ชาวบ้าน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ถือป้ายประท้วงโรงงานยางพาราปล่อยน้ำเสียสร้างมลพิษกระทบชาวบ้านกว่าสิบปี ขณะที่แม่เด็กหญิง 3 ขวบ โพสต์เฟซบุ๊ก แฉกลิ่นเหม็นน้ำเสียทำลูกแพ้หนัก เป็นไข้ไม่สบายมาเกือบสัปดาห์ จี้หน่วยงานแก้ไขจริงจัง
จากกรณีโรงงานยางพาราในพื้นที่ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ได้ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองธรรมชาติส่งกลิ่นเหม็นจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนัก ต้องแจ้งทางสื่อมวลชนเข้ามาตรวจสอบและนำเสนอข่าว จนทำให้หน่วยงานทางภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบโรงงานดังกล่าว และพบว่า มีการปล่อยน้ำเสียจริง โดยทางโรงงานอ้างท่อบำบัดน้ำเสียชำรุดและอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข
ล่าสุดในวันนี้ ( 5 มี.ค.64) ทางชาวบ้าน ม.7 ซ.ปอเนาะ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา จำนวนหนึ่งได้รวมกลุ่มมาถือป้ายประท้วง โดยมีข้อความว่า "ทิ้งน้ำเสีย ทั้งเหม็น ทั้งเน่ามาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว จากรุ่นสู่รุ่น ชาวบ้านทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!! " เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้โรงงานหยุดปล่อยน้ำเสียไหลลงสู่คลองธรรมชาติ ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยเร็วสักที ไม่อยากให้เรื่องเงียบหายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำเสียจากโรงงานมีกลิ่นเหม็น ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเริ่มมีอาการป่วย แสบจมูกจากการหายใจกลิ่นเหม็น อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านก้ได้รับความเสียหาย
นางเจะซู สาแลแม คุณยายวัย 72 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า เมื่อก่อนคลองสายนี้ชาวบ้านสามารถเล่นน้ำ จับปลา กินอาหารริมคลองกันอย่างสนุกสนาน น้ำใสสะอาด พื้นทรายสีทอง เห็นตัวปลา แต่ทุกวันนี้แทบจะไม่เห็นภาพบรรยากาศในอดีตอีกเลย เนื่องจากน้ำเน่าเสียโรงงานที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติปล่อยน้ำเสียออกมา กลางคืนก็ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วหมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนมานานแล้ว
เช่นเดียวกับ นายเปาะจิ ผู้สูงอายุในชุมชนอีกราย บอกว่า ในช่วงทำการละหมาดตอนค่ำ จะได้กลิ่นเหม็นมาก ส่งผลกระทบปฏิบัติศาสนกิจตามมัสยิด ผู้สูงอายุอย่างตนแทบหายใจไม่ออก นอกจากนี้เพื่อนบ้านที่ปลูกสวนทุเรียนก็ไม่กล้าที่จะใช้น้ำในคลองแห่งนี้ รดน้ำทุเรียน เกรงว่า พืชผลทางการเกษตรจะได้รับสารตกค้างจากโรงงานดังกล่าว
น.ส.อัสมา มะตานี ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้โรงงานปรังปรุง เนื่องจากมีผลกระทบมานานหลายปี น้ำเสียมีผลต่อร่างกายทั้งผื่นคัน แสบจมูก แสบคอ อยู่กันลำบากน้ำกินน้ำใช้ไม่มี ประกอบกับพืชสวนเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านอยากให้ลำคลองแห่งนี้ กลับมาเป็นเหมือนเดิม มีน้ำคลองสะอาดมาก สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนในอนาคต ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังโดยเร็ว ไม่อยากให้เรื่องเงียบหายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kanyarat Sae Lueng ได้โพสต์ของความระบุว่า "โรงน้ำยางปล่อยน้ำเสีย ทำให้ลูกฉันไม่สบาย แพ้หนักเลย" ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว คือ น.ส.กันยารัตน์ แซ่เล้ง ซึ่งมีลูกสาววัย 3 ขวบ ที่มีอาการแพ้ จนป่วยไข้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของน้ำเสียจากโรงงานน้ำยางดังกล่าว
น.ส.กันยารัตน์ กล่าวว่า ลูกสาวป่วย เป็นไข้มาเกือบสัปดาห์แล้ว เนื่องจากการแพ้กลิ่นเหม็นจากน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานน้ำยาง ลูกป่วยหนักทำให้ตนเองนอนไม่ได้หลายคืนแล้ว เพราะต้องคอยดูแลลูก โดยเฉพาะเมื่อวานมีน้องมีอาการแพ้หนักมาก เป็นไข้สูง แต่ก็ได้ไปหาหมอมาแล้ว ปกติน้องก็เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว เมื่อมาเจอกลิ่นเหม็นจากน้ำเสียที่โรงงานปล่อยมาอีก ก็ยิ่งทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบหนักขึ้น
สาเหตุที่ตัวเองโพสต์เฟซบุ๊ก เพราะอยากกระตุ้นเตือนให้หน่วยงานภาครัฐ หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม และหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง