นราฯ เลื่อนเปิดเทอมอีกรอบเป็น 30 ส.ค. ขณะที่ด่านรอยต่อพื้นที่ตรวจเข้มเข้า-ออก ด้านศอ.บต.เร่งประสานช่วยนักศึกษาไทยในต่างแดนที่ขอกลับไทย สงขลาสั่งปิดชุมชนบ้านหัวเลน อ.สิงหนคร หลังพบผู้ติดเชื้อ 179 ราย ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ รวม 951 ราย
วันพุธที่ 28 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกสังกัดต้องปรับเปลี่ยนระบบการเรียนการสอนเป็นรูปแบบใหม่ ทั้ง On-air เรียนผ่านมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ DLTV On-demand เรียนผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ On-line เรียนผ่านอินเตอร์เน็ต และ On-hand เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร เช่น หนังสือ แบบฝึกหัดใบงาน ในรูปแบบผสมผสาน หรืออาจใช้วิธีอื่นๆ
ล่าสุดทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาสได้มีมติเห็นชอบให้เลื่อนการเปิดเรียนแบบปกติ On Site ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 จากเดิมที่กำหนดให้เลื่อนไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค.64 เป็นให้เลื่อนไปจนถึงวันที่ 29 ส.ค.64 และเปิดเรียนแบบปกติ On Site ในวันที่ 30 ส.ค.64 ตามคำสั่งจังหวัดนราธิวาส
ขณะที่บริเวณด่านบ้านทุ่งคา ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นด่านรอยต่อระหว่าง อ.ยี่งอและ อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งมีการตั้งด่านตรวจตลอด 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่ายทั้งตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน รวมทั้งกำลังภาคประชาชน ตั้งด่านตรวจเข้มควบคุมการเดินทางเข้า-ออก ระหว่างอำเภอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจมีความเข้มงวดในการตรวจสอบและคัดกรองบุคคลที่เดินทางผ่านเข้าออกระหว่างอำเภอในขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาด โดยเจ้าหน้าที่มีการตรวจเอกสารรับรองความจำเป็นการขออนุญาตเข้า-ออกเดินทางไปนอกพื้นที่ระหว่างอำเภอ เป็นไปตามคำสั่งจังหวัด แม้ว่าประชาชนจะไม่ได้รับความสะดวกเหมือนปกติ แต่ภาพรวมถือว่า ทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
@@ศอ.บต.เร่งช่วยนักศึกษาไทยในต่างแดนขอกลับไทย
พล.ร.ต.สมเกียรติ์ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้ทาง ศอ.บต.ได้ประสานงานตามอำนาจหน้าที่ เพื่อแก้ปัญหานักศึกษาไทยในต่างประเทศที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น โดยขอให้นักศึกษาไทยที่อยู่ในต่างประเทศและมีความประสงค์ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ไปดำเนินการยื่นแจ้งต่อสถานเอกราชทูตไทยประจำประเทศนั้น ๆ ให้เป็นที่เรียบร้อยไว้ก่อน ส่วนขั้นตอนอื่นที่เป็นปัญหาอุปสรรค ทาง ศอ.บต.กำลังดำเนินการประสานกับทาง ศบค.กลางอยู่
ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีของกลุ่มที่มีญาติที่เป็นนักศึกษาอยู่ต่างประเทศ เช่น ตุรกี ซูดาน และอินโดนีเซีย ที่ได้รับทราบและเร่งทำตามขั้นตอนของกระทรวงการต่างประเทศ โดยการไปแจ้งความประสงค์ที่สถานเอกราชทูตไทยประจำประเทศนั้น ๆ เอาไว้ เพื่อรอการดำเนินการประสานการช่วยเหลือจากทาง ศอ.บต.
@@เจ้าหน้าที่สุไหงโก-ลก รวบ 7 แรงงานเมียนมาลอบข้ามแดนเข้าไทย
ส่วนเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กำลังผสม อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ได้ทำการควบคุมแรงงานต่างด้าวชายชาวเมียนมา จำนวน 7 คน ขณะกำลังลักลอบข้ามเข้ามาฝั่งไทย ที่บริเวณคลองชลประธานตรงข้ามฐานปฏิบัติการ ชฝต.4412 ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
จากการสอบถามทราบว่า ทั้งหมดเป็นแรงงานที่ทำงานในประเทศมาเลเซียและต้องการจะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด จึงได้ติดต่อนายหน้า จ่ายเงินคนละ 3,500 ริงกิต เพื่อให้ประสานพาข้ามมาฝั่งไทย แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ถูก ชฝต.4412 ที่กำลังลาดตระเวนควบคุมตัวได้เสียก่อน
โดยล่าสุดแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 7 รายนี้ ได้ถูกส่งเข้าสู่กระบวนการกักตัว ณ เรือนจำเก่า อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการจะดำเนินการผลักดันกลับประเทศต่อไป ส่วนทางคดีได้ยึดมือถือของกลางของผู้ต้องหามาขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องในการนำพาว่า มีบุคคลในประเทศไทยเกี่ยวข้องหรือไม่
@@ สั่งปิดชุมชนบ้านหัวเลน จ.สงขลา หลังมีผู้ติดเชื้อ 179 ราย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมแล้ว 805 ราย และอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หัวเขา มากถึง 340 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกว่า 1,700 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนบ้านหัวเลน ม.6 ต.หัวเขา ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อ 179 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 160 ราย ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบภายในชุมชนบ้านหัวเลน จำนวน 611 ครัวเรือน 2,705 ราย
ทำให้ทางคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออำเภอสิงหนคร จ.สงขลา มีมติให้ปิดทางเข้า-ออก พื้นที่ชุมชนบ้านหัวเลน เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.64 - 10 ส.ค.64 โดยทำการปิดหมู่บ้านเป็นการชั่วคราว เพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และห้ามประชาชนภายในชุมชนบ้านหัวเลน เดินทางเข้า-ออกพื้นที่อย่างเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ แต่ยังสามารถทำกิจกรรมให้อาหารปลา และขายอาหารได้ภายในชุมชนบ้านหัวเลน แต่หากมีความจำเป็นสามารถขอคำสั่งกักตัวหรือประสานข้อขัดข้องได้ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ (โรงเรียนบ้านหัวเขา)
@@กู้ภัยมุสลิมเบตง ออกพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19
ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมุสลิมเบตง ได้จัดทีมเฉพาะกิจโควิด-19 เพื่อออกพ่นยาฆ่าเชื้อตามสถานที่ต่างๆในพื้นที่ อ.เบตง อาทิ สำนักงานกิ่งกาชาดอำเภอเบตง สนามบินเบตง วัดพุทธาธิวาส มัสยิดกลางเบตง มัสยิดตำบลธารน้ำทิพย์ และมัสยิดบ้านกาแป๊ะฮูลู เนื่องมาจากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดและส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เบตง ยังคงน่าเป็นห่วง พบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ทันท่วงที
โดยได้รับสนับสนุนเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ จาก ดร.อับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.เขต 3 จ.ยะลา ที่ปรึกษากู้ภ้ยมุสลิมเบตง เพื่อนำมาใช้น้ำยาฉีดพ่นที่เป็นผลิตภัณฑ์สารสกัดจากธรรมชาติ มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อประชาชนรวมไปถึงสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตให้กับพี่น้องชาวเบตงรวมทั้งจะเร่งดำเนินการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อไป ผู้สนใจ ติดต่อได้ที่หน่วยงานกู้ภ้ยมุสลิมเบตง โทรศัพท์ 073-720169 , 098-0131873
@@ชายแดนใต้ รพ.หลัก- รพ.สนาม ยังมีเตียงว่าง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 28 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 944 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 821 เตียง คงเหลือ 123 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,198 เตียง ใช้ไป 1,824 เตียง คงเหลือ 1,374 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:130
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 933 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 733 เตียง คงเหลือ 200 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,446 เตียง คงเหลือ 389 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:14
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 550 เตียง คงเหลือ 241 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 1,085 เตียง คงเหลือ 3 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:155
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 593 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 538 เตียง คงเหลือ 55 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,680 เตียง ใช้ไป 669 เตียง คงเหลือ 1,011 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:134
@@ติดเชื้อโควิดใหม่ 4 จว.ชายแดนใต้ รวม 951 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันพุธที่ 28 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 211 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 8,409 ราย รักษาหายแล้ว 5,133 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 113 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 180 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 861 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 794 ราย โรงพยาบาลชุมชน 481 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 40 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 182 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 618 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 2,734 ราย, อ.หนองจิก 1,150 ราย, อ.โคกโพธิ์ 481 ราย, อ.ยะหริ่ง 969 ราย, อ.สายบุรี 435 ราย, อ.ไม้แก่น 119 ราย, อ.แม่ลาน 185 ราย, อ.ยะรัง 771 ราย, อ.ปะนาเระ 388 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 198 ราย, อ.มายอ 746 ราย และ อ.กะพ้อ 114 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 182 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 6,496 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,257 ราย รักษาหายแล้ว 4,189 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 50 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,962 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,560 ราย, อ.กรงปินัง 609 ราย, อ.เบตง 354 ราย, อ.รามัน 548 ราย, อ.บันนังสตา 1,158 ราย, อ.กาบัง 219 ราย อ.ธารโต 509 ราย และ อ.ยะหา 539 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,257 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 178 ราย โรงพยาบาลเบตง 53 ราย รพช.6 แห่ง 319 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 57 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 706 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 7 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 244 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 124 ราย โรงพยาบาลสนามธารโต 4 ราย Bubble & Seal (3 แห่ง) 127 ราย รักษาตัวที่บ้าน 18 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 420 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 275 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 40 ราย, อ.ตากใบ 6 ราย, อ.ยี่งอ 28 ราย, อ.จะแนะ 11 ราย, อ.แว้ง 2 ราย, อ.สุคิริน 13 ราย, อ.รือเสาะ 29 ราย, อ.บาเจาะ 21 ราย , อ.ระแงะ 55 ราย, อ.ศรีสาคร 12 ราย, อ.เจาะไอร้อง 23 ราย, อ.สุไหงปาดี 20 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 15 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 5,580 ราย รักษาหายสะสม 4,048 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 54 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,210 ราย, อ.ระแงะ 655 ราย, อ.รือเสาะ 311 ราย, อ.บาเจาะ 415 ราย, อ.จะแนะ 338 ราย, อ.ยี่งอ 280 ราย, อ.ตากใบ 848 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 242 ราย, อ.สุไหงปาดี 274 ราย, อ.ศรีสาคร 261 ราย, อ.แว้ง 271 ราย, อ.สุคิริน 186 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 289 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 283 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 255 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 24 รายและผู้ติดเชื้อจากโคงการคนสงขลาไม่ทิ้งกัน 4 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 11,163 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 11,140 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,645 ราย รักษาหายแล้ว 8,457 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 61 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,354 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,805 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,874 ราย, อ.จะนะ 1,375 ราย, อ.สิงหนคร 877 ราย, อ.เทพา 712 ราย, อ.สะเดา 586 ราย, อ.สะบ้าย้อย 462 ราย, สทิงพระ 299 ราย, อ.บางกล่ำ 256 ราย, อ.นาทวี 184 ราย, อ.นาหม่อม 173 ราย, อ.รัตภูมิ 149 ราย, อ.ระโนด 88 ราย, ควนเนียง 61 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 51 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 75 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย