สงกรานต์เบตงกลับมาคึกคัก หลังนักท่องเที่ยวชาวไทยแห่เที่ยวมากขึ้น ผลจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” คาดเงินสะพัดหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท ส่วนตลาดรอมฎอนปัตตานี ชาวบ้านแห่ซื้ออาหารละศีลอดแน่นทุกวันแม้ราคาจะสูงขึ้น
บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันครอบครัวในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ตลอดช่วงวันหยุดยาว 5 วัน ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวในประเทศอย่างคึกคัก เมื่อเทียบกับช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมา โดยพบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยได้วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.เป็นต้นมา โดยวางแผนเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะโซนทางภาคใต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมองหาแหล่งท่องเที่ยวเน้นการเดินทางสะดวก สามารถขับรถไปได้
ทำให้พื้นที่ อ.เบตง ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ ที่มีความสวยงาม อาทิ สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง, ฆูนุงซีลีปัต , อุโมงค์ปิยะมิตร, สวนหมื่นบุปผา, สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง และจุดเช็คอินในเมืองเบตง ทั้งหมดล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งขณะนี้ฝั่งเบตงยังไม่มีการเปิดด่านพรมแดน จึงมีเฉพาะนักท่องเที่ยวในประเทศเท่านั้น
โดยช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้และเงินหมุนเวียนประมาณ 20 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 60% ซึ่งถือว่าคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลจัดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 4 ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 31 พ.ค. 65 โดยสนับสนุนสิทธิ์ค่าโรงแรม ที่พัก คนละไม่เกิน 10 ห้อง โดยที่รัฐบาลสนับสนุนค่าที่พักตามโครงการไม่เกินร้อยละ 40 ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จำนวน 2 ล้านสิทธิ์และไม่มีมาตรการห้ามเดินทางข้ามภูมิภาค ทั้งยังให้สามารถจัดงานได้ แต่เน้นเรื่องประเพณี การแสดงวัฒนธรรม ภายใต้มาตรการรักษาระยะห่าง และ COVID Free Setting
แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังพบการติดเชื้อต่อเนื่อง รวมถึงเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว จึงเป็นเหตุผลที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และปรับลดค่าใช้จ่ายทั้งในการเดินทางท่องเที่ยวและการซื้อของฝาก แต่บรรยากาศโดยภาพรวมก็ถือว่าคึกคักสำหรับเมืองรองอย่างเบตง
@@ชาวบ้านซื้ออาหารละศีลอดแน่นตลาดรอมฎอนปัตตานี
ส่วนการจำหน่ายอาหารตลอดเดือนรอมฎอนในเมืองปัตตานี มีตลาดใหญ่ๆ ที่เป็นที่รู้จักว่าเป็นแหล่งรวมอาหารคาวหวานนานาชนิด เช่น ตลาดรอมฏอนจะบังติกอ ตลาดปากน้ำ ตลาดปูยุด และตามสองข้างทางถนนทั่วไป เรียกได้ว่าหาซื้อเตรียมไว้เป็นมื้อละศีลอดและซุโฮร์ (ทั้งช่วงพระอาทิตย์ตก และก่อนพระอาทิตย์ขึ้น) กันได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายของแต่ละวันกันเลย
โดยที่ “ตลาดรอมฎอนจะบังติกอ” ปีนี้ มีการจัดระเบียบตลาดตั้งแต่บริเวณด้านหน้าติดถนนยะรัง เพื่อการจราจรที่คล่องตัว จอดรถเป็นระเบียบ ไม่ซ้อนคัน โดยทางเทศกิจ เทศบาลเมืองปัตตานีและตำรวจจราจร สภ.เมืองปัตตานี ตรวจวัดอุณหภูมิและฉีดแอลกอฮอล์ก่อนเข้าตลาด คนจะแน่นช่วง 5 โมงถึง 6 โมงเย็น เลือกซื้อหาอาหารหลากหลายชนิดและรสชาติได้จากตลาดนี้
แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ราคาวัตถุดิบต่างพากันขึ้นราคา และแม่ค้าพ่อค้ามีจำนวนมากขึ้น ทั้งรายเล็กรายใหญ่ อาหารยังเป็นปัจจัยสำคัญในการยังชีพ การซื้อหาเท่าที่จำเป็นและเพียงพอจึงเห็นได้ทั่วไปในเดือนนี้ ผู้ขายต่างก็บอกถึงรายได้ที่หดหายไปไม่น้อย ผู้ซื้อก็บอกถึงภาวะจำเป็น
มาซือเตาะ ตาเฮ แม่ค้าขายขนมหวานหลายชนิด บอกว่า ปีนี้มีแม่ค้าเพิ่มขึ้นเยอะ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนมาค้าขายมากขึ้น ต้องทำให้รสชาติดี หน้าตาน่าทาน ราคาเหมาะสม ลูกค้าจึงจะชอบ และเป็นลูกค้าประจำ ขายตลาดนี้มาหลายปี ปีนี้ที่รายได้หายไปพอสมควร แต่ก็ยังหมุนเวียนได้และพอใจ
ด้านลูกค้าอย่าง ซอและ อารง บอกว่า ตลาดจะบังติกอมีอาหารหลากหลาย เลือกได้ตามชอบและเปลี่ยนเมนูได้ไม่ซ้ำ ราคาและปริมาณรับได้ อาจมีบางเจ้าที่ราคาสูงเกินไป ส่วนตัวจะซื้อให้พอในสองมื้อ ทั้งละศีลอดและทานก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งไม่ให้มีเหลือและไม่ทานมากเกินไป
เมื่อซื้อหาอาหารมาทานละศีลอดกันช่วงหลังพระอาทิตย์ตกแล้ว จากนั้นเมื่อถึงเวลาละหมาดตะรอเวียะฮ์ (ละหมาดในยามค่ำคืนของเดือนรอมฎอน) โดยเป็นการละหมาดร่วมกันในมัสยิด ในเมืองปัตตานีที่มีพี่น้องมุสลิมมาร่วมละหมาดตะรอเวียะฮ์กันจำนวนมาก คือมัสยิดกลางปัตตานีและมัสยิดรายอฟาฏอนี จะบังติกอ ด้วยสถานที่ที่สามารถจุคนละหมาดได้จำนวนมากทั้งภายในและภายนอกมัสยิด มีการแบ่งฝั่งชายหญิงและการเว้นระยะห่างตามสมควร ตามมาตรการป้องกันโควิด