ชายแดนใต้ยังไม่พ้นวิกฤติ ติดชาร์ตประเทศทั้ง 4 จังหวัด นราธิวาสป่วยโควิดดับมากสุดวันเดียว 8 ราย ด้านเทศบาลเบตงมอบสิ่งของช่วยผู้ป่วย พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อบ้านเรือน ส่วนคณะสงฆ์ปัตตานีออกมาตรการเข้มจัดสารทเดือนสิบ
วันศุกร์ที่ 1 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังสูงต่อเนื่องมากกว่าสัปดาห์แล้ว
ทำให้ทั้ง 4 จังหวัดมีชื่อติดอยู่ใน 10 จังหวัดแรกของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด ในข้อมูลที่จัดทำโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางศูนย์ข้อมูล COVID-19
โดย จ.ยะลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดอยู่ที่ 545 ราย ติดอันดับ 4 จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 515 ราย ติดอันดับ 5 จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 451 ราย ติดอันดับ 7 และ จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 406 ราย ติด 1 ใน 10 เช่นกัน
@@ นราธิวาสป่วยโควิดดับ 8 ราย
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 1 ต.ค.64 มีรายละเอียดดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 545 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 23,338 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 5,197 ราย รักษาหายแล้ว 17,955 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 186 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 631 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 8,220 ราย, อ.กรงปินัง 1,702 ราย, อ.เบตง 1,639 ราย, อ.รามัน 3,049 ราย, อ.บันนังสตา 3,985 ราย, อ.กาบัง 649 ราย, อ.ธารโต 1,561 ราย และ อ.ยะหา 2,533 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,197 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 192 ราย, โรงพยาบาลเบตง 206 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 527 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 151 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 795 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 235 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 435 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 301 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 85 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 60 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 210 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 19 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 552 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 513 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 918 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 529 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 100 ราย, อ.ตากใบ 6 ราย, อ.ยี่งอ 114 ราย, อ.จะแนะ 18 ราย, อ.แว้ง 44 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 101 ราย, อ.ระแงะ 1 ราย, อ.ศรีสาคร 42 ราย, อ.เจาะไอร้อง 45 ราย, อ.สุไหงปาดี 8 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 49 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 24,829 ราย รักษาหายสะสม 20,764 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 8 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 285 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 4,930 ราย, อ.ระแงะ 2,508 ราย, อ.รือเสาะ 1,604 ราย, อ.บาเจาะ 1,796 ราย, อ.จะแนะ 1,086 ราย, อ.ยี่งอ 1,841 ราย, อ.ตากใบ 2,118 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,832 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,079 ราย, อ.ศรีสาคร 1,331 ราย, อ.แว้ง 1,646 ราย, อ.สุคิริน 730 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,328 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 451 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 31,478 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 31,455 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,051 ราย รักษาหายแล้ว 25,272 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 155 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,683 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 8,131 ราย, อ.เมืองสงขลา 4,617 ราย, อ.สิงหนคร 3,597 ราย, อ.จะนะ 3,011 ราย, อ.สะเดา 2,638 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,832 ราย, อ.เทพา 1,645 ราย, อ.รัตภูมิ 1,370 ราย, อ.นาทวี 605 ราย, อ.บางกล่ำ 605 ราย, สทิงพระ 569 ราย, อ.ระโนด 552 ราย, อ.นาหม่อม 387 ราย, ควนเนียง 229 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 192 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,105 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 318 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 412 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 22,657 ราย รักษาหายแล้ว 15,214 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 305 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 162 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 337 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,169 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 488 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 44 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 181 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 125 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 14 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 58 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 192 ราย และ Home Isolation 48 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 4,331 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,063 ราย, อ.หนองจิก 300 ราย, อ.โคกโพธิ์ 110 ราย, อ.ยะหริ่ง 445 ราย, อ.สายบุรี 650 ราย, อ.ไม้แก่น 98 ราย, อ.แม่ลาน 39 ราย, อ.ยะรัง 303 ราย, อ.ปะนาเระ 188 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 317 ราย, อ.มายอ 416 ราย และ อ.กะพ้อ 191 ราย
@@ เทศบาลเบตงมอบสิ่งของ-พ่นฆ่าเชื้อบ้านผู้ป่วยโควิด
นายอาลี ดูดิง รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเบตงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มอบสิ่งของให้กับครอบครัวที่มีผู้ต้องกักตัว และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ในพื้นที่ชุมชนสโมสร ชุมชนกือติง และชุมชนกุนุงจนอง เพื่อช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้นในการดำรงชีพในช่วงวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 และคำแนะนำวิธีปฏิบัติตน เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจและสามารถดูแลตนเองและคนใกล้ชิดได้อย่างถูกวิธี
โดยมีทีมอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง ได้รับการประสานจากชาวบ้านให้ช่วยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเนื่องจากครอบครัวนี้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 คนต้องกักตัวอยู่ในบ้านพื้นที่ชุมชนกุนุงจนอง เพื่อควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
@@ คณะสงฆ์ปัตตานี ออกมาตรการเข้มวันสารทเดือนสิบ
ด้านมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในการจัดกิจกรรมประเพณีวันสารทเดือนสิบ ประจำปี 2564 เขตการปกครองคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี ตามประกาศเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ที่ รก.จจ.ปน. 008/2564 ลงวันที่ 1 ต.ค.64 ออกแนวทางปฏิบัติการจัดกิจกรรมประเพณีวันสารทเดือนสิบ ประจำปี 2564 ดังนี้
1.ขอความร่วมมือคณะสงฆ์ ปฏิบัติการตามประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 พร้อมทั้งมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
2.ประสานเจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคระดับหมู่บ้านหรือชุมชนที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลในพื้นที่จัดกิจกรรม
3.ขอความร่วมมือคณะสงฆ์ จำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรม ไม่เกิน 25 คน เนื่องจากจังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ทั้งนี้ เว้นระยะห่าง 1.5 - 2 เมตรต่อคน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
4.งดการจัดกิจกรรมการแสดง ดนตรี มหรสพ หรือเต้นรำทุกชนิด
5.กำหนดให้มีจุดตรวจคัดกรองของผู้เข้าร่วมพิธี ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมเครื่องวัดอุณหภูมิ แอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดเข้า-ออก และจุดสำคัญต่างๆ ในสถานที่จัดกิจกรรมอย่างเพียงพอ โดยให้ถือปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด