ระทึก! ยะลาพบสายพันธุ์เดลต้า 10% ของผู้ติดเชื้อในพื้นที่บันนังสตา-รามัน ต้นตอคนกลับจากกรุงเทพฯ ด้านฝ่ายความมั่นคงเบตงปล่อยแถวตรวจเข้มหลังต่อเคอร์ฟิวรอบสอง ส่วนที่ปัตตานีป่วยโควิดสะสมพุ่งทะลุหมื่นรายแล้ว เสียชีวิตใหม่ 8 ศพในวันเดียว
วันอังคารที่ 3 ส.ค.64 ที่ห้องประชุมศรียะลา อาคาร 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 30/2564 พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ในที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 (ไม่มีการเว้นระยะห่าง) เกิดการรวมกลุ่ม เกิดจากการสัมผัสร่วมบ้าน การสัมผัสร่วมชุมชน และผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จากสถานที่ทำงานร่วมกัน และหากเปรียบเทียบจำนวนผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าลดลงร้อยละ 0.97 ขณะที่การเปรียบผู้ติดเชื้อในรอบ 14 วันที่ผ่านมา ยังคงพบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ผู้สูงอายุยังเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มอื่น
นอกจากนี้ได้มีรายงานว่า มีการพบผู้ป่วยโควิด -19 สายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่ระบาดใน 2 อำเภอ คือ อ.รามัน และ อ.บันนังสตา (ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิดที่กลับมาจากกรุงเทพฯ) คิดเป็นร้อยละ 10 ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งโควิดสายพันธุ์เดลต้าจะมีการติดเชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เอลฟ่าและสายพันธุ์อื่นๆ โดยปัจจัยที่ยังคงทำให้เกิดการแพร่กระจายของโควิด-19 ยังคงขึ้นอยู่กับวินัยส่วนบุคคล และการปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์อย่างเคร่งครัด แต่สิ่งที่ต้องคุมเข้มคือการจัดการปัจจัยในครอบครัว เพื่อลดการแพร่กระจายในครอบครัว
@@เบตงปล่อยแถวตรวจเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มหลังต่อเคอร์ฟิวรอบสอง
ส่วนที่หน้าที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา นายกิตติภณ เปรมรัชชานนท์ ปลัดอำเภอเบตง หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เป็นประธานปล่อยแถวหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตามคำสั่ง ศบค.ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 โดยออกประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบการ โดยห้ามออกนอกเคหะสถานเวลา 21.00 - 04.00 น. เพื่อแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้ยุติลงโดยเร็วและป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งยังมีข้อกำหนดที่รวมไปถึงการงดให้บริการขนส่งข้ามเขตจังหวัด การตั้งด่านสกัดระหว่างเขตจังหวัดและระดับอำเภอ ห้ามจัดกิจกรรมมากกว่า 5 คนขึ้นไป ห้ามอาหารบริโภคในร้าน ให้ขายแบบนำกลับไปบริโภคที่อื่น เปิดได้ถึง 20.00 น. งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน การขายอาหารในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มโดยให้บริการแบบเดลิเวอรี่ ส่วนร้านขายยา เวชภัณฑ์ ซูเปอร์มาเก็ต ปิดเวลา 20.00 น. ให้ปิดร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา และห้ามใช้อาคารสถานที่ของสถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยเริ่มตั้งแต่ 3-18 ส.ค.นี้ และจะประเมินผลทุก 14 วัน และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอาจต่อไปถึงวันที่ 31 ส.ค.
@@โรงพยาบาลนราฯ เตียงยังติดลบอีก 49 เตียง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 3 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,046 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 838 เตียง คงเหลือ 208 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,501 เตียง ใช้ไป 2,634 เตียง คงเหลือ 867 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:188
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 933 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 724 เตียง คงเหลือ 209 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,715 เตียง ใช้ไป 1,318 เตียง คงเหลือ 397 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:12
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 556 เตียง คงเหลือ 235 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 672 เตียง คงเหลือ 416 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:96
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 593 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 642 เตียง คงเหลือ -49 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,730 เตียง ใช้ไป 889 เตียง คงเหลือ 841 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:178
@@ปัตตานีติดเชื้อสะสมทะลุหมื่นราย เสียชีวิตใหม่วันเดียว 8 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอังคารที่ 3 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 320 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,288 ราย รักษาหายแล้ว 6,863 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 8 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 135 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 149 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 638 ราย โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 99 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 925 ราย โรงพยาบาลชุมชน 498 ราย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 10 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 34 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 140 ราย Home Isolation 131 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 659 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 3,556 ราย, อ.หนองจิก 1,295 ราย, อ.โคกโพธิ์ 528 ราย, อ.ยะหริ่ง 1,083 ราย, อ.สายบุรี 509 ราย, อ.ไม้แก่น 141 ราย, อ.แม่ลาน 208 ราย, อ.ยะรัง 1,116 ราย, อ.ปะนาเระ 498 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 234 ราย, อ.มายอ 892 ราย และ อ.กะพ้อ 126 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 173 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 7,634 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,976 ราย รักษาหายแล้ว 5,592 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 66 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,091 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,921 ราย, อ.กรงปินัง 640 ราย, อ.เบตง 398 ราย, อ.รามัน 708 ราย, อ.บันนังสตา 1,383 ราย, อ.กาบัง 247 ราย อ.ธารโต 653 ราย และ อ.ยะหา 684 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,976 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 157 ราย โรงพยาบาลเบตง 53 ราย รพช.6 แห่ง 346 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 11 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 656 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 16 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 233 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 109 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.ยะหา 82 ราย โรงพยาบาลสนามธารโต 28 ราย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพยะลา 6 ราย Bubble & Seal 4 ราย รักษาตัวที่บ้าน 13 ราย ปฏิเสธการรักษา 10 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 252 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 185 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 26 ราย, อ.ตากใบ 3 ราย, อ.ยี่งอ 4 ราย, อ.จะแนะ 17 ราย, อ.แว้ง 2 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 19 ราย, อ.บาเจาะ 30 ราย , อ.ระแงะ 11 ราย, อ.ศรีสาคร 7 ราย, อ.เจาะไอร้อง 2 ราย, อ.สุไหงปาดี 24 รายและ อ.สุไหงโก-ลก 39 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 6,858 ราย รักษาหายสะสม 5,076 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 73 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,540 ราย, อ.ระแงะ 807 ราย, อ.รือเสาะ 362 ราย, อ.บาเจาะ 486 ราย, อ.จะแนะ 393 ราย, อ.ยี่งอ 370 ราย, อ.ตากใบ 865 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 401 ราย, อ.สุไหงปาดี 400 ราย, อ.ศรีสาคร 307 ราย, อ.แว้ง 387 ราย, อ.สุคิริน 209 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 332 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 122 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 83 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 38 ราย และผู้ติดเชื้อจากโครงการคนสงขลาไม่ทิ้งกัน 1 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 12,784 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 12,761 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,046 ราย รักษาหายแล้ว 9,667 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 71 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,604 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 3,279 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,067 ราย, อ.จะนะ 1,450 ราย, อ.สิงหนคร 1,172 ราย, อ.เทพา 782 ราย, อ.สะเดา 755 ราย, อ.สะบ้าย้อย 545 ราย, สทิงพระ 309 ราย, อ.บางกล่ำ 279 ราย, อ.รัตภูมิ 264 ราย, อ.นาทวี 210 ราย, อ.นาหม่อม 209 ราย, อ.ระโนด 92 ราย, ควนเนียง 82 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 62 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 91 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย