เทศบาลนครยะลาเตรียมซิโนฟาร์มให้คนต่างจังหวัดแต่พักในตัวเมืองลงทะเบียน “ปักแขน” หวังเร่งเปิดเมืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้าน จ.ยะลา ยกเลิก 2 หมู่บ้านในพื้นที่ “บันนังสตา-เบตง” ขณะที่ ศบค.สุไหงโก-ลก คุมเข้มห้ามผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนเดินทางข้ามจังหวัด
วันอังคารที่ 24 ส.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่โผล่มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้มาก
ที่ จ.ยะลา นายซูดิน โรจนอุดมศาสตร์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลนครยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมเชิงรุก ลงพื้นที่ตลาดสดพิมลชัย (ตลาดรถไฟ) ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า ที่เป็นคนนอกพื้นที่ จ.ยะลา แต่มาตั้งแผงขายสินค้า อาหาร ภายในตลาดสดรถไฟสามารถจองวัคซีนซิโนฟาร์มผ่านระบบเทศบาลนครยะลา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ได้รับวัคซีนร้อยละ 70 เพื่อเตรียมเปิดเมืองให้เร็วขึ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่
นายซูดิน โรจนอุดมศาสตร์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลนครยะลา กล่าวว่า นายพงศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ได้ให้ความสำคัญเรื่องของการฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ร้อยละ 70 เตรียมเปิดเมืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ยังประชากรแฝงหรือนักศึกษาที่มาเรียนหนังสือในเขตเทศบาลนครยะลา ส่วนหนึ่งก็เป็นเด็กจากอำเภอต่างๆ ทั้งนราธิวาสและปัตตานี และบางส่วนจากสงขลา ที่มาเรียนที่นี่ ดังนั้นบุคคลกลุ่มนี้ก็ถือว่า มีบัตรประชาชนอยู่ที่อื่น เพราะจังหวัดยะลามีนโยบายเน้นฉีดวัคซีนให้กับคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดยะลาเป็นหลัก
จากข้อมูลพบว่า ขณะนี้คนในจังหวัดยะลา ทั้งกลุ่มข้าราชการหรือเป็นข้าราชการเกษียณบางส่วน ที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมเรียบร้อยและเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว ส่วนของชุมชนในเขตเทศบาลนครยะลา 40 ชุมชนก็ให้ประธานชุมชนและคณะกรรมการ หรือ อสม.ต่างๆ ก็ลงไปเคาะประตูและมีการมาฉีดเกือบหมดแล้ว ถือว่าเป็นเมืองที่มีประชาชนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดยะลา ได้รับการฉีดวัคซีนเกือบทั้งหมด
หน.ฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลนครยะลา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครยะลา ได้มีการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จำนวน 30,000 โดส ซึ่งสามารถฉีดได้ 15,000 คน ดังนั้นเป้าหมายสำหรับกลุ่มอื่นๆ คือคนที่มาเช่าบ้าน เป็นคนต่างจังหวัดแต่มาทำงานอยู่ที่ยะลา มีบิลจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ที่มาตั้งแผงขายของภายในตลาดสด สามารถจองผ่านระบบเทศบาลนครยะลา เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในรอบนี้ได้ เป้าหมายคือต้องให้ประชากรในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ฉีดวัคซีนได้เกิน 70% เพื่อเตรียมนำเสนอคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดยะลา เพื่อเปิดเมืองร้านอาหารสามารถที่ทานในร้านได้ตามปกติ โรงเรียนก็อาจจะเปิดได้ในบางโรงเรียน ที่มีความพร้อม รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่
@@ยะลายกเลิกหมู่บ้านเสี่ยงอีก 2 หมู่บ้านในพื้นที่ บันนังสตา - เบตง
ส่วนที่ห้องประชุมศรียะลา อาคาร 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 36/2564 พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในเรื่องของการยกเลิกพื้นที่เสี่ยง ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกันมากกว่า 14 วัน จำนวน 2 หมู่บ้านใน 2 อำเภอ ประกอบด้วย 1.บ้านบือซู (ซอยกลุ่มบ้านค่ายแหลมทองเนินเขาภูเขาทอง) ม.6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา 2.บ้านยะรม (คุ้มบ้านลูโบ๊ะบือเด) ม.3 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา
@@ศบค.สุไหงโก-ลก คุมเข้มห้ามผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนเดินทางข้ามจังหวัด
ส่วนที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อำเภอสุไหงโก-ลก (ศบค.อ.สุไหงโก-ลก) ได้ประกาศมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม
โดยกำหนดให้บุคคลที่อยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่มีความประสงค์จะเดินทางข้ามจังหวัด นอกจากเงื่อนไขเดินทางข้ามจังหวัดด้วยเหตุผลความจำเป็นสูงสุด จะต้องนำหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม มาแสดงให้เจ้าพนักงานที่ออกใบรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด
หากบุคคลใดไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะไม่อนุญาตให้เดินทางข้ามจังหวัดอย่างเด็ดขาด โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.64 เป็นต้นไป
@@ รพ.หลัก- รพ.สนาม ชายแดนใต้เตียงว่าง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.00 น. ของวันที่ 24 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,058 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 816 เตียง คงเหลือ 242 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,829 เตียง ใช้ไป 2,276 เตียง คงเหลือ 1,553 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:162
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,379 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 894 เตียง คงเหลือ 485 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,870 เตียง ใช้ไป 1,046 เตียง คงเหลือ 1,824 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม อยู่ที่ 1:9
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 562 เตียง คงเหลือ 229 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 597 เตียง คงเหลือ 491 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:85
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 871 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 297 เตียง คงเหลือ 574 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,540 เตียง ใช้ไป 1,213 เตียง คงเหลือ 1,327 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:243
@@นราธิวาสตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่โผล่อีก 316 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอังคารที่ 24 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 76 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 14,490 ราย รักษาหายแล้ว 10,658 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 210 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 145 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 226 ราย, โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 31 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 635 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 529 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 50 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 182 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 2 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 47 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 69 ราย และ Home Isolation จำนวน 48 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 3,179 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,195 ราย, อ.หนองจิก 368 ราย, อ.โคกโพธิ์ 110 ราย, อ.ยะหริ่ง 254 ราย, อ.สายบุรี 170 ราย, อ.ไม้แก่น 11 ราย, อ.แม่ลาน 13 ราย, อ.ยะรัง 413 ราย, อ.ปะนาเระ 174 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 71 ราย, อ.มายอ 259 ราย และ อ.กะพ้อ 74 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 110 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 10,626 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,861 ราย รักษาหายแล้ว 8,658 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 107 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 130 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 4,080 ราย, อ.กรงปินัง 788 ราย, อ.เบตง 566 ราย, อ.รามัน 1,023 ราย, อ.บันนังสตา 1,981 ราย, อ.กาบัง 315 ราย, อ.ธารโต 844 ราย และ อ.ยะหา 1,029 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,861 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 169 ราย, โรงพยาบาลเบตง 58 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 335 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 77 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 574 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 23 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 49 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 192 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 64 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 12 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 78 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 25 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) จำนวน 38 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 44 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 123 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 316 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 41 ราย, อ.ตากใบ 18 ราย, อ.ยี่งอ 34 ราย, อ.จะแนะ 14 ราย, อ.แว้ง 53 ราย, อ.สุคิริน 15 ราย, อ.รือเสาะ 27 ราย, อ.ระแงะ 6 ราย, อ.ศรีสาคร 12 ราย, อ.เจาะไอร้อง 25 ราย และ อ.สุไหงปาดี 53 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 11,812 ราย รักษาหายสะสม 9,235 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 137 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 2,433 ราย, อ.ระแงะ 1,428 ราย, อ.รือเสาะ 629 ราย, อ.บาเจาะ 835 ราย, อ.จะแนะ 624 ราย, อ.ยี่งอ 768 ราย, อ.ตากใบ 1,409 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 804 ราย, อ.สุไหงปาดี 742 ราย, อ.ศรีสาคร 445 ราย, อ.แว้ง 842 ราย, อ.สุคิริน 312 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 541 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 173 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 161 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 18,303 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 18,280 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,826 ราย รักษาหายแล้ว 15,372 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 105 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,467 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 5,032 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,756 ราย, อ.สิงหนคร 2,081 ราย, อ.จะนะ 1,859 ราย, อ.สะเดา 1,290 ราย, อ.เทพา 1,004 ราย, อ.สะบ้าย้อย 780 ราย, อ.รัตภูมิ 532 ราย, สทิงพระ 371 ราย, อ.บางกล่ำ 347 ราย, อ.นาหม่อม 311 ราย, อ.นาทวี 260 ราย, อ.ระโนด 178 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 107 ราย, ควนเนียง 102 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 15 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 152 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย