให้หน่วยเฝ้าระวัง
นอกจากนี้ นายจิรศักดิ์ฯ ยังให้การรับว่า กลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มนายจิรศักดิ์ฯ ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มีจำนวน 17 คน จับกุมแล้ว 2 คน วิสามัญ 4 คน หลบหนี 10 คน รวมทั้งนายอัซมัน เป๊าะเลาะ ที่มีหมายจับ ป.วิ อาญา 18 หมาย คนเดียวด้วย
สำหรับคดีนี้ก่อนเกิดเหตุมีพยานยืนยันว่า วันเกิดเหตุมีพยานพบเห็นและได้มีการพูดคุยกับนายอัซมันฯ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิดประมาณ 30 นาที โดยในส่วนของนายอัซมันฯ ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไว้แล้ว ส่วนกลุ่มขบวนที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตาม รวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับ ต้องขอบคุณและชมเชยคณะทำงานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี โดยได้สั่งการขยายผลติดตามผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่าทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จำนวน 46 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 950,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จำนวน 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท และวันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาท