ช่วงนี้มีเทศกาลงานบุญ 2 งานของชาวไทยพุทธแลชาวไทยเชื้อสายจีนที่ เบตง จ.ยะลา ทั้งเทศกาลกินเจและทำบุญวันสารทเดือนสิบ
พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2565 อ.เบตง จ.ยะลา โดยมี นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง และประธานชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีนเบตง, นายเชาวเลิศ วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ ประธานวัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง, หัวหน้าส่วนราชการ คณะม้าทรง-พี่เลี้ยง และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ที่บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง
นายสกุล กล่าวว่า วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง (วัดกวนอิม) ได้จัดงานเทศกาลกินเจมาเป็นเวลา 11 ปีต่อเนื่องกัน จุดเริ่มต้นมาจากชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีนอำเภอเบตง และ ดร.คุณวุฒิ มงคลประจักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตง และประธานวัดกวนอิมในขณะนั้น เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเพณีถือศีลกินเจ จึงเห็นสมควรให้จัดงานเทศกาลกินเจเบตง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบัน
โดยประเพณีกินเจของวัดกวนอิมและชาวไทยเชื้อสายจีนปฏิบัติด้วยความศรัทธา ยืดมั่นในศีล เว้นจากการฆ่าสัตว์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองและครอบครัว
สำหรับปีนี้จัดงานเป็นเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. ถึงวันที่ 4 ต.ค.65 พิธีกรรมและกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การทรงเจ้า แห่พระรอบเมือง การแสดงอิทธิฤทธิ์ของเหล่าม้าทรง เช่น การแทงปากเล่นอาวุธ พิธีลุยไฟ พิธีลุยกระเบื้อง พิธีเล่นน้ำมันเดือด พิธีสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ
ความพิเศษของการจัดงานกินเจเบตง จะมีคณะม้าทรงและคณะสิงโตจากประเทศมาเลเซียมาร่วมงานเป็นประจำทุกปี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดยปีนี้คณะม้าทรงและคณะสิงโตจากประเทศมาเลเซียจะมาร่วมในขบวนแห่เจ้ารอบเมือง ในวันที่ 1 ต.ค.65 ถือเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้านให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองให้คึกคักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีถือศีลกินเจของชาวไทยเชื้อสายจีนให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดและยังสามารถพัฒนาให้เป็นงานที่ได้รับความนิยมในระดับภูมิภาคต่อไป
@@ ชาวเบตงร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบ
อีกงานหนึ่งคือ วันสารทเดือนสิบบุญ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ชาวอำเภอเบตงเข้าวัดทำบุญกันอย่างเนืองแน่น เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับ โดยปีนี้พบว่ามีวัยรุ่น หนุ่มสาว สนใจเข้าวัดร่วมงานบุญกันมากขึ้น
โดยในช่วงเช้าของวันสารทเดือนสิบ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง มีประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อขนม ทั้งขนมลา ขนมต้ม ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมเทียน เพื่อใช้ในการทำบุญที่เรียกว่า “ทำบุญใหญ่ส่งตายายที่วัด” ส่วนราคาขนมยังคงเดิม แม้ว่าราคาต้นทุนสินค้าในการผลิต โดยเฉพาะน้ำตาล แป้ง มะพร้าว และข้าวเหนียว จะปรับสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่มีการขึ้นราคา แม่ค้าบางร้านจัดขนมเป็นชุด ครบทุกชนิด ราคาชุดละ 40 บาท
ประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นงานบุญประเพณีของคนใต้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับ ครั้งแรก คือ ในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 และครั้งที่สอง วันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี ชาวใต้นิยมทำบุญในครั้งที่ 2 เพราะถือเป็นบุญใหญ่
หลังจากที่ซื้อของเพื่อทำบุญวันสารทเดือนสิบบุญ ครั้งที่ 2 แล้ว พุทธศาสนิกชนได้ทยอยเดินทางไปทำบุญวันสารทเดือนสิบ ที่วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อ.เบตง โดยแต่ละครอบครัวพากันหอบลูกจูงหลาน รวมทั้งผู้สูงอายุไปทำบุญด้วยกัน ตามประเพณีของชาวพุทธและเป็นประเพณีของชาวใต้ ที่ได้ยึดถือกันว่า ในวันแรม 1 ค่ำเดือนสิบ เป็นวันที่ยมบาลเปิดนรก ปล่อยเปรตชนมาเยี่ยมลูกหลาน ซึ่งลูกหลานก็ทำบุญต้อนรับครั้งหนึ่ง และในวันแรม 15 ค่ำเดือนสิบ หรือเรียกว่าวันส่งเปรต เป็นวันที่เปรตชนต้องกลับยมโลก ลูกหลานก็จะทำบุญเลี้ยงส่งอีกครั้งหนึ่ง การทำบุญทั้ง 2 ครั้ง เป็นการทำบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้ว
โดยลูกหลานได้อุทิศส่วนกุศลไปให้วิญญาณของบรรพบุรุษที่ตกอยู่ในเปรตภูมิ เป็นคติของศาสนาพราหมณ์ที่ผสมในประเพณีของพุทธศาสนา โดยพุทธศาสนิกชนจะนิยมไปทำบุญ นำอาหารคาวหวานและขนมไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไปถวายพระเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ยังได้เตรียมอาหารคาวหวาน นำสิ่งของไปวาง เพื่อให้เปรตหรือวิญญาณเร่ร่อนมารับส่วนบุญตามความเชื่อ ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญของพิธีชิงเปรต โดยในปีนี้พบว่ามีวัยรุ่น หนุ่มสาว สนใจเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้นด้วย