โคกโพธิ์ ปัตตานี ฉีดวัคซีนโควิดวันแม่ให้ประชาชน 1,000 ราย ขณะที่ผู้ว่าฯยะลา ปลื้ม ทำสถิติเข็มปักแขนชาวบ้าน 38% กาบังดึงผู้นำศาสนาร่วมสร้างความมั่นใจ ด้านผู้ต้องขังเรือนจำเบตงกว่า 200 ราย รับ "ซิโนฟาร์ม" พระราชทาน
วันพฤหัสบดีที่ 12 ส.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ที่ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกวัน ทำให้หลายจังหวัดได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิดให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
ที่ จ.ปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีพร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนผู้เดินทางมาฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ โดยมีสาธารณสุขอำเภอโคกโพธิ์ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และบุคลากรทางการแพทย์ คอยให้บริการประชาชน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ
สำหรับการฉีดวัคซีนในวันนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทุกช่วงวัย (อายุ 18 ปีขึ้นไป ) เพื่อเป็นการลดและควบคุมการแพร่ระบาดในระดับพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีผู้เข้ารับวัคซีนประมาณ 1,000 คน จากในพื้นที่ตำบลท่าเรือและตำบลข้างเคียง
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังหอประชุมที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ เพื่อพบปะให้กำลังกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในเขตพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ ที่ออกมาคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ประมาณ 200 คน พร้อมกล่าวเตือนประชาชนให้ช่วยกันในการเฝ้าระวังการติดเชื้อและป้องกันตัวเอง ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนให้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่ อสม. ที่อยู่ในพื้นที่แต่ละพื้นที่ ตำบล เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้จำนวนร้อยละ 70 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละพื้นที่ซึ่งเป็นการป้องกันหมู่
@@ ยะลารับวัคซีนแล้ว 38 % - กาบังดึงผู้นำศาสนาสร้างเชื่อมั่น
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัมดยะลา ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านบาละ หมู่ที่ 1 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา เปิดกิจกรรมฉีดวัคซีนโควิด-19 เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564 ซึ่งทางอำเภอกาบังได้จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมทั้งเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ อ.กาบัง เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด -19 สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยมีนายอัมรันท์ บากา นายอำเภอกรงปินังพร้อมด้วยส่วนราชการ บุคลากรทางการแพทย์อำเภอกาบังและผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน เข้าร่วมกิจกรรม
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ภาพรวมของการรับการฉีดวัคซีนของประชาชนเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากที่ผ่านมาทาง ศปก.อำเภอ ได้วิเคราะห์รูปแบบการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนที่แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของแต่พื้นที่ โดยในพื้นที่ทุกอำเภอจะจัดให้มีการตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 จนสามารถสร้างความตื่นตัวแก่ประชาชนได้ดีในการเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อให้ชาวยะลาได้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และปลอดภัยจากโควิด-19
ปัจจุบันจังหวัดยะลาทำการฉีดวัคซีนโควิดสะสมไปแล้วจำนวน 174,274 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 133,380 โดส และเข็ม 2 จำนวน 40,867 โดส คิดเป็นร้อย 38.04 ของประชาชน
นายอัมรันท์ บากา นายอำเภอกรงปินัง กล่าวว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ประชากรในพื้นที่ อ.กาบัง มีจำนวน 25,000 คน นั่นหมายถึงต้องเร่งฉีดให้ได้จำนวน 16,000 คน ถึงจะครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ทั้งนี้ปัจจุบันทำการฉีดไปแล้วจำนวนกว่า 2,440 คน อยู่ที่ร้อยละ 15 ของประชากร
อย่างไรก็ตาม ศปก.อ.กาบัง ได้ดำเนินการรณรงค์การฉีดวัคซีนเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่ประชาชนเข้ามารับบริการฉีดวัคซีนมากขึ้น ซึ่งการรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับของประชาชนในพื้นที่นั้น ได้เชิญชวนผู้นำท้องที่และผู้นำศาสนาให้เข้ารับการฉีดวัคซีน ผลปรากฏว่า ได้มีผู้นำศาสนาที่สนใจและเข้ารับการฉีดไปแล้วจำนวน 30 ราย ทำให้ประชาชนเกิดมีความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีนมีมากยิ่งขึ้น
@@ ผู้ต้องขังเรือนจำเบตงรับวัคซีนพระราชทาน "ซิโนฟาร์ม"
ที่เรือนจำอำเภอเบตง จ.ยะลา นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง พร้อมด้วยนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง ร่วมมอบวัคซีนพระราชทาน “ซิโนฟาร์ม” จากราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ให้กับผู้ต้องขังเรือนจำอำเภอเบตง โดยมีนายจรูญ นาคแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง เป็นตัวแทนผู้รับมอบและนำไปฉีดให้กับผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังในเรือนจำอำเภอเบตง จำนวน 254 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังชาย จำนวน 217 คน ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 37 คน เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งนักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำอำเภอเบตง จะมีอัตราโทษไม่เกิน10 ปี ผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติด การได้รับการฉีดวัคซีนพระราชทานในครั้งนี้ ทำให้ผู้ต้องขังปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นายจรูญ นาคแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง กล่าวว่า ด้วยพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธาน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 และทรงให้ความสำคัญต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่มีความจำเป็นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานวัคซีนซิโนฟาร์ม เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 64 พรรษา 4 กรกฎาคม 2564 ให้แก่กรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำอำเภอเบตงได้คัดเลือกรับวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม เนื่องจากเป็นเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของ โควิด – 19
@@ 4 จังหวัดชายแดนใต้ รพ.หลัก - รพ.สนาม เตียงยังว่าง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 12 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,000 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 770 เตียง คงเหลือ 230 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,874 เตียง ใช้ไป 2,747 เตียง คงเหลือ 1,127 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:196
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1157 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 886 เตียง คงเหลือ 271 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,520 เตียง ใช้ไป 1,725 เตียง คงเหลือ 795 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:17
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 588 เตียง คงเหลือ 203 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 651 เตียง คงเหลือ 437 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:93
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 697 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 673 เตียง คงเหลือ 24 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,730 เตียง ใช้ไป 870 เตียง คงเหลือ 860 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:174
@@สงขลาติดเชื้อใหม่พุ่งแตะ 300 กว่าราย ปัตตานี-นรา ติดเชื้อเกิน 200 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 202 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 12,437 ราย รักษาหายแล้ว 8,367 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 168 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 166 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 625 ราย โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 237 ราย โรงพยาบาลสนามมรกต 107 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 837 ราย โรงพยาบาลชุมชน 527 ราย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 10 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 50 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 166 ราย Home Isolation 107 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลอื่น 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 3,791 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,796 ราย, อ.หนองจิก 332 ราย, อ.โคกโพธิ์ 197 ราย, อ.ยะหริ่ง 214 ราย, อ.สายบุรี 189 ราย, อ.ไม้แก่น 25 ราย, อ.แม่ลาน 27 ราย, อ.ยะรัง 522 ราย, อ.ปะนาเระ 157 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 53 ราย, อ.มายอ 220 ราย และ อ.กะพ้อ 30 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 166 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 8,955 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,986 ราย รักษาหายแล้ว 6,892 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 77 ราย อยู่ระหว่างรอผล 885 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 3,438 ราย, อ.กรงปินัง 684 ราย, อ.เบตง 482 ราย, อ.รามัน 834 ราย, อ.บันนังสตา 1,634 ราย, อ.กาบัง 282 ราย อ.ธารโต 753 ราย และ อ.ยะหา 843 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,986 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 188 ราย โรงพยาบาลเบตง 87 ราย รพช.6 แห่ง 313 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 75 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 625 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 26 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 204 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 91 ราย โรงพยาบาลสนามยะหา 75 ราย โรงพยาบาลสนามธารโต 5 ราย โรพยาบาลสนามกรงปินัง 113 ราย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 17 ราย รักษาตัวที่บ้าน 55 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 112 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 253 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 36 ราย, อ.ตากใบ 6 ราย, อ.ยี่งอ 36 ราย, อ.จะแนะ 6 ราย, อ.แว้ง 42 ราย, อ.รือเสาะ 1 ราย, อ.บาเจาะ 24 ราย, อ.ระแงะ 4 ราย, อ.ศรีสาคร 15 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 50 ราย และ อ.สุไหงปาดี 33 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 8,750 ราย รักษาหายสะสม 6,856 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 98 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,901 ราย, อ.ระแงะ 1,005 ราย, อ.รือเสาะ 453 ราย, อ.บาเจาะ 565 ราย, อ.จะแนะ 491 ราย, อ.ยี่งอ 546 ราย, อ.ตากใบ 1,085 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 610 ราย, อ.สุไหงปาดี 511 ราย, อ.ศรีสาคร 360 ราย, อ.แว้ง 565 ราย, อ.สุคิริน 252 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 406 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 312 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 270 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 42 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 15,173 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 15,150 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,935 ราย รักษาหายแล้ว 12,156 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 82 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 874 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 4,273 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,334 ราย, อ.จะนะ 1,597 ราย, อ.สิงหนคร 1,443 ราย, อ.สะเดา 985 ราย, อ.เทพา 856 ราย, อ.สะบ้าย้อย 637 ราย, อ.รัตภูมิ 390 ราย, สทิงพระ 336 ราย, อ.บางกล่ำ 290 ราย, อ.นาหม่อม 271 ราย, อ.นาทวี 233 ราย, อ.ระโนด 107 ราย, ควนเนียง 91 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 71 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 121 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย