ศาลยะลาออกหมายจับ “กัสตูรี มะห์โกตา” อยู่เบื้องหลังสมาชิก “PULO G5” ก่อเหตุป่วนชายแดนใต้ หลังจับกุมยกชุด พร้อมยึดอุปกรณ์ประกอบระเบิดอีกเพียบ ด้านประธานพูโลเผยยังใช้ชีวิตตามปกติ มองเป็นเรื่องดีรัฐไทยยกระดับให้ความสนใจ
เมื่อวันพฤหัสดีที่ 4 ส.ค.65 ศาลจังหวัดยะลาออกหมายจับ นายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานองค์การปลดปล่อยสหปาตานี หรือ PULO กลุ่ม PULO-MKP โดยเป็นหมายจับเลขที่ 356/2565 ตามคำร้องของ พ.ต.ท.คงฤทธิ์ วงษ์วอ พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจัหงวัดยะลา
ข้อความในหมายจับระบุว่า นายวาบาโตบาตัน อิสสมะแเอ หรือ นายกัสตูรี มะห์โกตา ได้กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย, เป็นอั้งยี่, เป็นซ่องโจร, ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้าหรือจำหน่ายวัตถุระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น, ร่วมกันย้ายวัตถุระเบิดจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
โดยมีหลักฐานตามสมควรว่า นายกัสตูรี มะห์โกตา ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี และได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญา มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี
เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ เผยว่า หมายจับนายกัสตูรี มะห์โกตา สืบเนื่องมาจากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังปิดล้อม ตรวจค้น สามารถควบคุมตัวสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ กลุ่ม PULO G5 และยึดวัตถุระเบิดในพื้นที่ บ้านปูลาสะนอ หมู่ 3 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 และนำตัวไปดำเนินการซักถาม ขยายผล จนทราบรายชื่อสมาชิกในเครือข่ายและแหล่งซุกซ่อนวัตถุระเบิดในพื้นที่ ทำให้สามารถควบคุมตัวสมาชิกในเครือข่ายและยึดสิ่งอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดเพิ่มเติมได้เป็นจำนวนมาก และทำให้เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมหลักฐาน คำให้การ และวัตถุพยานต่างๆ นำตัวผู้กระทำความผิดส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และเชื่อมโยงไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังของกลุ่ม PULO G5
ด้านนายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานองค์การปลดปล่อยสหปาตานี (PULO-MKP) กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ทราบเรื่องหมายจับจากเพื่อนที่ประเทศไทยส่งมาให้ แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ไทยติดต่อมา หรือเจ้าหน้าที่ทางนี้มาหา (นายกัสตูรี่ พำนักอยู่ที่สวีเดิน และเคยเดินทางเข้ามาเลเซีย) ตอนนี้ยังใช้ชีวิตปกติ สำหรับเรื่องหมายจับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นเรื่องปกติของนักรบ
“แต่ก็ยืนยันว่าไม่กระทบต่อความพยายามที่กำลังทำ และไม่กระทบต่อการพูดคุยสันติสุขกับกับรัฐบาลไทยที่ตอนนี้มีความคืบหน้า เบื้องต้นยังไม่ได้คุยอะไรกับคณะพูดคุยฝ่ายไทย ก็คงต้องรอดูก่อน ยืนยันว่าไม่กระทบ แต่ทำให้การเคลื่อนไหวแคบลง”
ประธานพูโล กล่าวอีกว่า ส่วนตัวกลับมองว่ารัฐไทยได้ยกระดับพูโล ก็ดีเหมือนกัน ทำให้คนสนใจพูโล ซึ่งเป็นไปตามที่เรากำลังพยายามมาตลอด เพราะปกติแล้วแม้ตนไม่ได้มีหมายจับ ตนก็กลับบ้านที่ไทยไม่ได้อยู่แล้ว กลับไปเขาก็จับ วันนี้มีหมายจับก็เหมือนกับช่วยยกระดับให้
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา พูโลมีความพยายามที่จะทำงานเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหา พอมาเจอเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นชัดว่า รัฐเองก็มีความแตกแยก กลุ่มหนึ่งพยายามคุย อีกกลุ่มใช้มาตรการเด็ดขาด จะแก้ปัญหายากและลำบากถ้าเป็นแบบนี้ เพราะอันนี้ เป็นเรื่องนโยบาย ก็ต้องแก้ไข ถ้าไม่แก้ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องขอบคุณตำรวจยะลาและขอบคุณศาลยะลาที่ช่วยยกระดับ” นายกัสตูรี่ กล่าว