ศบค.ส่วนหน้า ตั้งเป้าเปิดเมืองชายแดนใต้ 15 ธ.ค.นี้ หวังฟื้นเศรษฐกิจรับปีใหม่ ปัตตานีสั่งปิด 14 วัน โรงงานเฟอร์นิเจอร์ “ซูเพิร์บ” หลังพบพนักงานติดเชื้อ 30 ราย ด้านตัวเลขติดเชื้อใหม่รวม 6 จังหวัด 1,409 ราย ป่วยดับ 7 ศพ
วันพฤหัสบดีที่ 11 พ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง โดยที่ จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 200 ราย ทำให้หลุดออกจาก 10 อันดับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ
จากข้อมูลของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของสามจังหวัดชายแดนใต้ และ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 11 พ.ย.64 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ (ไม่รวมผู้ต้องขังในเรือนจำ) อยู่ที่ 176,755 ราย
ส่วนรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รวม 1,409 ราย และเสียชีวิต 7 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 496 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 53,506 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 53,483 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,924 ราย รักษาหายแล้ว 47,388 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 194 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 4,295 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 12,055 ราย, อ.เมืองสงขลา 7,280 ราย, อ.จะนะ 6,917 ราย, อ.สิงหนคร 4,814 ราย, อ.สะเดา 4,132 ราย, อ.เทพา 4,026 ราย, อ.รัตภูมิ 3,264 ราย, อ.สะบ้าย้อย 3,167 ราย, อ.นาทวี 1,419 ราย, อ.บางกล่ำ 1,214 ราย, อ.ระโนด 929 ราย, สทิงพระ 802 ราย, ควนเนียง 646 ราย, อ.นาหม่อม 562 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 341 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 74 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,168 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 673 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 434 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 42,311 ราย รักษาหายแล้ว 25,410 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 404 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 208 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 250 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,025 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 586 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 4 ราย, โรงพยาบาลสนามค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย 107 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 52 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 181 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 127 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 20 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 70 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 233 ราย และ Home Isolation 1,708 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแยกตามรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 10,756 ราย, อ.ไม้แก่น 1,061 ราย, อ.ยะหริ่ง 3,333 ราย, อ.หนองจิก 4,159 ราย, อ.โคกโพธิ์ 2,421 ราย, อ.สายบุรี 5,215 ราย, อ.แม่ลาน 620 ราย, อ.ยะรัง 4,033 ราย, อ.ปะนาเระ 1,596 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 1,947 ราย, อ.มายอ 4,330 ราย และ อ.กะพ้อ 1,680 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 192 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 21 ราย, อ.ตากใบ 1 ราย, อ.ยี่งอ 2 ราย, อ.จะแนะ 27 ราย, อ.แว้ง 7 ราย, อ.สุคิริน 47 ราย, อ.รือเสาะ 6 ราย, อ.บาเจาะ 3 ราย, อ.ระแงะ 5 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 49 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 39,590 ราย รักษาหายสะสม 37,754 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 374 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 7,795 ราย, อ.ระแงะ 4,666 ราย, อ.รือเสาะ 2,112 ราย, อ.บาเจาะ 3,362 ราย, อ.จะแนะ 1,672 ราย, อ.ยี่งอ 2,904 ราย, อ.ตากใบ 3,016 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 3,371 ราย, อ.สุไหงปาดี 3,269 ราย, อ.ศรีสาคร 2,057 ราย, อ.แว้ง 2,146 ราย, อ.สุคิริน 1,062 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 2,158 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 287 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 44,113 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 4,839 ราย รักษาหายแล้ว 41,557 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 304 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 15,656 ราย, อ.เบตง 4,378 ราย, อ.รามัน 5,992 ราย, อ.ยะหา 5,301 ราย, อ.บันนังสตา 6,853 ราย, อ.ธารโต 2,327 ราย, อ.กาบัง 1,158 ราย และ อ.กรงปินัง 2,448 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 4,839 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 171 ราย, โรงพยาบาลเบตง 111 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 417 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 144 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 115 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 106 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 102 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 9 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 208 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 33 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 128 ราย, โรงพยาบาลสนามกาบัง 49 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 29 ราย, Hospitel ( 2 แห่ง ) 101 ราย, Hospitel เบตง 206 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 2,012 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 898 ราย
@@ ศบค.ส่วนหน้า ตั้งเป้าเปิดเมือง 15 ธ.ค.
ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด -19 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) ลงพื้นที่ประชุมติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่
ข้อมูลที่รายงานต่อที่ประชุม ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้มีแนวโน้มดีขึ้น ยอดติดเชื้อแต่ละจังหวัดเริ่มลดลง กลไกที่จะช่วยให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ประสบผลสำเร็จ คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ ทั้ง 3 ส่วนต้องทำงานประสานสอดคล้องกัน โดยตั้งเป้า 15 ธ.ค.นี้ เตรียมเปิดประเทศฝั่งชายแดนภาคใต้ให้ได้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่รับช่วงปีใหม่ที่จะมาถึง
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ตั้ง ศบค.ส่วนหน้า เพื่อลงมาบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีนที่จะต้องได้ 70% ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ดูจากยอดการฉีดวัคซีนตอนนี้ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดว่า น่าจะมีเพียง จ.สงขลาจังหวัดเดียวที่เป็นไปตามเป้า ส่วนสามจังหวัดชายแดนใต้จะต้องใช้ความพยายามเพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่พบส่วนหนึ่งคือประชาชนบางส่วนไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ แต่ไปประกอบอาชีพในพื้นที่อื่น ทำให้ประชากรที่อาศัยจริงๆ อาจจะน้อยกว่ายอดที่แจ้ง เมื่อดำเนินงานอย่างเต็มที่แล้วได้ยอดฉีดวัคซีนเท่าไร คงต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง
นอกจากนั้น ยังได้มีการหารือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อตั้งเป้าเตรียมที่จะเปิดพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้ได้อย่างช้าภายในวันที่ 15 ธ.ค.64 เพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่และให้เศรษฐกิจพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการฟื้นฟู โดยได้ฝากให้แม่ทัพภาค 4 ได้หารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดว่า สามารถทำได้หรือไม่ และรายงานไปยัง ศบค.ส่วนหน้า ซึ่งหากมีความเป็นไปได้ก็จะได้กำหนดเป็นนโยบายต่อไป
@@ ปิดโรงงานเฟอร์ฯปัตตานี พนักงานติดเชื้อ 30 ราย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี มีการพบพนักงานของ บริษัท ซูเพิร์บ ครีเอชั่น เฟอร์นิเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดเชื้อโควิด 30 ราย
โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (หาดใหญ่-ปัตตานี) ท้องที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นโรงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ส่งออกต่างประเทศ มีพนักงานทั้งสิ้น 298 ราย ผู้ติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมา รวมแล้ว 30 ราย ทำให้สาธารณสุขจังหวัดได้ทำการตรวจหาเชื้อพนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการตรวจล่าสุดยังคงพบพนักงานติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ต้องปิดโรงงาน 14 วัน
นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีพร้อม กับ นายชาตรี ณ ถลาง นายอำเภอหนองจิก ได้เข้าตรวจพื้นที่โรงงาน พร้อมทั้งเร่งช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจให้กับพนักงาน ในการกักตนเองภายในโรงงาน โดยการทำ Bubble and Seal ภายในโรงงาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ชุมชน แต่เนื่องจากว่าโรงงานดังกล่าวมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการ Bubble and Seal กับพนักงานที่มีอยู่กว่า 298 คน ทำให้ทางสาธารณสุขจังหวัดได้ให้พนักงานทุกคนกักตัวเองที่บ้านอย่างเข้มข้น โดยไม่ให้ออกจากบ้านโดยเด็ดขาด เพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อออกสู่ชุมชน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขเข้าไปตรวจหาเชื้อกับพนักงานทุกคนอย่างต่อเนื่องจนครบ 14 วัน
@@ กู้ภัยมุสลิมเบตง พ่นยาฆ่าเชื้อโควิดป้องกันแพร่ระบาด
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทีมตอบโต้โควิด-19 กู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง ได้รับการประสานจากผู้นำชุมชน และผู้ประกอบการ ขอความช่วยเหลือในการพ่นยาฆ่าเชื้อตามบ้านเรือนของชาวบ้าน ร้านค้า ในเขตเทศบาลเมืองเบตง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดในสถานที่ดังกล่าว หลังจากโรงพยาบาลเบตงได้รับตัวไปรักษาแล้ว
โดยทีมตอบโต้โควิด-19 กู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง ได้สวมชุด PPE ออกฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 เพื่อลดความเสี่ยงของประชาชนที่ต้องสัมผัสเชื้อโรคและป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อสู่ชุมชน สร้างความเชื่อมั่นใจให้ประชาชนในการใช้ชีวิต
นายโยธิน ประชามติรัฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการทีมตอบโต้โควิด-19 กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ใน อ.เบตง ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดไปยังชุมชนต่างๆ จนส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เกิดความกังวล ทางสมาคมกู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง จึงได้ร่วมมือกันกับส่วนราชการ ประชาชน จัดซื้อเครื่องพ่นพร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้ในสถานที่ของโรงพยาบาลและจัดสรรรถยนต์เพื่อติดตั้งเครื่อง ออกดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อให้ชุมชนต่างๆ โดยบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
หากผู้นำท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการใดมีความต้องการให้ทางชุดกู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง ชุดทีมตอบโต้โควิด-19 เข้าไปดำเนินการ สามารถติดต่อประสานงานได้ที่เบอร์ 0-7372-0169 และ 08-0716-9253