บิดาของหัวโจก “กลุ่มตำรวจปลอม” ที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตัวจริงจับกุมฐานตั้งแก๊งรีดไถเงินชาวบ้าน หอบหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดชุดจับกุม หลังพบลูกชายมีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่ญาติอีก 4 ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม อ้างถูก “หัวโจก” หลอกเป็นเจ้าหน้าที่ให้ไปช่วยงาน
ความคืบหน้ากรณีการจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายฉกรรจ์ 5 คนแอบอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ขณะแต่งตัวเลียนแบบเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นกลุ่มวัยรุ่นเพื่อเรียกเงิน เหตุเกิดใน “ริมทะเลรีสอร์ท” ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ก่อนนำตัวส่ง สภ.ยะหริ่ง เพื่อดำเนินคดี เมิ่อวันจันทร์ที่ 20 ก.ย.64 ที่ผ่านมา
โดยกลุ่มตำรวจปลอม ประกอบด้วย นายสุกรี เจ๊ะเต๊ะ, นายกามี สามะ, นายอุสมาน ยามา, นายบัสมี บากา และ นายฮากีมี หวังพึ่งฉาย ทั้งหมดอายุประมาณ 20-30 ปีเศษ โดย นายฮากีมี เป็นหัวหน้าทีมนั้น
@@ พ่อ “ฮากีมี” หัวโจก โวยลูกถูกซ้อม
ล่าสุดวันอังคารที่ 21 ก.ย.64 นายกอดือรี หวังพึ่งฉาย อายุ 49 ปี บิดาของนายฮากีมี ได้เดินทางไปที่ สภ.ยะหริ่ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดยอ้างว่า นายฮากีมี ลูกชาย ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลยะหริ่ง และถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลปัตตานี เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในสภาพตาบวม สมองได้รับการกระทบกระเทือน และมีร่องรอยคล้ายถูกตีที่บริเวณแผ่นหลัง เชื่อว่าลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย
นายกอดือรี เล่าว่า ได้เข้าพบกับลูกชาย และลูกชายได้บอกกับตนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มีการนำกล้วยยัดเข้าไปในปาก และทุบตี ตนจึงต้องเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม
“ทราบเรื่องว่าลูกชายถูกจับตอนประมาณ 9 โมงเช้าของวันที่ 20 ก.ย. โดยลูกสาวโทรมาบอกว่า ถูกจับเพราะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ ตอนนี้อยู่โรงพักยะหริ่ง จึงเดินทางไปที่โรงพัก แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ให้พบตัว อ้างว่ายังสอบสวนไม่เสร็จ”
“จนเวลาบ่าย 3 จึงเดินทางมาที่โรงพักอีกครั้ง เพื่อมารอเยี่ยมลูกชาย แต่ได้มีโทรศัพท์จากญาติแจ้งว่า ลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาลยะหริ่งแล้ว ก็รู้สึกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ไปดูลูกชายที่โรงพยาบาล พบว่าลูกชายถูกของแข็งจนกระทบกระเทือนสมอง จมูกหัก และบริเวณแผ่นหลังพบรอยแผลถูกตีด้วยไม้ และทราบอีกว่าตอนที่ถูกส่งมาโรงพยาบาล ยังพบกล้วยติดอยู่ในคอ จนกระทั่งอาเจียนออกมา ทำให้เชื่อว่าลูกชายโดนซ้อม จึงมาแจ้งความเพื่อขอความเป็นธรรม” นายกอตือรี กล่าว
@@ ผู้กำกับฯรับเรื่อง พร้อมสอบข้อเท็จจริง
พ.ต.อ.มุสตอพา มะนิ ผู้กำกับการ สภ.ยะหริ่ง กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ. เบื้องต้นได้ให้ทางพนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้ก่อนตามระเบียบ หลังจากนี้ก็จะได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่พ่อของผู้ต้องหาเข้าแจ้งความกล่าวหว่า เพื่อพิสูจน์ว่ามีความเสียหายอย่างไร และเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่
สำหรับผู้ต้องรายนี้ ในวันจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหลังจากได้รับแจ้งจากผู้นำหมู่บ้าน ตอนเจ้าหน้าที่เข้าไปทราบว่า มีพี่น้องประชาชนอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก น่าจะมีการกระทบกระทั่งกันก่อนแล้ว
สำหรับข้อหาที่ตั้งกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้แก่ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ความผิดฐานเป็นอั้งยี่ซ่องโจร และร่วมกันมียุทธภัณฑ์ โดยเฉพาะนายฮากีมี ทราบว่า เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายพื้นที่แล้ว ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป
@@ หลอกซ้อนหลอก! ญาติ 4 ผู้ต้องหาครวญเป็นเหยื่อ “ฮากีมี”
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้พบกับญาติของผู้ต้องหาอีก 4 คนที่โดนจับพร้อมกับนายฮากีมี ซึ่งได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่ สภ.ยะหริ่ง โดยฝ่ายญาติได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกนายฮากีมี หลอกให้มาร่วมก่อเหตุ เนื่องจากหลงเชื่อว่า นายฮากีมีเป็นเจ้าหน้าที่จริง
“นายฮากีมี มาชวนถึงบ้าน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ เดินทางมามาด้วยรถที่ถูกจับ คนของเราก็ขัดไม่ได้ ก็เลยไปด้วย โดยไม่ได้บอกว่าไปไหน คนที่บ้านคิดว่าน่าจะพาไปช่วยเรื่องตั้งด่านโควิด แต่สุด่ท้ายได้่รับแจ้งว่าถูกจับเพราะปลอมเป็นตำรวจ” ญาติของหนึ่งในผู้ต้องหา กล่าว
ญาติของผู้ต้องหาอีกราย บอกว่า ญาติของตนตกเป็นเหยื่อของนายฮากีมี โดยนายฮากีมีแอบอ้างว่าตนเองมีตำแหน่งในราชการ ขอให้ไปช่วยงาน ด้วยความเป็นเพื่อนรู้จักกัน จึงไปช่วย โดยไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร ทุกคนถูกหลอกหมด ก็ขอความเป็นธรรมให้กับผู้ต้องหาทั้ง 4 คนด้วย เพราะไม่มีใครรู้ว่าถูกนายฮากีมี หลอกอยู่