ศบค.ยะลาออกประกาศคำสั่งล็อกดาวน์ต่ออีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 -16 ส.ค. หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่ม ขณะที่ชาวเบตงเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดแล้วเกือบ 50 % ส่วนปัตตานีเปิดให้บริการฉีดวัคซีนแบบ Drive Thru ด้าน ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสฯ เผยต้องเตรียมให้ได้ 4,000 เตียง เพราะแนวโน้มการแพร่ระบาดสูง
วันเสาร์ที่ 31 ก.ค.64 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ยะลา ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ทำให้นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดยะลา จึงได้ออกประกาศคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา เพื่อขยายระยะเวลาในการบังคับใช้มาตรการและคำสั่งต่างๆ ต่ออีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.64 - 16 ส.ค.64 ตามประกาศคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา 3 ฉบับดังนี้
- คำสั่งที่ 199/2564 เรื่องขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการป้องกันและควบุคมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.ยะลา
- คำสั่งที่ 200/ 2564 เรื่อง ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉับบัที่ 28) ว่าด้วยมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานและการลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางในเขตพื้นที่ จ.ยะลา
- คำสั่งที่ 201/2564 เรื่อง ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉับบัที่ 28) ว่าด้วยมาตรการสำหรับบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกพื้นที่ จ.ยะลา
โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษทั้งจำและปรับ
@@ชาวเบตงรับการฉีดวัคซีนแล้วเกือบ 50 %
ส่วนบรรยากาศการฉีดวัคซีน ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด -19 ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ได้ประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ที่เข้ารับการฉีดเข็มที่ 2 ที่มีใบนัด และกลุ่ม walk-in โดยทางโรงพยาบาลเบตง ได้เปิดฉีดวัคซีน 3 กลุ่มเป้าหมาย คือประชาชนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์ 12สัปดาห์ขึ้นไป และประชาชนอายุ 18-59 ปี
นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง กล่าวว่า ขณะนี้ชาวเบตง เดินหน้าฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันหมู่ ภาพรวมเกือบ 50 % แล้ว มีประชาชนมารอ เพื่อเข้ารับการฉีดมากกว่า 1,000 คน ต่อวัน โดยเมื่อวานนี้ มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน จำนวน 1,358 คน โดยประชาชนที่มาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ในปัจจุบัน ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงอยากให้ชาวเบตงเข้ารับการฉีดวัคซีนกันทุกคน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ร่วมกัน
นอกจากนี้สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ภาคใต้ได้ร่วมมอบชุด PPE / mask n95 / หน้ากากอนามัย ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลเบตงอีกด้วย
@@ผอ.รพ.นราธิวาสฯ เผยต้องเตรียม 4,000 เตียง เพราะแนวโน้มการแพร่ระบาดสูง
นายแพทย์วิชัย วิเชียรวัฒนชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ จากห้างร้าน บริษัท โรงงาน ที่มี พนักงานเป็นจำนวนมาก คาดว่า จะให้บริการได้ประมาณ 1,200 - 1,500 คน โดยขณะนี้ จ.นราธิวาส ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ประมาณร้อยละ 15 จึงขอฝากประชาชนร่วมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีน
ส่วนสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีแดงที่มีอาการรุนแรง ขณะนี้มีเตียงรองรับผู้ป่วย จำนวน 135 เตียง มีผู้ที่เข้ารับการรักษา 130 เตียง โดยในภาพรวมของจังหวัดนราธิวาส ต้องเตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้ได้ประมาณ 4,000 เตียง เนื่องจากแนวโน้มการแพร่ระบาดสูง
@@ปัตตานีเปิดให้บริการฉีดวัคซีนแบบ Drive Thru
ที่อาคารจอดรถสำหรับประชาชน ถนนสฤษดิ์ อำเภอเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นสถานที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนแบบขับรถเข้ามาบริการโดยไม่ต้องลงจากรถ หรือ Drive Thru โดยโรงพยาบาลปัตตานีได้ร่วมกับอำเภอเมืองปัตตานีจัดขึ้น ซึ่งมีประชาชนได้จองคิวเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก
สำหรับการเปิดให้บริการฉีดวัคซีนแบบ Drive Thru สามารถให้บริการได้ประมาณวันละ 130-150 ราย จะให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 -16.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป กลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค คือโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน และโรคเบาหวาน หญิงมีครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไปและผู้พิการ ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครจองคิวเข้ารับบริการได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 073-711010 ต่อ 0
@@สถานการณ์เตียงในโรงพยาบาลชายแดนใต้ ยังพอว่างอยู่
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 31 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 960 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 807 เตียง คงเหลือ 153 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,292 เตียง ใช้ไป 2,447 เตียง คงเหลือ 845 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:175
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 933 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 750 เตียง คงเหลือ 183 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,337 เตียง คงเหลือ 498 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:12
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 615 เตียง คงเหลือ 176 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 771 เตียง คงเหลือ 317 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:110
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 593 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 601 เตียง คงเหลือ -8 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,680 เตียง ใช้ไป 883 เตียง คงเหลือ 797 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:177
@@ปัตตานี - สงขลาติดเชื้อยังพุ่ง 300 กว่าราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 31 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 344 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 9,303 ราย รักษาหายแล้ว 6,192 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 120 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 154 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 685 ราย โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 99 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 757 ราย โรงพยาบาลชุมชน 491 ราย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 10 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 32 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 142 ราย Home Isolation 126 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 488 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 3,075 ราย, อ.หนองจิก 1,220 ราย, อ.โคกโพธิ์ 489 ราย, อ.ยะหริ่ง 1,041 ราย, อ.สายบุรี 472 ราย, อ.ไม้แก่น 131 ราย, อ.แม่ลาน 198 ราย, อ.ยะรัง 959 ราย, อ.ปะนาเระ 460 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 213 ราย, อ.มายอ 836 ราย และ อ.กะพ้อ 115 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 168 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 7,122 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,181 ราย รักษาหายแล้ว 4,885 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 56 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,578 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,780 ราย, อ.กรงปินัง 629 ราย, อ.เบตง 386 ราย, อ.รามัน 629 ราย, อ.บันนังสตา 1,281 ราย, อ.กาบัง 229 ราย อ.ธารโต 588 ราย และ อ.ยะหา 600 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,181 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 191 ราย โรงพยาบาลเบตง 71 ราย รพช.6 แห่ง 353 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 24 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 762 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 9 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 234 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 109 ราย Bubble & Seal 4 ราย รักษาตัวที่บ้าน 22 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 365 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 217 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 69 ราย, อ.ตากใบ 4 ราย, อ.ยี่งอ 8 ราย, อ.จะแนะ 19 ราย, อ.แว้ง 20 ราย, อ.สุคิริน 3 ราย, อ.รือเสาะ 4 ราย, อ.บาเจาะ 13 ราย , อ.ระแงะ 6 ราย, อ.ศรีสาคร 5 ราย, อ.เจาะไอร้อง 26 ราย, อ.สุไหงปาดี 1 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 39 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 6,210 ราย รักษาหายสะสม 4,408 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 67 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,403 ราย, อ.ระแงะ 703 ราย, อ.รือเสาะ 322 ราย, อ.บาเจาะ 447 ราย, อ.จะแนะ 366 ราย, อ.ยี่งอ 326 ราย, อ.ตากใบ 854 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 343 ราย, อ.สุไหงปาดี 299 ราย, อ.ศรีสาคร 290 ราย, อ.แว้ง 349 ราย, อ.สุคิริน 191 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 318 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 324 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 178 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 143 ราย และผู้ติดเชื้อจากโครงการคนสงขลาไม่ทิ้งกัน 3 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 12,026 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 12,003 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,935 ราย รักษาหายแล้ว 9,028 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 63 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,636 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 3,131 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,966 ราย, อ.จะนะ 1,388 ราย, อ.สิงหนคร 984 ราย, อ.เทพา 763 ราย, อ.สะเดา 663 ราย, อ.สะบ้าย้อย 518 ราย, สทิงพระ 303 ราย, อ.บางกล่ำ 268 ราย, อ.นาทวี 199 ราย, อ.นาหม่อม 195 ราย, อ.รัตภูมิ 206 ราย, อ.ระโนด 91 ราย, ควนเนียง 72 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 61 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 82 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย