อธิบดีกรมการแพทย์ ลงนามคำสั่งให้บุคลากรไปปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 ที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมรายละเอียดเบิกค่าใช้จ่ายตามข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักใน 4 จังหวัดภาคใต้ ทำให้ผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ขณะที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้พื้นที่เร่งดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งส่งยา วัคซีน ชุดตรวจ ATK ลงไปเพิ่มเติมนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 12 ต.ค.64 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในคำสั่งกรมการแพทย์ เรื่องให้บุคลากรไปปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด ณ โรงพยาบาลปัตตานี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.64 เป็นต้นไป
โดยใจความระบุว่า เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การติดเชื้อ จึงให้บุคลากรไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ในสถานการณ์โควิด ณ โรงพยาบาลปัตตานี โดยสามารถเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้จากหน่วยงานต้นสังกัดตามระเบียบ อาทิ การจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2552 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2554
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.ปัตตานี ถือว่าค่อนข้างวิกฤติ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อใหม่วันละหลายร้อยราย บางรายยอดติดเชื้อพุ่งเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ขณะที่โรงพยาบาลปัตตานีต้องปิดห้องผ่าตัด งดรับเคสผ่าตัดและทำสุนัตอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประจำห้องผ่าตัดติดโควิดไปเกือบครึ่ง โดยเป็นการติดจากครอบครัวและในชุมชน เมื่อมีเคสผ่าตัดใหญ่ หรือเร่งด่วน ต้องส่งเคสไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี และโรงพยาบาลโคกโพธิ์
นอกจากนั้นยังมีการประมาณการณ์ว่า ยอดติดเชื้อใหม่รายวันยังไม่อยู่ในระดับ “สูงที่สุด” โดยหลังจากนี้ หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อาจเห็นตัวเลขการระบาดมากกว่า 1,000 รายต่อวัน