ศบค.ยะลา สั่งปิดพื้นที่เสี่ยง 2 ตลาดนัด เพื่อลดการเคลื่อนไหวที่รวมคนจำนวนมาก ส่วนที่เบตงออกประเมิน สถานประกอบการขอผ่อนคลายนั่งทานในร้านได้ ด้านนราธิวาสตรวจเข้มโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา หวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ขณะที่ติดเชื้อสะสมสงขลาใกล้แตะ 7 พัน
วันพุธที่ 7 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมืองยะลา ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจากการติดตามสอบสวนโรคพบว่า สาเหตุเกิดจากการสัมผัสบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงสถานที่เสี่ยงที่มีการรวมคนเป็นจำนวนมาก เช่น ตลาดสด ตลาดนัด
ล่าสุดนายชัยสิทธิ์ พาณิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ที่ 152/2564 ให้ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในเขตท้องที่ อ.เมืองยะลา โดยมีคำสั่งให้ปิดตลาดนัดในเขตท้องที่ อ.เมืองยะลา ประกอบด้วย
1.ตลาดนัดมะพร้าว (ชุมชนหลังวัดยะลาธรรมาราม) ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา
2.ตลาดนัดวันอาทิตย์ประจำสัปดาห์ ในหมู่ที่ 6 บ.กือแลมะห์ ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา
โดยมีข้อปฏิบัติห้ามเข้า-ออก และห้ามขายของทุกอย่างในสถานที่ดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.64 เป็นต้นไป นกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือมีการแจ้งยกเลิกคำสั่ง หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีโทษทั้งจำและปรับตาม พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
@@เบตงออกประเมิน สถานประกอบการขอผ่อนคลายนั่งทานในร้านได้
ที่ อ.เบตง นายสมศักดิ์ เหมรา ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองเบตง ได้มอบหมายให้งานสุขาภิบาลอนามัยสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเบตงร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง, สาธารณสุขอำเภอเบตง, หัวหน้าศูนย์บริการสาธารณสุขชุมชนเมือง (PCU), ประธานศูนย์เครือข่าย 28 ชุมชน ออกประเมินสถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านนวด หรือกิจการที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ในเขตเทศบาลเมืองเบตง เพื่อขอผ่อนคลายการใช้สถานที่ ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีสถานประกอบการร้านอาหาร ร้านนวดฝ่าเท้า ในเขตเทศบาลเมืองเบตง ที่ได้ยื่นขออนุญาต เพื่อผ่อนคลายการใช้สถานที่ จำนวน 7 ร้าน โดยให้นั่งรับประทานในร้านได้ แต่ต้องมีมาตรการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดตามที่ทางราชการกำหนด ให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Thai Stop Covid Plus ที่ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาขึ้น ส่วนร้านหรือกิจการใดที่ต้องการผ่อนคลาย ต้องไปยื่นขออนุญาต ได้ ณ ที่ว่าการอำเภอเบตง เพื่อที่จะได้ออกประเมินความพร้อมต่อไป
@@นราธิวาส ตรวจเข้มโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา หวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่
ส่วนที่ จ.นราธิวาส นายคณบดี สัมพัชนี อุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาสพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทน สนง.แรงงานจังหวัดนราธิวาส จัดหางานจังหวัด ประกันสังคม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่จากศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบกิจการโรงงานแปรรูปยางพารา (นราพารา) ในพื้นที่ ต.สากอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อประเมินการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 ในพื้นที่จริง (Onsite)
จากการตรวจเยี่ยมโรงงานแปรรูปยางพารา พบว่า การปฏิบัติงานของพนักงาน ส่วนใหญ่สวมแมสขณะปฏิบัติงาน และเว้นระยะห่างระหว่างกัน โดยปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งโรงงานแปรรูปยางพารา (นราพารา) ภาพรวมมีพนักงานในโรงงานจำนวน 224 คน ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ และมีแรงงานพม่าประมาณ 51 คน
@@ปัตตานีป่วยใหม่โผล่ 174 ราย - สงขลาติดเชื้อสะสมใกล้แตะ 7 พัน
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันพุธที่ 7 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 160 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 2,938 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,634 ราย รักษาหายแล้ว 1,282 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย มำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 22 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,327 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,634 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 117 ราย โรงพยาบาลเบตง 64 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 104 ราย โรงพยาบาลธารโต 4 ราย โรงพยาบาลรามัน 71 ราย โรงพยาบาลยะหา 82 ราย โรงพยาบาลกาบัง 3 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 53 ราย โรงพยาบาลสนามยะลา 706 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 12 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 ราย โรงพยาบาลสนามพาะกิจ 333 ราย และรอเข้าระบบ 83 ราย
ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 1,333 ราย, อ.กรงปินัง 374 ราย, อ.เบตง 246 ราย, อ.รามัน 158 ราย, อ.บันนังสตา 349 ราย, อ.กาบัง 96 ราย อ.ธารโต 195 ราย และ อ.ยะหา 187 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 58 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก 6 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย, อ.เมือง 17 ราย, อ.ระแงะ 1 ราย, อ.ศรีสาคร 2 ราย, อ.จะแนะ 7 ราย, อ.สุไหงปาดี 2 ราย อ.ตากใบ 5 ราย และ อ.ยี่งอ 17 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,670 ราย รักษาหายสะสม 1,836 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 14 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 798 ราย, อ.ระแงะ 200 ราย, อ.รือเสาะ 121 ราย, อ.บาเจาะ 245 ราย, อ.จะแนะ 180 ราย, อ.ยี่งอ 106 ราย, อ.ตากใบ 496 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 63 ราย, อ.สุไหงปาดี 104 ราย, อ.ศรีสาคร 140 ราย, อ.แว้ง 64 ราย, อ.สุคิริน 74 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 79 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 174 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,682 ราย รักษาหายแล้ว 1,774 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสม 28 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 170 ราย โรงพยาบาลสนาม 1,117 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 326 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 38 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 132 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 89 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 8 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,199 ราย, อ.หนองจิก 483 ราย, อ.โคกโพธิ์ 213 ราย, อ.ยะหริ่ง 465 ราย, อ.สายบุรี 156 ราย, อ.ไม้แก่น 92 ราย, อ.แม่ลาน 78 ราย, อ.ยะรัง 278 ราย, อ.ปะนาเระ 138 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 112 ราย, อ.มายอ 350 ราย และ อ.กะพ้อ 84 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 164 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 103 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 18 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 13 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงในบริษัทร้านค้า 20 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 10 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 6,997 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 6,974 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,933 ราย รักษาหายแล้ว 4,039 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 26 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 375 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,705 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,122 ราย, อ.จะนะ 789 ราย, อ.เทพา 500 ราย, อ.สิงหนคร 420 ราย, อ.สะเดา 363 ราย, สทิงพระ 250 ราย, อ.บางกล่ำ 168 ราย, อ.สะบ้าย้อย 153 ราย, อ.นาทวี 108 ราย, อ.รัตภูมิ 73 ราย, อ.นาหม่อม 72 ราย, อ.ระโนด 64 ราย, ควนเนียง 32 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 29 ราย, อ. อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,076 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 39 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย