พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธีอัญเชิญหีบศพ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และอดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ กับหีบศพ พระสมุห์ อรรถพร กุสลจิตฺโต อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ ขึ้นสู่จิตกาธาน (เชิงตะกอน) เมรุชั่วคราว เมื่อวันที่ 28 เม.ย.65 ที่ผ่านมา
พิธีจัดขึ้นที่วัดรัตนานุภาพ ตั้งอยู่ที่บ้านโคกโก หมู่ 2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยการอัญเชิญหีบศพขึ้นสู่จิตกาธาน เพื่อเตรียมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค.65
พระทั้ง 2 รูปมรณภาพจากเหตุการณ์คนร้ายบุกใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงถึงในวัดและที่กุฏิ เมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค.62 โดยในเหตุการณ์เดียวกันยังมีพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รูป
สำหรับพิธีอัญเชิญหีบศพ มีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์เปิดงาน จากนั้นจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมจนถึงวันที่ 30 เม.ย. เพื่อให้พุทธศาสนิกและศิษยานุศิษย์ได้ร่วมแสดงความอาลัย ซึ่งภิกษุทั้ง 2 รูป โดยเฉพาะ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ หรือ “พ่อท่านหว่าง” (สว่าง จันทวังโส) เป็นพระที่ประชาชนเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก ทำให้พิธีอัญเชิญหีบศพ และสวดพระอภิธรรม มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่และนอกพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพราะทุกคนยังคงเสียใจกับการจากไปของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ที่รู้จักกันในฐานะพระนักปฏิบัติ และเป็นผู้สร้างศาสนสถานวัดรัตนานุภาพ ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี
@@ เลขาฯประชาชาติ ประธานฝ่ายฆราวาสพิธีสวดพระอภิธรรม
พระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีสวดพระอภิธรรม โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทั้งยังมี นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ หรือ “นายกโปร่ง” อดีตนายกเทศมนตรีนครนราธิวาส และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ เข้าร่วมพิธีสวด พร้อมกับพี่น้องพุทธศาสนิกชน
พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวถึงความรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า พี่น้องประชาชนต้องสูญเสียพระสงฆ์ที่เคารพนับถือ ซึ่ง พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เป็นภิกษุที่ได้รับการยอมรับทั้งพุทธศาสนิกชน และพี่น้องไทยมุสลิม จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญ
หลังเสร็จภารกิจที่วัด พ.ต.อ.ทวี ถือโอกาสเดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนครอบครัวพี่น้องขาวพุทธเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
@@ ลงพื้นที่ตรวจสอบ “ป่าทับที่ชาวบ้าน” 20,000 ไร่
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พระเทพศีลวิสุทธิ์ ได้พา พ.ต.อ.ทวี ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพหมู่บ้านของชาวบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งในอดีตที่ดินทั้งหมดนี้เนื้อที่ราวๆ 20,000 ไร่ เคยเป็นที่ทำกินของชาวบ้านมาก่อน แต่ปัจจุบันชาวบ้านกลับกลายเป็นผู้บุกรุกป่า ทั้งๆ ที่มีหมู่บ้านตั้งอยู่ถึง 8 หมู่บ้าน ในเขต อ.สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ
หลังจากตรวจสอบสภาพพื้นที่ และสอบถามข้อมูลจากปลัดอำเภอ ตลอดจนฝ่ายปกครอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ ก่อนจะมีการประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เคยเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้าน มีหนังสือแสดงสิทธิ์ นส.3 และบางรายก็มี สค.1 แต่เมื่อประกาศ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ประกอบกับมีการประกาศพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ เมื่อปี 62 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เข้มข้นมาก ทำให้สถานะของชาวบ้านเปลี่ยนไป
“ชาวบ้านกลายเป็นผู้บุกรุกป่า ทั้งที่เขาอยู่มาก่อน นี่คือส่วนหนึ่งของปัญหาที่พรรคประชาชาติพยายามรณรงค์ให้แก้ไขกฎหมายฉบับนี้โดยด่วน เพราะส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนไม่เฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มีปัญหาไปทั่วประเทศ”
“ขณะที่ปัญหาอีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องอาชีพที่ชาวบ้านทำอยู่ เมื่อกลายเป็นที่ของรัฐ การจะทำสาธารณูปโภค เช่น คลองส่งน้ำก็ดี ถนนหนทางก็ดี ต้องไปขออนุญาตกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งที่เจ้าของตัวจริงคือชาวบ้าน ด้วยเหตุนี้สาธารณูปโภคต่างๆ ก็เลยทำไม่ได้ คือชาวนาก็ต้องมีน้ำทำนา ชาวบ้านต้องมีน้ำ แต่ทำคลองส่งน้ำไม่ได้ อันนี้ก็เป็นปัญหา ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาของที่ดินผืนนี้ ถ้าไม่ได้ พระเทพศีลวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นพระที่ประชาชนเคารพนับถืออย่างกว้างขวาง ก็คงไม่มีหน่วยงานใดสนใจ
“เสียงชาวบ้านจะไม่ค่อยดัง ยังดีที่มีพระเทพศีลวิสุทธิ์ ท่านเป็นพระนักพัฒนาด้วย ท่านพูดโดยไม่มีผลตอบแทนอะไร แต่ท่านอยากให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ อยู่ด้วยความเป็นธรรม และอยู่อย่างมีความสุข เขามีสิทธิ์อยู่ วันนี้ก็ได้มาดูให้เห็นกับตา ท่านเจ้าคุณบอกว่า ครอบคลุม 20,000 ไร่ ประมาณ 8 หมู่บ้าน อันนี้ต้องแก้เชิงระบบ” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว