การรวมตัวประท้วงรัฐบาลในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มมีการนัดหมายถี่ขึ้น หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ต.ค. นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ชุมนุมที่สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา ชู 3 นิ้วไล่ "บิ๊กตู่" ขณะที่กลุ่มรักสถาบันนัดรวมตัวที่ปัตตานี นราธิวาส
นักเรียนนักศึกษาจากหลากหลายสถาบัน รวมทั้งประชาชนทั่วไปใน จ.ยะลา ร่วมชุมนุมประท้วงเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 19 ต.ค.63 เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดรับกับการชุมนุมรายวันในกรุงเทพฯ
การชุมนุมครั้งนี้ใช้พื้นที่สนามโรงพิธีช้างเผือก หรือสวนสาธารณะสนามช้างเผือก ภายในเทศบาลนครยะลา ซึ่งถือเป็นการชุมนุมแสดงพลังทางการเมืองโดยใช้สัญลักษณ์ "ชู 3 นิ้ว" ครั้งแรกๆ ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จัดขึ้นนอกสถานศึกษาอย่างเป็นทางการ
โดยก่อนหน้านี้มีการชุมนุมใหญ่ 2 ครั้ง ล้วนจัดในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) คือเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ต.ค. และ วันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ค.63 โดยในครั้งนั้นการชู 3 นิ้วยังไม่แพร่หลายเหมือนปัจจุบัน แต่การชุมนุมทั้ง 3 ครั้งรวมถึงครั้งนี้ มีความเชื่อมโยงกับแฟลชม็อบนักศึกษาที่ต่อมาใช้ชื่อว่า เยาวชนปลดแอก ประชาชนปลดแอก และล่าสุดคือคณะราษฎร 2563 (อ่านประกอบ : ม.อ.ปัตตานีพรึ่บ! ไล่นายกฯลามต้านนิคมจะนะ - ป้ายเอกราชปาตานีโผล่ร่วมวง, ชูป้าย PATANI MERDEKA ผิดงานหรือเป็นสารที่ต้องการสื่อ?, นักศึกษา ม.อ.ปัตตานี - หาดใหญ่ ร่วมชุมนุมไล่นายกฯ-ปล่อยเพื่อนเรา)
มีรายงานว่าก่อนการชุมนุมที่สนามโรงพิธีช้างเผือก เคยมีกลุ่มนักศึกษาใน จ.ปัตตานี จัดชุมนุมที่บริเวณลานกว้างริมแม่น้ำปัตตานีมาแล้ว แต่ไม่ได้เป็นข่าวในวงกว้างมากนัก
บรรยากาศการชุมนุมที่ยะลามีแกนนำสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย และเปิดโอกาสให้ผู้มาร่วมชุมนุมขึ้นเวทีปราศัยเป็นช่วงๆ โดยมีเนื้อหาโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ทำให้บ้านเมืองไม่สามารถไปต่อได้ นอกจากนั้นยังมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นพูดเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนของประเทศไทยที่ยังไม่มีคุณภาพด้วย
นายซูกริฟฟี ลาเตะ ประธานกลุ่ม PerMAS หรือ สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี ในฐานะแกนนำที่ขึ้นไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ กล่าวว่า ถือเป็นมิติใหม่และเป็นนิมิตหมายอันดีที่พี่น้องเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา มีความตื่นตัวทางการเมือง เรียกร้องประชาธิปไตย เพราะเชื่อว่าถ้าไม่มีประชาธิไตย เสรีภาพก็ไม่เกิด ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน
"ส่วนตัวไม่ใช่เป็นผู้จัดม็อบ เป็นผู้เข้าร่วม และมีโอกาสขึ้นปราศรัยด้วย วันนี้ม็อบเป็นของทุกคน จะได้เห็นพลังทางการเมืองที่สำคัญต่อการผลักดันประเทศไปสู่ประชาธิปไตย สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ยังมีเพื่อนๆ แกนนำหลายคนที่ถูกจับกุมตัว ก็ขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว รวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง" นายซูกริฟฟี กล่าว
ด้านผู้ปกครองนักเรียนที่มาร่วมชุมนุมรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเป็นตำรวจ แต่มาในนามประชาชน มาดูแลลูกซึ่งมาร่วมชุมนุมด้วย ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเยาวชนรู้ผิดถูก โดยที่ผู้ปกครองแค่คอยสอดส่องดูแลเท่านั้น เรื่องความคิดการนำเสนอ เราจะคัดค้านเด็กไม่ได้ ก็ได้แต่ขออย่างเดียวว่า "อย่าจาบจ้วงสถาบัน" อย่างเดียวก็พอ ส่วนการเมืองนั้น ตนในฐานะเป็นผู้ปกครองก็สนับสนุนเต็มที่
การชุมชนเป็นไปอย่างเรียบร้อย และไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น โดยแกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 18.20 น.
ต่อมาในวันอังคารที่ 20 ต.ค. นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีสันติวิทย์ อ.จะนะ จ.สงขลา จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาธิปไตยสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศที่ออกมาขับเคลื่อนเรียกร้องประชาธิปไตย และออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาล โดยอ้างเหตุผลว่ามีพฤติกรรมคุกคาม ใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่าง รวมทั้งเสนอทางออกให้รัฐรับฟังผู้เห็นต่างมากกว่าใช้กฎหมายแก้ปัญหา นอกจากนั้นยังมีการประกาศคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะด้วย
ส่วนที่คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี ในช่วงเย็น ได้มีนักศึกษาและนักเรียนหลักร้อยคน รวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก โดยมีแกนนำขึ้นปราศัยถึงความไม่ชอบธรรมในการบริหารประเทศ และประกาศพร้อมจะออกไปเรียกร้องนอกรั้วมหาวิทยาลัยด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ยิ่งเวลาล่วงเลยถึงช่วงค่ำยิ่งมีนักศึกษาตามหอพักต่างๆ มาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ
มีรายงานว่าที่ ม.อ.ปัตตานี จะมีการจัดชุมนุมนักศึกษาไล่ตามคณะวิชาต่างๆ เพื่อขยายแนวร่วม จากนั้นจะมีการจัดชุมนุมใหญ่นอกมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่มีการเลือกสถานที่ว่าจะเป็นที่ใดของปัตตานี
ขณะที่ จ.นราธิวาส นักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดกำลังหารือเพื่อนัดรวมตัวแสดงพลัง โดยชักชวนประชาชนให้ออกมาร่วมด้วย แต่ยังไม่กำหนดสถานที่และวัน-เวลา ว่าจะเป็นที่วงเวียนนกสันติภาพ หรือที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
อีกด้านหนึ่งก็มีการนัดทำกิจกรรมของกลุ่มเทิดทูนสถาบันเช่นกัน โดยในวันพุธที่ 21 ต.ค. เวลา 09.00 น. จะมีการรวมตัวกันที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จุดนัดพบที่แยกร้านลันเตา หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.สาขาสุไหงโก-ลก โดยเป็นการชักชวนประชาชนจาก อ.สุไหงโก-ลก และอำเภอใกล้เคียง เช่น อ.สุไหงปาดี และ อ.แว้ง สวมเสื้อเหลือง เดินรณรงค์สำนักรักประเทศไทย และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค. เวลา 15.00 น. จะมีกิจกรรม "รวมพลคนปัตตานี ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" ที่ลานศิลปวัฒนธรรม ถนนสายบุรี ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี โดยจะมีการแสดงดนตรี การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงของวงดุริยางค์ และจะมีผู้นำศาสนา ทั้ง นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี และ พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
วันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. กลุ่มไทยภักดี นัดพี่น้องชาวยะลาร่วมแสดงจุดยืนรักชาติ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่สวนขวัญเมือง ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยให้สวมเสื้อสีเหลือง แห่รอบเมืองให้โลกรู้ เริ่มกิจกรรมเวลา 17.00 น.
------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-2 การชุมนุมที่สนามโรงพิธีช้างเผือก จ.ยะลา
3 กิจกรรมที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสันติวิทย์ อ.จะนะ จ.สงขลา
4 การชุมนุมที่คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี
5 แบนเนอร์เชิญชวนเดินรณรงค์ปกป้องสถาบัน ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส