คนร้ายขับเก๋งย้อนศรไล่ยิงหนุ่มสายบุรีบาดเจ็บ เหยื่อยังแข็งใจควบมอเตอร์ไซค์หนีไปให้เพื่อนช่วยนำส่งโรงพยาบาล รอดตายหวุดหวิด ด้าน ผบ.ตร.สดุดีตำรวจผู้กล้า “ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว” ถูกคนร้ายยิงขณะปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ป้อมทางข้ามทางรถไฟนาประดู่ เสนอปูนบำเหน็จ 8 ขั้น เลื่อนยศเป็น “พ.ต.ท.”
วันจันทร์ที่ 12 มิ.ย.66 พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผู้กำกับการ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงประชาชน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นายอัฟกันร์ ดือราแม อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอัฟกันร์ กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากปั๊มน้ำมัน เพื่อเดินทางกลับบ้านในพื้นที่บ้านเจาะกือแย ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์เก๋งสีบรอนซ์ไม่ทราบยี่ห้อและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับย้อนศรมาบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 เส้นที่นายอัฟกันร์ใช้มุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อสบโอกาสได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่นายอัฟกันร์ กระสุนปืนเจาะเข้าที่ขาด้านขวาได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายอัฟกันร์ได้แข็งใจเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนี แล้วไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จยุพราชสายบุรี
ส่วนประเด็นสาเหตุการไล่ยิง ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจว่าเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ หรือเป็นปมขัดแย้งส่วนตัว
@@ ผบ.ตร.สดุดีตำรวจผู้กล้า เสนอปูนบำเหน็จ 8 ขั้น
วันเดียวกัน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ป้อมริมทางข้ามทางรถไฟ ตั้งอยู่ถนนพาดรางรถไฟ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรรักษาความปลอดภัย บริเวณป้อมถนนพาดทางรถไฟ หมู่ 1 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว อายุ 22 ปี ผู้บังคับหมู่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สภ.นาประดู่ (ผบ.หมู่ นปพ.สภ.นาประดู่) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อม เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการได้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พร้อมกำชับเพิ่มความเข้มมาตรการดูแลความปลอดภัย เกาะติดสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่พอจะรู้เบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากต้องรอผลตรวจสอบพยานหลักฐานให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบชุดเดิมที่อยู่ในสารบบคดีความมั่นคง
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาดูแลสิทธิประโยชน์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 8 ขั้น, ขอพระราชทานยศเป็น พ.ต.ท., การช่วยเหลือบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจ รวมทั้งให้เงินช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นๆ ทั้งของผู้เสียชีวิตและครอบครัวจำนวน 2,927,235 บาท
“ผบ.ตร.ขอสดุดีและแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว ที่สูญเสียตำรวจกล้า เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นวีรกรรมที่กล้าหาญ ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ให้สมกับสิ่งที่ ส.ต.ต.พิจักษณ์ ตำรวจกล้าได้ปฏิบัติหน้าที่เสียสละเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ” โฆษก ตร.ระบุ