ศบค.ยะลา สั่งปิดเพิ่มพื้นที่เสี่ยง 2 หมู่บ้าน - ไฟเขียวเปิด 7 หมู่บ้าน ขณะที่ชาวเบตงเฮ ยกเลิก 6 หมู่บ้านเสี่ยง หลังไม่พบเชื้อมากกว่า 14 วัน แชร์ว่อนไลน์ รพ.สนามยะลาไม่มีน้ำใช้มา 2 วันแล้ว ส่วนที่สงขลา รพ.หลักไร้เตียงว่าง - นราฯ จนท. 1 คนดูแลผู้ป่วย 146 คน
วันอังคารที่ 6 ก.ค.64 ที่ห้องประชุมศรียะลา อาคาร 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 22/2564 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในเรื่องของการปิดพื้นที่เสี่ยงต่อการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จำนวน 2 หมู่บ้าน ใน 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บันนังสตา 1 หมู่บ้าน คือ บ้านสนามบิน(กลุ่มบ้านกำปงปารู) หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง ส่วน อ.เมืองยะลา 1 หมู่บ้าน คือ บ้านบุดีฮิเลย์ (ซอยกูแบรายอ) หมู่ 8 ต.บุดี
นอกจากนี้ ยังได้การยกเลิกพื้นที่เสี่ยงต่อการควบคุมโควิด-19 เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นเวลาติดต่อกันมากกว่า 14 วัน จำนวน 3 ชุมชน 4 หมู่บ้าน ใน 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บันนังสตา 1 หมู่บ้าน คือ บ้านลิเง๊ะ หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน ส่วน อ.เบตง 3 ชุมชน คือ ชุมชนบูเก็ตตักโกร , ชุมชนกือติง , ชุมชนกุนุงจนอง ต.เบตง และ 3 หมู่บ้าน คือ บ้าน กม.32 (กลุ่มบ้านกำปงบารู) หมู่ 2 ต.อัยเยอร์เวง , บ้านธารมะลิ หมู่ 4 ต.อัยเยอร์เวง , บ้านบาแตตูแง (คุ้มบ้านโตะดือราเฮง) หมู่ 2 ต.ธารน้ำทิพย์
@@ชาวเบตงเฮ ยกเลิก 6 หมู่บ้านเสี่ยง หลังไม่พบเชื้อมากกว่า 14 วัน
ที่ อ.เบตง นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตงพร้อมด้วยนายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรี ผู้นำชุมชน ละผู้นำศาสนา ได้ร่วมกันดุอาร์ขอพร เพื่อขอให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และร่วมแสดงความยินดีกับชาวบ้านในชุมชนที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติพร้อมทำการเปิดพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนที่ปิดตามคำสั่ง ศบค.ยะลา จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1.บ้าน กม.32 ม.2 ต.อัยเยอร์เวง 2.บ้านธารมะลิ ม.4 ต.อัยเยอร์เวง 3.บ้านบาแตตูแง ม.2 ต.ธารน้ำทิพย์ 4.ชุมชนบูเก็ตตักโกร ต.เบตง 5.ชุมชนกือติง ต.เบตง และ 6.ชุมชนกุนุงจนอง ต.เบตง เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลังจากปิดพื้นที่มาแล้วกว่า14 วัน
ทำให้บรรยากาศในชุมชนและหมู่บ้านดังกล่าวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ชาวบ้านเริ่มมีรอยยิ้มแสดงความดีใจที่ชุมชนปลอดภัยจากโควิด-19 หลังครบกำหนดประกาศปิดหมู่บ้านเป็นเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษ นับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากทำการเปิดชุมชนแล้ว เจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเบตง ได้ดำเนินการฉีดน้ำทำความสะอาดชุมชนพร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ด้วยเครื่องพ่นละอองฝอยตามบ้านเรือนโดยรอบของชุมชนดังกล่าว
นายเกษม บือโต ชาวบ้านชุมชนบูเก็ตตักโกร กล่าวว่า ช่วงที่ปิดชุมชนในช่วงแรกชาวบ้านในชุมชนใช้ชีวิตลำบาก มีแต่ความกังวลไม่กล้าออกนอกบ้าน โชคดีที่มีถุงยังชีพจากภาครัฐ และองค์กรต่างๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลือทำให้บรรเทาความเดือดร้อนไปได้บ้าง รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ได้ไปทำงาน ไปประกอบอาชีพได้และจะปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
@@แชร์ว่อนไลน์ รพ.สนามยะลา ไม่มีน้ำใช้มา 2 วันแล้ว
ขณะที่สถานการณ์ในรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลา ล่าสุดได้มีการโพสต์ข้อความที่ถูกส่งมาจากผู้ที่ถูกกักตัวในโรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลา ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า “ผู้กักตัวร้อง ไม่มีน้ำอาบมา 2 วันแล้ว วอนผู้เกี่ยวข้องอย่าลอยแพคนไข้แบบนี้" #สถานที่ก่อสร้างใหญ่โตระบบประปาไม่น่าจะขัดข้องแบบนี้ #มีอะไรในก่อไผ่หรือปล่าว พิกัดสถานที่เกิดเหตุ รพ.สนามยะลา โรงเรียนศึกษาพิเศษเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านพงกาเซาะ ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา
ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ทำการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผู้กักตัวที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลารายหนึ่ง ทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค 64 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลา ขาดน้ำดื่มน้ำใช้ ทำให้ผู้กักตัวในโรงพยาบาลสนามบางคนไม่ได้อาบน้ำมากว่า 2 วันแล้ว สาเหตุอาจจะเป็นระบบประปาขัดข้องหรือน้ำไม่พอใช้ เพราะตอนนี้มีอาคารที่ใช้กักตัว 5 หลัง ไม่พอเพียงสำหรับคนจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องได้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังประชุมหารือกันอยู่ เพื่อหาปัญหาและแก้ไขต่อไป
@@สงขลา รพ.หลักไร้เตียงว่าง - นราฯ จนท.ดูแลผู้ป่วย 1 ต่อ 146
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันอังคารที่ 6 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,254 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 1,254 เตียง ไม่เหลือเตียงว่างเลย ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,789 เตียง ใช้ไป 1,685 เตียง คงเหลือ 104 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วย 1 : 120
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 426 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 412 เตียง คงเหลือ 14 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,091 เตียง ใช้ไป 1,036 เตียง คงเหลือ 1,055 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วย 1 : 10
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 591 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 514 เตียง คงเหลือ 77 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 660 เตียง ใช้ไป 514 เตียง คงเหลือ 146 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วย 1 : 73
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 419 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 323 เตียง คงเหลือ 96 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,030 เตียง ใช้ไป 410 เตียง คงเหลือ 620 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วย 1 : 146
@@ปัตตานีป่วยโควิดดับอีก 4 - สงขลาติดเชื้อใหม่กว่า 200
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอังคารที่ 6 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 135 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 2,778 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,587 ราย รักษาหายแล้ว 1,172 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย มำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 19 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,202 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,587 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 128 ราย โรงพยาบาลเบตง 70 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 101 ราย โรงพยาบาลธารโต 6 ราย โรงพยาบาลรามัน 76 ราย โรงพยาบาลยะหา 78 ราย โรงพยาบาลกาบัง 2 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 53 ราย โรงพยาบาลสนามยะลา 500 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 14 ราย โรงพยาบาลสนามชั่วคราว 263 ราย และรอเข้าโรงพยาบาล 296 ราย
ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 1,198 ราย, อ.กรงปินัง 372 ราย, อ.เบตง 246 ราย, อ.รามัน 158 ราย, อ.บันนังสตา 340 ราย, อ.กาบัง 96 ราย อ.ธารโต 195 ราย และ อ.ยะหา 173 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 109 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก 6 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย, อ.เมือง 25 ราย, อ.ระแงะ 22 ราย, อ.ศรีสาคร 24 ราย, อ.จะแนะ 4 ราย, อ.แว้ง 1 ราย, อ.สุไหงปาดี 1 ราย อ.ตากใบ 23 ราย และ อ.ยี่งอ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,612 ราย รักษาหายสะสม 1,758 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 13 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 781 ราย, อ.ระแงะ 199 ราย, อ.รือเสาะ 121 ราย, อ.บาเจาะ 245 ราย, อ.จะแนะ 173 ราย, อ.ยี่งอ 89 ราย, อ.ตากใบ 491 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 57 ราย, อ.สุไหงปาดี 102 ราย, อ.ศรีสาคร 138 ราย, อ.แว้ง 64 ราย, อ.สุคิริน 74 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 78 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 189 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,510 ราย รักษาหายแล้ว 1,703 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสม 24 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 201 ราย โรงพยาบาลสนาม 1,037 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 332 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 40 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 122 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 43 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 8 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,138 ราย, อ.หนองจิก 461 ราย, อ.โคกโพธิ์ 203 ราย, อ.ยะหริ่ง 450 ราย, อ.สายบุรี 149 ราย, อ.ไม้แก่น 89 ราย, อ.แม่ลาน 78 ราย, อ.ยะรัง 262 ราย, อ.ปะนาเระ 128 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 109 ราย, อ.มายอ 332 ราย และ อ.กะพ้อ 81 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 209 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 106 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 16 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 10 ราย กลุ่มในเรือนจำ 65 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 6,833 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 6,810 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,798 ราย รักษาหายแล้ว 4,009 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 26 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,597 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,671 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,088 ราย, อ.จะนะ 773 ราย, อ.เทพา 480 ราย, อ.สิงหนคร 416 ราย, อ.สะเดา 363 ราย, สทิงพระ 235 ราย, อ.บางกล่ำ 166 ราย, อ.สะบ้าย้อย 151 ราย, อ.นาทวี 84 ราย, อ.รัตภูมิ 72 ราย, อ.นาหม่อม 67 ราย, อ.ระโนด 62 ราย, ควนเนียง 30 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 28 ราย, อ. อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,076 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 37 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย