รักษาการผู้ว่าฯ ยะลา ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาถนนชำรุดเสียหาย ดินสไลด์ทับเส้นทางที่บันนังสตา หลังน้ำป่าไหลหลากทำชาวบ้านเดือดร้อน 3 หมู่บ้าน เบตงประชุมเตรียมรับมือช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย ส่วนที่นราธิวาส ปภ.เขต 12 ประกอบสะพานแบริ่งช่วยชาวบ้าน อ.จะแนะ คอสะพานขาดถูกมวลน้ำกัดเซาะ
จากเหตุอุทกภัย ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 3 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในพื้นที่หมู่ที่ 3 และหมู่ 6 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา ทำให้ถนนและเส้นทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางเข้า-ออก หลายหน่วยงานจึงได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายวีรวัฒน์ ศิริกุลพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา, นายอาวุธ เลิศเดชานนท์ ปลัดอาวุโส อำเภอบันนังสตา, พ.ท.คณิน พรมมาวัน ผบ.ร.152 พัน 1 (ผู้บังคับกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 152) ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำป่าไหลหลาก การซ่อมแซม “ถนนสายกาสังใน” ที่ถูกน้ำป่ากัดเซาะและมีดินโคลนถล่มทับเส้นทาง ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรได้ ทาง อบจ.ยะลา ได้สนันสนุนรถขุดตักตีนตะขาบ รถตักล้อยาง รถเทรลเลอร์ เข้าซ่อมแซมถนนเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติโดยเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังได้เข้าเยี่ยมสำนักสงฆ์กาสังใน ซึ่งศาลาการเปรียญถูกต้นไม้โค่นทับหลังคาได้รับความเสียหาย และชาวบ้านร่วมกับกองกำลังในพื้นที่ได้ร่วมกันตัดกิ่งไม้ และรื้อหลังคาส่วนที่เสียหายออก
นายธีรุตม์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้เกิดฝนตกหนักเมื่อคืนวันที่ 3 พ.ย. มีน้ำหลากทำให้ถนนขาด ดินถล่ม ทางจังหวัดโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อำเภอบันนังสตา, อบต.ตาเนาะปูเต๊ะ และเจ้าหน้าที่ทหาร ร.152 พัน 1 ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ซึ่งเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ทำให้มีประชาชนเดือดร้อน 3 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 จำนวน 165 ครัวเรือน 600 กว่าคน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางจังหวัดได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับทุกฝ่าย และมีหนังสือแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายมะรุสดี ดีสาเอะ นายก อบต.ตาเนาะปูเต๊ะ กล่าวว่า ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้มีน้ำป่าไหลจากภูเขาเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้าน ถนนถูกแรงของน้ำกัดเซาะพังหลายจุด บ้านเรือนข้าวของเสียหายเพราะขนย้ายสิ่งของไม่ทัน เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 20 ปี แต่อุทกภัยในครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
@@ เบตงประชุมเตรียมรับมือช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย
วันจันทร์ที่ 7 พ.ย.65 ที่ห้องประชุมไกรลาส ที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง เป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอเบตง ภายหลังจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง อ.เบตง ประกาศให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยมีปลัดอาวุโส, หมวดทางหลวงเบตง, หมวดทางหลวงยะรม, ตำรวจ, สาธารณสุขอำเภอเบตง, เกษตรอำเภอเบตง, ประมงอำเภอเบตง, ปศุสัตว์อำเภอเบตง, ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, เจ้าหน้าที่ปกครอง, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่ รายงานความเสียหายด้านต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย สิ่งสาธารณประโยชน์ พืช สัตว์ เป็นต้น พร้อมสำรวจความเสียหาย และชี้แจงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ ระเบียบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และระเบียบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จึงขอให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า
@@ ปภ.เขต.12 ประกอบสะพานแบริ่ง หลังน้ำเซาะคอสะพานขาด
วันเดียวกัน นายซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลย์ เง๊าะ ผู้กำกับการ สภ.จะแนะ, พ.ท.ณัฐวุฒิ ศรีสังข์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ร่วมเดินทางไปอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 จ.สงขลา ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนของสะพานแบริ่งมาประกอบเป็นสะพานชั่วคราว ที่บริเวณคอสะพานรอยต่อระหว่างบ้านไอร์บือแต หมู่ 4 ต.ช้างเผือก กับ บ้านน้ำหอม หมู่ 7 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ ซึ่งถูกถูกกระแสน้ำป่าที่เชี่ยวกรากกัดเซาะจนได้รับความเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
ในการประกอบสะพานแบริ่ง นอกจากจะใช้เครนติดรถบรรทุกของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 จ.สงขลา ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 12 เจ้าหน้าที่ทหาร อส., ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านกว่า 50 คน เข้าช่วยเหลือในการประกอบสะพานให้เสร็จภายใน 2-3 วันนี้ ส่วนในเวลากลางคืน มีการจัดเจ้าหน้าที่ อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. เข้าเวรยาม ณ จุดประกอบสะพายแบริ่ง เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่และเครื่องมือจนกว่าการประกอบสะพานแบริ่งจะแล้วเสร็จ
สำหรับสะพานแบริ่ง มีความยาว 12 เมตร คร่อมคอสะพานที่ขาดกว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร และลึก 10 เมตร เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน จำนวน 832 ครัวเรือน รวม 2,614 คนที่ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ส่วนการแก้ปัญหาคอสะพานที่ขาดหรือชำรุดในระยะยาว ทางจังหวัดนราธิวาสจะเร่งจัดทำงบประมาณ เพื่อนำ “กล่องกระชุหิน” มาจัดเรียงเป็นชั้นๆ จนเต็มพื้นที่คอสะพาน แทนการนำดินมาถมทับและบดเหมือนสภาพเดิมที่ก่อสร้าง เพราะเชื่อว่ามีมาตรฐานและป้องกันการกัดเซาะของกระแสน้ำได้ดีกว่า
@@ จะแนะอ่วมซ้ำ พายุหมุนซัดบ้านเรือนเสียหาย 45 หลัง
อีกด้านหนึ่ง นายสาดี สาและ นายก อบต.จะแนะ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย นำรถบรรทุกน้ำติดเครนตระเวนออกให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านจะแนะ หมู่ 2 ต.จะแนะ จำนวน 45 หลังคาเรือน รวมทั้งศูนย์เยาวชน อ.จะแนะ และโรงเรียนบ้านจะแนะ ที่ได้รับความเสียหายจากฝนตกหนัก และมีพายุหมุนคล้ายพายุงวงช้างขนาดเล็ก พัดถล่มบ้านเรือนเสียหาย บางครอบครัวถึงกับต้องหอบลูกจูงหลานออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย เมื่อพายุหมุนพัดผ่านไปพบว่าบ้านเรือนของชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้า ส่วนใหญ่หลังคากระเบื้องปลิวว่อนไปกับกระแสลม แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ดี บางครอบครัวไม่สามารถอาศัยหลับนอนในบ้านได้ จากกระเบื้องหลังคาที่มุงอยู่บนห้องนอน ห้องครัว และห้องโถง เสียหายทั้งหมด
บ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือบ้านของ นางอิสวาดี มะดีเย๊าะ อายุ 55 ปี เลขที่ 229 บ้านจะแนะ หมู่ 2 ถูกพายุหมุนพัดกระเบื้องหลังคาปลิวหายไปทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันมุงหลังคาโดยด่วน ขณะที่ทาง อบต.จะแนะ นำหลังคากระเบื้องมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน เพื่อเร่งซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ก่อนที่ฝนจะตกลงมาซ้ำอีก