ยะลาอ่วม น้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ “เบตง-บันนังสตา” มีดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก ชาวบ้านเดือดร้อนนับร้อยครัวเรือน “รองผู้ว่าฯธีรุตม์“ สั่งเฝ้าระวังเข้ม ให้อำนาจท้องถิ่นสั่งปิดน้ำตก ถ้ำ ถ้ำลอด ทันทีถ้าเสี่ยงอันตราย
หลายพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะใน จ.ยะลา ทำให้เกิดน้ำท่วม และดินโคลนถล่ม
วันศุกร์ที่ 4 พ.ย.65 ที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้น้ำในคลองเบตงสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในชุมชนกุนุงจนอง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง น้ำทะลักท่วมสวนยางพารา ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่าง และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึง อส.เบตง ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชน ช่วยกันกำจัดขยะที่มากับกระแสน้ำ และช่วยกันวิดน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมฉีดน้ำทำความสะอาดบ้านเรือน และถนนทางเข้าชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. นายแวดอยะ มะลี รองนายก อบต.ยะรม พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบความเดือดร้อนจากอุทกภัย ในพื้นที่จำนวน 2 จุดใหญ่ คือ บริเวณใกล้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านยะรม และหลังร้านมินิมาร์ท, กับบริเวณหลังสนามบินเบตง และข้างโรงอิฐ บ้านบูเก๊ะดาราเซ หลังจากมีฝนตกหนัก ยังดีที่น้ำท่วมไม่นาน ก็ค่อยๆ ลดระดับลง แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
ส่วนที่บ้านกาแป๊ะ กม.3 อ.เบตง เกิดเหตุดินสไลด์จากเนินเขา และต้นไม้ล้มกีดขวางการจราจร ริมถนนสุขยางค์ ซึ่งเป็นเส้นทางไปด่านพรมแดนเบตง ส่งผลให้ผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ได้เร่งเคลียร์พื้นที่ถนน ตัดต้นไม้ออก พร้อมฉีดน้ำทำความสะอาดจนกลับมาใช้ถนนได้ตามปกติแล้ว
@@ บันนังสตาอ่วม น้ำทะลัก
ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. ต่อเนื่องเช้ามืดวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน
ความเสียหายที่ตรวจสอบได้ในเบื้องต้น คือ น้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนทรุด ถนนขาด รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะเดียวกันน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยมีพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายด้วย
@@ เตือน 7 จังหวัดภาคใต้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย.65 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
โดยมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากภาคใต้ ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ย. ได้แก่
1.จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย และเกาะพะงัน)
2.จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม เมืองนครศรีธรรมราช สิชล จุฬาภรณ์ ท่าศาลา นบพิตำ พระพรหม เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด หัวไทร และปากพนัง)
3.จังหวัดพัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง กงหรา ป่าบอน ศรีบรรพต บางแก้ว และเขาชัยสน)
4.จังหวัดสงขลา (อำเภอหาดใหญ่ กระแสสินธุ์ ระโนด สะเดา สทิงพระ สะบ้าย้อย และสิงหนคร)
5.จังหวัดยะลา (อำเภอยะหา และเบตง)
6.จังหวัดปัตตานี (อำเภอสายบุรี)
7.จังหวัดนราธิวาส (อำเภอจะแนะ ยี่งอ ระแงะ สุไหงปาดี)
@@ เฝ้าระวังถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด เสี่ยงภัยสั่งปิดทันที
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปก.ก.) แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน อ.ยะหา เบตง กาบัง บันนังสตา กรงปินัง และธารโต จ.ยะลา
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนัก มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยอันตราย ให้ผู้อำนวยการอำเภอ และผู้อำนวยการท้องถิ่น สั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง