“นายกอ๋า” ปิ๊งไอเดียจัด “เวิร์คชอป - ประกวด และเปิดเวทีแฟชั่นโชว์” เครื่องแต่งกายมลายู ภายใต้ชื่อ “ปากายัน มลายู” หวังให้ยะลาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นเสื้อผ้า มีแบรนด์ของตัวเอง ต่อยอดพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ สร้างโอกาสคนรุ่นใหม่ ขณะที่กิจกรรม “ยะลามาราธอน” ปลุกเมืองคึกคัก เติมสีสันและชีวิตชีวาให้นักวิ่ง นักท่องเที่ยว และชาวเมือง
เมื่อเร็วๆ นี้ นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา, นายมูฮัมหมัด ริซวาน อบู ยาซิด กงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา, นางอภิญญา สุวรรณ วัฒนธรรมจังหวัดยะลา และ น.ส.รัตนา ไมสัน ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลา ร่วมแถลงข่าวโครงการส่งเสริมอนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นมลายู ประจำปี 2565 ที่ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา
รองผู้ว่าฯอำนาจ กล่าวว่า นโยบายการพัฒนาด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจจังหวัดยะลา สอดคล้องกับโครงการส่งเสริมอนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นมลายู หรือที่เรียกว่า “ปากายัน มลายู”
“ผมเชื่อมั่นว่าโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ของเทศบาลนครยะลาที่ช่วยเสริมสร้างด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับเกียรติและได้รับความร่วมมือด้วยดีจากประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ในการจัดงาน ‘ปากายัน มลายู’ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นด้านเครื่องแต่งกาย และสร้างความร่วมมือ ตลอดจนความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน” รองผู้ว่าฯยะลา กล่าว
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อคราวที่ตนหาเสียงเลือกตั้ง ตนสังเกตว่าเมืองยะลามีร้านขายผลิตภัณฑ์ผ้าและร้านขายเสื้อผ้าเป็นจำนวนมาก ก็ได้แต่สงสัยในใจว่าเขาจะขายให้ใคร ต่อมาเมื่อได้รับรู้จากผู้ประกอบการเมื่อครั้งจัดการประชุมระดมความคิดเห็น จึงได้ทราบว่ายะลามีผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการขายออนไลน์ และการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการส่วนหนึ่งที่ยังต้องการการสนับสนุนด้านความรู้ การออกแบบแฟชั่น การเพิ่มมูลค่าสินค้า การพรีเซ็นต์สินค้า การเข้าใจธุรกิจสินค้าแฟชั่น การสร้างแบรนด์ และการทำตลาดสินค้าแฟชั่น
ดังนั้นเพื่อให้เกิดการผนึกกำลังระหว่างผู้ประกอบการจำหน่ายผ้าในจังหวัดยะลา ผู้ผลิตผ้าพื้นเมือง นักออกแบบผ้าดีไชน์เนอร์ สามารถสร้าง House Brand เพื่อเป็นผู้นำแฟชั่น เทศบาลนครยะลาจึงได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่น จากสถาบันแฟชั่น Bangkok FA มาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ประชาชน และนักเรียน นักศึกษา เมื่อวันที่ 19- 21 ก.ค.65 ที่ผ่านมา
ส่วนการต่อยอดในการสร้างความยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นในวงการแฟชั่นมลายู หรือ “ปากายัน มลายู” ตนมีความคิดที่จะจัดเวทีการประกวดออกแบบลายผ้า และออกแบบเครื่องแต่งกาย โดยให้ผู้ประกอบการผ้า ผู้ผลิตผ้าพื้นเมือง นักออกแบบผ้า ดีไชน์เนอร์ ได้มีโอกาสส่งผลงานการออกแบบลายผ้า และการออกแบบดีไซน์แฟชั่นมลายู เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการแข่งขัน และผลักดันเมืองยะลาให้เป็นศูนย์กลางแฟชั่นผ้ามลายู โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างสถานกงสุลใหญ่อินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา สถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา กระทรวงมหาดไทย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลา และผู้ประกอบการด้านผ้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
กิจกรรม “ปากายัน มลายู” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 ส.ค.65 ที่อาคารอุทยานการเรียนรู้ TK park เทศบาลนครยะลา รายละเอียดของกิจกรรมประกอบด้วย
วันที่ 5 ส.ค.65 เสวนาทางวิชาการ “การสร้างแบรนด์และเพิ่มมูลค่าแฟชั่นผ้ามลายูสู่สากล”
วันที่ 6 ส.ค.65 มีกิจกรรมการตัดสินการประกวด 2 ประเภท คือ
1.ออกแบบลายผ้า มีผู้สมัครเข้ารับการประกวด จำนวน 31 ราย ผ่านเข้ารอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 26 ก.ค.จำนวน 10 ราย เพื่อตัดสินรางวัลที่ 1–3
2.ออกแบบเครื่องแต่งกาย มีผู้สมัครเข้าประกวด จำนวน 65 ราย ผ่านเข้ารอบคัดเลือก จำนวน 19 ราย เพื่อตัดสินรางวัลที่ 1–3
วันที่ 7 ส.ค.65 มีกิจกรรมการเดินแฟชั่นโชว์ ไม่น้อยกว่า 40 ชุด ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายที่ชนะการประกวดในครั้งนี้ รวมทั้งเครื่องแต่งกายแฟชั่นมลายูจากประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย และประเทศบรูไน ร่วมด้วยเครื่องแต่งกายจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา
นอกจากนี้ ในทุกวันจะมีการจัดนิทรรศการ Workshop ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ หรือ Young Disigner ให้สานต่อการออกแบบ การออกร้านจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายมลายู จากผู้ประกอบการในประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย กิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของทั้ง 3 วัน คือวันที่ 5–7 ส.ค.65 ที่อาคารอุทยานการเรียนรู้ เทศบาลนครยะลา
เป้าหมายของกิจกรรมครั้งนี้ จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มขึ้น เพื่อให้ยะลาเป็น “ศูนย์กลางปากายัน มลายู”
@@ กว่า 6,000 ชีวิต ร่วมวิ่ง “ยะลามาราธอน” คึกคัก
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่เทศบาลนครยะลาเช่นกัน ช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค.65 นักวิ่งกว่า 6,000 คน ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งผู้ใหญ่ เด็ก ผู้สูงอายุ ทั้งจากในพื้นที่และต่างพื้นที่ ตลอดจนนักวิ่งจากต่างประเทศ รวมไปถึงนักวิ่งแฟนซี ได้ไปรวมตัว ณ จุดสตาร์ท สนามโรงพิธีช้างเผือกเทศบาลนครยะลา เพื่อร่วมกิจกรรมงานวิ่ง Yala marathon 2022
กิจกรรมครั้งนี้ทำให้บรรยากาศในเทศบาลนครยะลาคึกคักและมีชีวิตขีวามาก เนื่องจากห่างหายจากการจัดงานวิ่งมาราธอนนานร่วม 2 ปี จากสถานการณ์โควิด-19
สำหรับการจัด “ยะลามาราธอน ครั้งที่ 2” นี้ ทางเทศบาลนครยะลาได้ร่วมกับจังหวัดยะลา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ประซาสัมพันธ์ของดีเมืองยะลา ส่งเสริมสุขภาพ และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ชาวยะลา รวมทั้งนำรายได้จากการจัดกิจกรรม จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการศึกษาแก่เยาวชนในพื้นที่ ซึ่งตลอดงานอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่จัดการแข่งขัน สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่จัดการแข่งขัน ยกเว้นตอนวิ่ง ระหว่างทางแข่งขัน และจะต้องรักษาระยะห่าง
งานนี้ นายภิรมย์ นิลยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดกิจกรรม และปล่อยขบวนนักวิ่ง ร่วมกับ นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา
“ยะลามาราธอน” แบ่งเป็น 4 ระยะ โดยเริ่มต้นปล่อยตัว ฟูลมาราธอน 42.195 กิโลเมตร เมื่อเวลา 03.00 น. มีนักวิ่ง ชาย หญิง เข้าร่วม 512 คน ตามด้วยฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ปล่อยตัวเมื่อเวลา 05.00 น. มีนักวิ่ง ชาย หญิง เข้าร่วม 928 คน
ต่อจากนั้นเป็น มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร ปล่อยตัวเวลา 05.30 น. มีนักวิ่งเข้าร่วม 1,396 คน และฟันรัน 5.5 กิโลเมตร มีนักวิ่ง ชาย หญิง และเด็ก เข้าร่วม 3,502 คน รวมทุกระยะมีนักวิ่งจำนวน 6,338 คน ใช้เส้นทางการวิ่ง ภายในเขตเทศบาลนครยะลาตามที่กำหนด ผ่านจุดหลักๆ อาทิ วงเวียนศาลเจ้าพ่อหลักเมือง วัดเมืองยะลา โรงเรียนพระดาบส วัดเวฬุวัน แยกบ้านร่ม สะพานท่าสาป วงเวียนบ่อเจ็ดลูก เมืองใหม่ ศูนย์ฮอนด้า สามแยกแกรนด์พาเลซ โคลีเซียม วงเวียนหอนาฬิกา วัดพุทธภูมิ ปั๊ม C วงเวียนบ่อเจ็ดลูก โดยมี จุด START – FINISH ที่ สนามโรงพิธีช้างเผือก
ตลอดเส้นทางการวิ่ง ทาง สภ.เมืองยะลา ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการรักษาความปลอดภัย ร่วมกับ อส. (อาสารักษาดินแดน) และเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม
นอกจากนี้ยังมีชาวยะลา ชาวชุมชนเทศบาลนครยะลา นำคณะกลองยาว นางรำ มาร่วมต้อนรับ และโบกไม้โบกมือเป็นกำลังใจให้นักวิ่งตลอดเส้นทาง กิจกรรมเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข