ร่างกฎหมายล็อตแรกที่พรรคก้าวไกลเสนอแก้ไข นอกจากมุ่งปฏิรูปกองทัพแล้ว ยังให้น้ำหนักกับปัญหาไฟใต้ โดยเสนอให้ยุบ กอ.รมน.ด้วย
ไม่มีใครการันตีได้ว่า การยุบหน่วยงานพิเศษที่รับผิดชอบภารกิจดับไฟใต้ จะทำให้ไฟใต้ดับมอดหรือไม่ เพราะในอดีต ยุครัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2545 ก็เคยตัดสินใจยุบ ศอ.บต. หรือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พตท.43 หรือกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ 43 มาแล้ว
จากนั้นไฟใต้ก็คุโชน และยืดเยื้อมานานเกือบ 20 ปี มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่าครึ่งหมื่น บาดเจ็บหลายหมื่นราย
ฉะนั้นยุบ กอ.รมน.ก็ไม่การันตีว่าไฟใต้ดับหรือไม่ หนำซ้ำความจริงจากพื้นที่ต้องยอมรับว่า ปัญหาชายแดนใต้วันนี้ไปไกลมาก มีการโจมตีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงข้อหาแปลกๆ
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ซูวารอ ปาตานี” ซึ่งแปลว่า “เสียงของคนปาตานี” ออกมาโพสต์ภาพแม่มดขี่ไม้กวาด พร้อมข้อความที่ทำให้เข้าใจได้ว่า ทหารใช้วิชาไสยศาสตร์กับโรงเรียนเอกชนใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
หลังเพจดังกล่าวโพสต์ข้อความกับภาพที่ว่านี้ออกมา ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางในพื้นที่ บ้างก็ต่อว่าทหาร เพราะเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายต่อต้านรัฐจ้องจะโจมตีอยู่แล้ว
ร้อนถึง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล และพบว่าข้อกล่าวหาของเพจ “ซูวารอ ปาตานี” น่าจะโยงถึงกิจกรรมที่ฝ่ายทหารเข้าไปทำกับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งใน ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยเป็นโรงเรียนสายสามัญระดับชั้นมัธยมศึกษา
@@ ลือมานาน ผีเข้านักเรียน
“ทีมข่าวอิศรา” ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม โดยสอบถามจากทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนที่ถูกอ้างถึง ได้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนแห่งนี้มักมีข่าวถึงหูพ่อแม่ผู้ปกครองและคนในชุมชนว่า มีเด็กโดนผีเข้า ทำให้มีนักเรียนไปเรียนน้อยลง
ต่อมามี “ทหารหมวกแดง” ซึ่งหมายถึง “ทหารรบพิเศษ” จากหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข เข้าไปทำกิจกรรมในโรงเรียนบ่อยครั้ง ทำให้มีข่าวลือออกมาว่า เมื่อทหารกลับไป เด็กโดนผีเข้าเกือบทั้งโรงเรียน ยิ่งส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่กล้าส่งบุตรหลานไปเรียนมากขึ้น และรู้สึกไม่ดีกับทหารหมวกแดง
จากการสอบถามคนในพื้นที่ หลายคนเชื่อข่าวลือ แต่บางคนก็ลังเล เพราะเชื่อว่าผีไม่มีจริง โดยบอกว่า อาจเป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายตรงข้ามเพื่อโจมตีทหาร เพราะทหารเข้าไปในพื้นที่ ต้องการเข้าไปสังเกตการณ์ เนื่องจากมีวัยรุ่นและเยาวชนเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่มีแนวคิดต่อต้านรัฐ ต่อต้านฝ่ายความมั่นคง จึงอาจปล่อยข่าวทำลายเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดแรงต้าน สกัดทหารไม่เข้าไปสังเกตการณ์ได้
@@ กอ.รมน.โต้โดนใส่ร้าย - ฝีมือผู้ไม่หวังดีเสียประโยชน์
ด้าน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ส่งข้อความชี้แจงไปยังสื่อแขนงต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ว่า เหตุการณ์ที่ทางเพจ “ซูวารอ ปาตานี” กล่าวหา เกิดขึ้นภายหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน ของหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข (ทหารชุดหมวกแดง) เข้าไปเยี่ยมและทำกิจกรรมกับนักเรียนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา โดยอ้างว่าเมื่อทหารกลับไป เด็กเกิดเป็นลม หมดสติเป็นจำนวนมาก คาดว่าโดนไสยศาสตร์
ต่อมาทางหน่วยได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ ไม่ปรากฏเหตุการณ์ตามที่กล่าวอ้าง และเพจ “ซูวารอ ปาตานี” เป็นสื่อที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้ได้ รวมทั้งที่ผ่านมาพยายามนำเสนอข้อความโจมตี กล่าวหาบิดเบือนการทำงานของเจ้าหน้าที่มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ “หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข” ที่เข้าไปทำกิจกรรมในสถานศึกษาต่างๆ มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความเข้าใจการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการสำนึกรักบ้านเกิด รวมถึงการให้ความรู้ในเรื่องความรักชาติ การยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกกิจกรรมมีการขออนุญาตจากผู้บริหารของสถานศึกษาทุกครั้ง
เชื่อว่าการปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการบ่มเพาะเยาวชนของกลุ่มผู้เห็นต่าง และกลุ่มผู้ไม่หวังดี จึงพยายามปล่อยข่าวทำลาย จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ
@@ เคยป่วนโจมตีทหารนิมนต์พระเข้ามัสยิด
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก็เคยมีกระแสวิจารณ์กรณีเจ้าหน้าที่ชุดควบคุม “หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข” ร่วมกับชุดทักษิณสัมพันธ์ที่ 401 กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน นิมนต์พระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาสเข้าไปในตาดีกาแห่งหนึ่งใน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำให้มีการสร้างข่าวโจมตีว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ยัดเยียดแฃะพยายามผสมกลมกลืนศาสนา สร้างความอึดอัดให้กับนักเรียนและคนในพื้นที่ ทั้งที่กิจกรรมนี้ทำกันมานาน และเจ้าอาวาสที่รับนิมนต์ก็เคยไปทำกิจกรรมกับโรงเรียนปอเนาะและตาดีกามาแล้วหลายแห่ง รวมถึงไปเยี่ยมพี่น้องมุสลิมที่ป่วยและยากจน โดยนำความช่วยเหลือต่างๆ ไปมอบให้ด้วย
การสร้างข่าวโจมตียังลุกลามไปถึงการกล่าวอ้างว่า ทหารนำปืนและอาวุธสงครามเข้าไปในโรงเรียน ถึงขั้นมี ส.ส.บางพรรคนำเรื่องเข้าไปอภิปรายในสภา ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจากทหารหน่วยเฉพาะกิจสันติสุขไม่พกปืน และไม่ติดอาวุธเข้าไปในชุมชน
ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งที่หน่วยเฉพาะกิจสันติสุขทำมาตลอด คือ นำธงชาติผืนใหม่ไปแจกให้กับสถานศึกษา และซ่อมแซมหรือยกเสาธงชาติขึ้นใหม่ให้ ซึ่งอาจเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่สวนทางกับความพยายามสร้างกระแสแบ่งแยกของฝ่ายผู้ไม่หวังดี