“อันวาร์” ยื่นหนังสือลาออกพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลสิ้นสภาพ ส.ส.ทันที ถล่มส่งท้ายอ้างอุดมการณ์พรรคไม่เหมือนเดิม เตือนผู้บริหารพรรคเลิกโกหกบิดเบือน เผยอีก 2-3 วันสมัครเข้าพลังประชารัฐ ด้านโฆษก ปชป.สวนทันควัน ฉะทำร้ายบ้านเกิด ส่วน “นิพนธ์” เตรียมยืนหนังสือถึงนายกฯ เสนอช่วยเหลือปัญหาความเดือดร้อนคนไทยร้านต้มยำกุ้งมาเลย์
วันศุกร์ที่ 16 ธ.ค.65 นายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ มีผลตั้งแต่วันนี้ (16 ธ.ค. 65) ซึ่งการลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลให้นายอันวาร์ สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.ไปด้วย
เนื้อหาในหนังสือลาออกของนายอันวาร์ เป็นการเปิดใจ และวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ส่งท้าย หลังจากตนเองเป็น ส.ส.ของพรรคนี้มาอย่างต่อเนื่อง 4 สมัย
เนื้อหาในหนังสือระบุว่า “เมื่อปี 2544 มีพรรคการเมืองที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาไหม่และได้นำเสนอนโยบายด้วยวิธีคิดที่แปลกใหม่ ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่มักจะประกาศด้วยความภาคภูมิใจจนน่าจะเป็นสูตรสำเร็จว่าเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ ผลิตนักการเมืองที่มีชื่อเสียงมาแล้วหลายคน ต้องประสบความพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปในปีนั้นเอง
กระผมเองเป็นคนปัตตานี จึงมีความคิดไม่แตกต่างจากคนภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด คือเลื่อมใสและศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งได้ให้ไว้ จึงได้เสนอตัวลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เมื่อปี 2548 ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับพรรคมา 17 ปี พรรคก็ยังพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็เฝ้าดูด้วยความวิตกกังวลและคิดว่า คณะผู้บริหารของพรรคคงกำลังคิดหาทางแก้ไข จึงเฝ้ารอด้วยความอดทน โดยที่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ แต่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 พรรคพ่ายแพ้อย่างยับเยิน จากเดิมที่เคยมี ส.ส. 161 คน เหลือเพียง 52 คน เป็นที่น่าตกใจและน่ากังวลเป็นอย่างมาก
กระผมเองได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นรองเลขาธิการพรรค ซึ่งมีหน้าที่อย่างชัดเจนคือการช่วยคิดช่วยทำในสิ่งที่ถูกที่ควร เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นว่า พรรคได้สำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำไปในอดีตแล้ว และขอโอกาสที่จะกลับมายืนเคียงกับประชาชนอีก จึงได้ทุ่มเทเสนอแนวทางการแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีคิด ‘ทำในสิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด’ โดยเริ่มจากการนำประเด็นต่างๆ ที่สื่อและสังคมข้องใจสู่ที่ประชุมพรรคให้ผู้บริหารหาทางแก้ไข แต่ไม่เป็นผล ผมจึงต้องหาวิธีนำเสนอใหม่เป็นเอกสารไปเก็บเอาไว้ที่พรรค เพื่อให้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังได้เตือนว่า หากผู้บริหารไม่สนใจแก้ไขจะมีสมาชิกทยอยลาออกจากพรรก ซึ่งสุดท้ายก็เป็นความจริงว่าได้ลาออกไปกว่า 30 คนแล้ว
วันนี้กระผม นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ที่เคยระบุในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคว่า เคยถูกผู้ทรงอิทธิพลของพรรคเสนอว่า ไม่ควรส่งลงสมัครอีก เพราะผลโพลแจ้งว่าจะแพ้ แต่สุดท้ายกระผมก็ชนะอย่างต่อเนื่อง และเป็น ส.ส. ถึง 4 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ผมขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลเดิมที่ได้ระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคเอาไว้หลายฉบับว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์เดิมของพรรคนั้น ต้องทำต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ ‘ดีแต่พูด’ แล้วจะทำให้ประชาชนเชื่อ
ซึ่งจากการเสนอข่าวของสื่อล่าสุดว่า มีการล่ารายชื่อกันเพื่อจะปลดผู้บริหารนั้น ทำให้พรรคเสียหายมากแล้ว ผมจึงไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ ในเอกสารการลาออกของผม นอกจากจะขอโอกาสเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่า เลิกโกหกบิดเบือน ควรต้องยืนอยู่บนความเป็นจริง อะไรที่ทำผิดไปแล้วก็ควรขอโทษพี่น้องประชาชน ดังเช่นผู้ทรงอิทธิพลได้เคยประกาศขอโทษไปแล้วเมื่อไม่นานที่สงขลา”
หลังจากการยื่นจดหมายลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว นายอันวาร์ ยังให้ข้อมูลกับสื่ออีกว่า ภายใน 2-3 วัน นี้ จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
@@ โฆษก ปชป.สวนทันควัน ฉะทำร้ายบ้านเกิด
ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ นายอันวาร์ แบบทันควันว่า เหตุผลที่เขียนในหนังสือลาออก ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่บิดเบือนและทำให้พรรคเกิดความเสียหาย คนที่มีวุฒิภาวะไม่ทำกัน การลาออกถือว่าเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล แต่ไม่ควรมาทำร้ายบ้านเกิด บ้านที่เคยใช้อาศัย พูดไปก็คงไร้ประโยชน์ แต่สิ่งนี้จะทำให้ประชาชนตัดสินได้ว่า ลูกที่ด่าพ่อแม่ตัวเองดีหรือไม่ดีและสิ่งที่นายอันวาร์ทำดีหรือไม่ดี
“การที่ นายอันวาร์ ระบุว่า เป็นการทำไปเพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีคิด ‘ทำในสิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด’ นั้น ผมเห็นว่าเป็นเพียงประโยคที่ดูดีในคำพูดเท่านั้น แต่พรรคได้ยึดหลักการนี้มาตลอดและที่สิ่งสำคัญคือ สมาชิกพรรคต้องมีวินัย ซื่อสัตย์ต่อองค์กรเป็นสำคัญด้วย ไม่เช่นนั้นจะพูดอย่างไรก็ได้แต่การกระทำสวนทางกันตลอด” นายราเมศ กล่าว และว่า ส่วนที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม ต้องทำ ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ดีแต่พูดนั้น ตนเชื่อว่าแก่นแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ มีอุดมการณ์มั่นคงเช่นเดิม แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไปในวันนี้ คือ การที่พรรคไม่มีสมาชิกพรรคที่จะคอยทิ่มแทงให้ร้ายพรรคตลอดเวลา
@@ “นิพนธ์” เตรียมยื่นหนังสือนายกฯ ช่วยคนไทยร้านต้มยำกุ้งมาเลย์
วันเดียวกันนี้ ( 16 ธ.ค.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปเยี่ยมเยียนและร่วมพบปะกับกลุ่มเครือข่ายร้านอาหารต้มยำกุ้ง ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่มีคนไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ข้ามไปทำงานนับแสนคน เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 2-5 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา
โดยกลุ่มเครือข่ายร้านต้มยำกุ้ง ได้ร้องขอให้รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือในเรื่องการแก้ไขการแจ้งเกิด-แจ้งตาย ซึ่งปัจจุบันมีรายละเอียดและขั้นตอนการทํางานที่ยุ่งยาก การอํานวยความสะดวกในการออกใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในประเทศมาเลเซีย การออกหนังสือเดินทาง(Passport) การออกใบอนุญาตให้เข้ามาทํางานในประเทศมาเลเซีย (Work Permit) เป็นต้น
นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อติดตามประสานแก้ไขปัญหาเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยที่ไปทำงานร้านอาหารต้มยำกุ้งนั้น ได้มีการสรุปประเด็นปัญหาพร้อมทั้งข้อเสนอแนะตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยตนจะไปยื่นเอกสารสรุปผลดังกล่าว เพื่อรายงานภาพรวมของสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในประเทศมาเลเซีย กราบเรียนไปยังท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อโปรดพิจารณาสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าสูงสุดของฝ่ายบริหาร เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวพันหลายหน่วยงาน