พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัว 30 เลือดใหม่ ปชป.ทวงปักษ์ใต้คืน "จุรินทร์" น้ำตาคลอขอบคุณชาวใต้สนับสนุน แม้ในยามตกต่ำ "เฉลิมชัย" เดิมพันได้ ส.ส.ต่ำกว่า 52 ที่นั่ง พร้อมวางมือทางการเมือง ด้านพรรคประชาชาติ “วันนอร์-ทวี” นำทีม ส.ส.ร่วมกิจกรรมเดินเพื่อสุขภาพเบตง ส่วน “ชาวลาหู่ เบตง” ซึ้งใจ พ.ต.อ.ทวี รับปากช่วย“ที่อยู่-ที่ทำกิน-สัญชาติ” ขณะที่ อดีต ปธ.พูโล “บือโด เบตง” ขอบคุณ “ทวี” ช่วยพ้นคุกมอบอิสรภาพ “ผู้เห็นต่าง”
วันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค.65 พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะกำกับดูแลภาคใต้ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้สโลแกน "รวมพลัง 30 เลือดใหม่ทวงปักษ์ใต้คืน" ณ ศูนย์ประสานงานสำนักงาน ส.ส. เดชอิศม์ ขาวทอง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
อาทิ นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เขต 1 จ.นครศรีธรรมราช / นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช / นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินงานประธานรัฐสภา เขต 1 สงขลา / นายสมยศ พลายด้วง นักธุรกิจ เขต 3 สงขลา / นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ผู้ช่วย ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง เขต 9 สงขลา / น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวิชิต เขต 3 จ.ภูเก็ต / นายธนวัช ภูเก้าล้วน คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เขต 2 จ.กระบี่ / นายเมธี อรุณ นักร้องนำวงลาบานูน จ.นราธิวาส / นายมีศักดิ์ ภักดีคง อดีตอธิบดีกรมประมง เขต 3 จ.ชุมพร / นายสนิท นาแว อดีตกำนัน ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เขต 1 (ลงแทน นายอันวาร์ สาและ) โดยมีประชาชนชาวสงขลาเกือบ 10,000 คน เข้าร่วมฟังการปราศรัยและเปิดตัว
@@"เฉลิมชัย" เดิมพันได้ ส.ส.ต่ำกว่า 52 ที่นั่ง พร้อมวางมือทางการเมือง
นายเฉลิมชัย กล่าวปราศรัยยืนยันว่า พื้นที่ภาคใต้ 58 ที่นั่งพร้อมสู้ทุกเขตและจะได้ ส.ส. มากกว่า 35-40 ที่นั่ง เพราะครั้งนี้ ผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้มีความเข้มแข็ง และพรรคมีความเป็นเอกภาพ พร้อมประกาศประชาธิปัตย์ในภาคใต้คือบ้านเรา ดังนั้น ต้องเอาบ้านหลังนี้กลับมา พร้อมกันนี้มั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ ส.ส. ทั่วประเทศมากกว่า 52 ที่นั่ง เพราะตนเคยประกาศไว้แล้วว่า หากได้ ส.ส.น้อยกว่า 52 ที่นั่ง จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต
“กรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทยอยลาออกว่า เป็นเรื่องปกติของผู้ที่เห็นบ้านหลังใหม่ดีกว่า แต่พรรคไม่ได้ผิดอะไรและควรต้องถามคนที่ออกไปว่า สำนึกบุญคุณที่เคยให้ที่ซุกหัวนอนหรือไม่ และอย่างที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้ คือ บางทีที่ไหลออกไปก็ไม่ใช่เลือด แต่เป็นแค่หนอง ซึ่งทุกครั้งที่สมาชิกลาออก ตนเสียใจทุกครั้ง แม้บางคนจะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่เป็นเรื่องของความผูกพัน”
เลขาธิการพรรคฯ พร้อมย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าด้วยการสร้างความเป็นเอกภาพ ทำผลงานให้ประชาชน และถ้าตนประกาศสู้แล้ว คู่ต่อสู้ ขี้แตกแน่นอน ขอประชาชนให้กำลังใจ ถ้ามีกำลังใจพรรคประชาธิปัติย์พร้อมสู้ไปกับทุกคน และยืนยันว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ มีผลงานทำเงินเข้ากระเป๋าประชาชน จากนโยบายของพรรค และพรรคประชาธิปัตย์มีคุณสมบัติผู้ดี ที่ไม่เอาประโยชน์ทั้งหมด ขอให้จำคำพูดและถ้ามีผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ลงพื้นที่ ให้มาบอก และหากมีวันนั้น เลขาธิการพรรคต้องไม่ใช่ชื่อ เฉลิมชัย
“ปักษ์ใต้คือบ้านที่มีความรักความผูกพัน จึงขอโอกาสชาวปักษ์ใต้ทั้งหมด ทำการเมืองเข้มแข็ง ขอชาวสงขลาเลือกประชาธิปัตย์ยกจังหวัด การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในอีก 6-8 เดือนข้างหน้า ผมไม่เชื่อว่าความจริงใจที่มีจะสู้เงินไม่ได้ แต่ว่าอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนว่า ความจริงใจอย่างเดียวคงไม่พอ เงินผมก็พอมีบ้าง"
@@"จุรินทร์" น้ำตาคลอขอบคุณชาวใต้สนับสนุน แม้ในยามตกต่ำ
ด้านนายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยว่า ขอบคุณชาวปักษ์ใต้ที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่หัวหน้าพรรคคนแรกจนถึงคนปัจจุบัน ซึ่งมีหัวหน้าพรรคเป็นคนใต้ถึง 3 คน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันกับชาวใต้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะชาวปักษ์ใต้อุ้มชู โดยที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ได้สร้างผลงานให้กับประชาชนมายาวนานถึง 76 ปี แม้ในยามที่พรรคตกต่ำไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และในบางยุคบางสมัยพี่น้องชาวใต้อาจจะลงโทษพรรคประชาธิปัตย์บ้าง แต่พรรคก็ไม่เคยท้อถอย หรือคิดทิ้งประชาชน เพราะท้ายที่สุดที่พึ่งของประชาธิปัตย์ก็คือประชาชน
ทั้งนี้ระหว่างการปราศรัยในช่วงหนึ่งนายจุรินทร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า เป็นความรู้สึกที่ตื้นตันที่ชาวปักษ์ใต้ ซึ่งเป็นหัวใจของพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงให้การสนับสนุนพรรค แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้เพียงแค่ 22 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง ได้ถึง 35 - 40 ที่นั่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และวันนี้พรรคได้ประกาศ 30 เลือดใหม่ ที่จะเป็นกำลังสำคัญที่ทวงคืนปักษ์ใต้ โดยมั่นใจว่าชาวปักษ์ใต้ จะไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ วัดผลได้จากการเลือกตั้งซ่อมทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ยังคงได้รับชัยชนะ
@@ “วันนอร์-ทวี” นำทีม “เดินเพื่อสุขภาพ” พบปะชาวเบตงสุดคึก
อีกพรรคการเมืองหนึ่งที่ลงพื้นที่ทำกิจกรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ พรรคประชาชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ส.ค.65 ที่สนามกีฬาเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “เดินเพื่อสุขภาพ กับ ส.ส.ประชาชาติ” และการแข่งขันฟุตบอล 7 คน “รักประชาชาติ” เบตงคัพ ครั้งที่ 1 โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ส.ส.พรรคประชาชาติ กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เบตง กลุ่มคนพิการ กลุ่มสตรี และประชาชนชาวเบตง มาร่วมกิจกรรมกันอย่างเนืองแน่น
การเดินเพื่อสุขภาพฯ ออกสตาร์ทจากสนามกีฬากลางหุบเขาเมืองเบตง ลงมาทางสระน้ำคงคา ลอดอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ จากนั้นเดินไปทางพลาซ่า พบปะพี่น้องประชาชนในตลาดสด มีการพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบอย่างเป็นกันเอง
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้นำคณะ 7 คน ร่วมเตะฟุตบอลกับกลุ่มสตรีเบตง 15 คน โดยนาทีที่ 5 พ.ต.อ.ทวี พาบอลยิงเข้าประตู ชนะ 1- 0 สร้างความสนุกสนานให้กับประชาชนและคณะที่มาร่วมกิจกรรมอย่างมาก
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังได้ร่วมหารือแนวทางการพัฒนาสนามกีฬากลางหุบเขา กับ นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เพื่อนำทีมฟุตบอลระดับชาติลงแข่งขันในโอกาสต่อไป
@@ “ชาวลาหู่ เบตง” ซึ้งใจ พ.ต.อ.ทวี รับปากช่วย“ที่อยู่-ที่ทำกิน-สัญชาติ”
ที่คริสตจักรบ่อน้ำร้อน เขต 1 ภาค 18 สภาคริสตจักรในประเทศไทย บ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์คนไทยภูเขาชาวลาหู่
โอกาสนี้ นางเบญจมาศ สิมณีเลิศ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ พ.ต.อ.ทวี เร่งผลักดันช่วยเหลือให้กับกลุ่มชาติพันธุ์คนไทยภูเขาชาวลาหู่ ที่อาศัยอยู่ใน อ.เบตง มากกว่า 300 คน ได้มีที่ดินทำกิน เพราะคนกลุ่มนี้ไม่มีแม้ที่อยู่อาศัยของตนเอง และไม่มีสัญชาติไทย จึงอยากขอให้ได้สัญชาติไทยด้วย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับพี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองลาหู่ วันนี้ได้มาให้กำลังใจ ทางพรรคมีความสนใจที่จะมารับฟังปัญหาของพี่น้องชนเผ่าพื้นเมือง ทั้งสิ่งที่ได้รับความเดือดร้อน และสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือ ทราบว่าส่วนใหญ่มาจากบนดอยใน จ.เชียงราย อยู่ชายแดนที่เป็นรอยต่อระหว่างเมียนมากับลาว แต่มาอยู่ที่นี่ ใต้สุดติดกับประเทศมาเลเซีย จากเหนือสุด จ.เชียงราย มาอยู่ใต้สุด จ.ยะลา
“ในประเทศไทยเรามีกฎหมายสูงสุด เราเรียกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ จะให้ความคุ้มครองคนที่เกิดในเมืองไทย ทั้ง บุคคลและชุมชนต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองสงวนและรักษา สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ คือชนเผ่าพื้นเมือง มีวัฒธรรม อุดมการณ์ ความเชื่อ และขนบธรรมเนียมประเพณีของตนเอง ฉะนั้นเมื่ออยู่ในประเทศไทยก็จะต้องให้ทุกคนได้อยู่ในประเทศไทยอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน”
“กฎหมายรัฐธรรมนูญเราคุ้มครองแล้ว แต่ในทางกฎหมายของราชการยังไม่ได้มาคุมครอง มีจำนวนมากยังไม่มีบัตรประชาชน จำนวนมากยังไม่ได้สัญชาติ มีจำนวนมากไม่มีที่ดินทำกิน และมีจำนวนมากต้องเร่ร่อน ไร้ที่อยู่อาศัย การได้เจอกันเป็นเรื่องยากมาก กว่าจะได้เจอกัน แต่สิ่งที่เราได้เจอกันเราต้องเป็นพี่น้องกัน เราต้องช่วยเหลือกัน คิดอะไรไม่ออกให้คิดถึง ท่านอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา ของพรรคประชาชาติ ที่มีความรับผิดชอบเขตเบตงด้วย” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ด้านนางเบญจมาศ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางมาพบ เพราะรอมานานที่จะได้เจอท่านทวี แต่วันนี้เราได้เจอแล้ว ได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือในเรื่องของที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน และขอสัญชาติ เรื่องที่อยู่อาศัยที่เราเดือดร้อนมาก อยากให้ท่านได้ช่วยเหลือพวกเราด้วย
@@“ทวี”อัดรัฐไม่สนใจ “โรคใบร่วง”ระบาดหนักซ้ำเติมชาวสวนยางใต้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรับฟังปัญหา โอกาส และ ทางรอดของชาวสวนยางภาคใต้ โดยเฉพาะปัญหาของ “โรคใบร่วงในยางพารา” ซึ่งแพร่ระบาดมาระยะหนึ่งแล้วในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนและความทุกข์กังวลใจให้กับเกษตรกรอย่างมาก
ลักษณะอาการของ “โรคใบร่วง” คือ ใบยางพาราจะร่วงทั้งที่มีสีเขียวสดและสีเหลือง ส่งผลกระทบทำให้น้ำยางลดลง 80 เปอร์เซ็นต์
นายรุ่งโรจน์ เซว่อง ประธานกลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ และ นางรุ่งราวัลย์ เลิศลำยอง ชาวสวนยางเบตง เล่าว่า ขณะนี้ชาวสวนยางเดือดร้อนอย่างหนัก นอกจากราคาถูกแล้วยังได้รับผลผลิตน้อยลงมาตลอดหลายปี ขณะที่แนวทางแก้ปัญหาจากภาครัฐก็ยังไม่ชัดเจน หนำซ้ำระยะหนีฝนตกบ่อย ส่งผลกระทบให้ชาวสวนยางเดือดร้อน รายได้ไม่พอกับรายจ่าย
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ ต้องยอมรับว่าเกษตรกรอยากได้ราคายาง 60 บาทตอนนี้ราคา 43 บาท ขณะที่ราคาน้ำมัน ราคาปุ๋ยแพงขึ้น ชาวสวนยางมีต้นทุนสูงขึ้น ซ้ำยังเจอสถานการณ์ยางมีโรคใบร่วง เป็นความเป็นจริงที่เจ็บปวดของพี่น้องชาวสวนยาง รัฐบาลไม่มีความจริงใจในนการแก้ปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนยางเลย
@@อดีต ปธ.พูโล “บือโด เบตง” ขอบคุณ “ทวี” ช่วยพ้นคุกมอบอิสรภาพ “ผู้เห็นต่าง”
ค่ำวันศุกร์ที่ 12 ส.ค.65 ที่มาร์มอเตอร์คาร์ หมู่ 1 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และส.ส.พรรคประชาชาติ ตลอดจนผู้บริหารพรรค ร่วมพบปะแกนนำพรรคในพื้นที่เบตงและใกล้เคียง
โอกาสนี้ ร.ต.อ.สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม และ นายมะอูโซะ สาลัง นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ ตลอดจนผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา ประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น
หะยี บือโด หรือ “บือโด เบตง” หรือ “บาบอแมเบตง” หรือ นายหะยี อาเซ็ม อายุ 83 ปี อดีตประธานขบวนการพูโล ได้ปรากฏตัวเพื่อพบปะและขอบคุณ พ.ต.อ.ทวี ที่เคยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเรื่องการพักโทษและปล่อยตัวจากเรือนจำ
โดย หะยี บือโด ได้รับการพักโทษและปล่อยตัวเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม และ 5 ธันวาคม 2556 ในเงื่อนไขพักโทษผู้ต้องขังสูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และรับโทษมาแล้วเกินกึ่งหนึ่ง
หะยี บือโด เป็นผู้ต้องขังคดีความมั่นคงที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.41 ศาลลดโทษเหลือจำคุก 34 ปี ขณะขอพักโทษ จำคุกมาแล้ว 17 ปี ในขณะที่ได้รับการปล่อยตัว หะยี บือโด อายุ 74 ปี ซึ่งช่วงนั้นเป็นห้วงเวลาที่ พ.ต.อ.ทวี ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และได้พยายามให้ผู้คิดต่างทุกคนมีโอกาสกลับสู่เสรีภาพ เพื่อร่วมพัฒนาพื้นที่และประเทศของตนเอง ภายใต้รัฐธรรมนูญ
หะยี บือโด เบตง กล่าวว่า รู้สึกยินดีและดีใจมากที่ได้เจอ พ.ต.อ.ทวี อีกครั้ง ท่านเคยไปที่บ้านสมัยที่ท่านเป็นเลขาธิการศอ.บต. ตอนนั้นคนที่ได้ออกมาจากคุกพร้อมกันมี นายหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ หรือ นายมะแอ สะอะ หรือ “หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ” อีกคนหนึ่ง
“ต้องขอบคุณมากที่ท่านได้มอบอิสรภาพ และดีใจมากที่ท่านได้เอาคนในคุกออกมา ดีใจมากๆ เลยที่ได้เจอ ท่านเคยไปที่บ้านแล้ว ดีใจที่ได้เจออีก ท่านเป็นคนดี” หะยี บือโด กล่าว
@@ แวะร้านอาหาร “หวายร้อยลี้” รับฟังแนวทางการพัฒนา
อีกจุดหนึ่งที่ พ.ต.อ.ทวี พร้อมคณะ เดินทางไปรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเรื่องการพัฒนา ระหว่างลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ช่วงวันที่ 12-13 ส.ค.65 ก็คือ ร้านอาหารหวายร้อยลี้ ถนนรวมวิทย์ อ.เบตง มีการนั่งโต๊ะพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังได้เยี่ยมชมร้านอาหารหวายร้อยลี้ และร้านสุวรรณรส และร้านกาแฟในย่านเดียวกัน
ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าในร้าน และคณาจารย์ จาก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก