ใครจะเชื่อว่า ป้ายไฟที่แปะข้อความ “หยุดตรวจ” ซึ่งตำรวจใช้กันเป็นปกติในการตั้งด่านตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ทั้งกลางวันและกลางคืน จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ย้อนมาทำร้ายตำรวจได้
แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ด่านตรวจจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 บนถนนสายนราธิวาส-ปัตตานี หน้าโรงเรียนบ้านกะลาพอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
“ทีมข่าวอิศรา” พาไปทำความรู้จัก “ป้ายหยุดตรวจ” และข้อสังเกตเกี่ยวกับการเลือกพื้นที่ก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบ
- ป้าย “หยุดตรวจ” ป้ายนี้ มีล้อเลื่อนสำหรับเข็นได้ ตำรวจจราจร สภ.สายบุรี ใช้มานาน
- ย้อนดูภาพ 16 เม.ย.67 ก็ใช้ตั้งด่าน 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์
- 1 ม.ค.68 ก็ใช้ตั้งด่านตรวจช่วงเทศกาลปีใหม่
- ป้าย “หยุดตรวจ” ใช้ในเวลากลางคืนได้ด้วย จึงมีไฟ และไซเรน
- ไฟและไซเรนจะใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่ แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์
- แบตเตอรี่จะจ่ายกระแสไฟไปยังหลอดไฟด้านในป้าย และไซเรน เพื่อให้มองเห็นได้ในระยะไกลในเวลากลางคืน
- มีกล่องใส่แบตเตอรี่อยู่ด้านล่าง
- ก่อนเกิดเหตุ แบตเตอรี่เสีย เจ้าหน้าที่จึงถอดออกไป ทำให้กล่องใส่แบตเตอรี่ว่างโล่ง
- เจ้าหน้าที่ไม่นำป้าย “หยุดตรวจ” กลับโรงพัก ทำให้คนร้ายสบช่อง ลอบวางระเบิด
- คนร้ายต้องเฝ้าดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดมาก จึงรู้ทุกความเคลื่อนไหว ถึงขั้นแบตเตอรี่เสีย นำไปซ่อม ทำให้กล่องใส่แบตเตอรี่ว่าง จึงนำระเบิดไปใส่แทน
- คนร้ายมีความสามารถในการดัดแปลงระเบิดแสวงเครื่องให้มีขนาดพอเหมาะกับพื้นที่ที่จะนำไปวาง
ความพิเศษของระเบิดลูกนี้ คือเป็นลูกแรกรับปีใหม่ 2568 แต่ความร้ายแรงไม่ใหม่ และการเลือกพื้นที่ก่อเหตุก็น่าสนใจ แม้จะมุ่งโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จุดตั้งด่านก็อยู่หน้าโรงเรียน ตรงป้ายชื่อโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ
“ทีมข่าวอิศรา” รวบรวมข้อสังเกตที่น่าสนใจ ดังนี้
1.เป็นเหตุระเบิดลูกแรกของปี 68 ยืนยันว่าสถานการณ์ไฟใต้ยังรุนแรง และมีโอกาสเกิดเหตุร้ายได้ตลอดเวลา
2.เลือกก่อเหตุก่อนวันครบรอบ 21 ปีปล้นปืน 21 ปีไฟใต้ แค่วันเดียว เพื่อให้สื่อรายงานข่าว และเตือนความจำสังคม ส่งผลทางจิตวิทยาต่อปัญหาไฟใต้
3.เลือกวางระเบิดหน้าโรงเรียน ทั้งๆ ที่วันเกิดเหตุ (3 ม.ค.) โรงเรียนเปิดการเรียนการสอน ส่งผลให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียน และประสานให้ผู้ปกครองรับนักเรียนกลับบ้านกันจ้าละหวั่น
4.กลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุรุนแรงโดยไม่สนใจความปลอดภัยของเด็ก หรือพื้นที่สีขาวอย่างโรงเรียน
5.คนร้ายฉวยโอกาสจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ ในการก่อเหตุ และทำได้แม้เป็นช่วงกลางวันแสกๆ
- เจ้าหน้าที่ตั้งด่านบริเวณใกล้เคียงกันนี้เกือบทุกวันจนเป็นกิจวัตร
- มาตั้งด่านเวลาเดียวกัน เลิกด่านเวลาใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่
- หลังเลิกด่านไม่เก็บอุปกรณ์กลับโรงพัก ทำให้คนร้ายหาช่องทางลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่จนได้
- เมื่อจะตั้งด่าน ไม่มีการตรวจสอบความพร้อมหรือความผิดปกติของอุปกรณ์ ทั้งๆ ที่มีการซุกระเบิดแทนแบตเตอรี่แล้ว
ที่สำคัญ จุดเกิดเหตุคือด่านตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่มีประชาชนสัญจรไปมามากมาย โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ แปลว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่คำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่สนใจนักเรียน หรือแม้แต่เด็กๆ ที่จะโดนลูกหลงเลย
“ทีมข่าวอิศรา” ได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีความมั่นคงและคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า หรือ EDTT ว่า ระเบิดลูกแรกของปี 68 เกิดขึ้นที่ อ.สายบุรี เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบที่วางตามสะพาน จุดตรวจ ริมถนน ในลักษณะโฉบมาวาง หรือฉาบฉวย เกิดขึ้นบ่อยมาก
มือระเบิดที่ดังๆ ซึ่งเชี่ยวชาญการวางระเบิดรูปแบบนี้ เช่น นายคัมภีร์ (สงวนนามสกุล), นายอิสริส (สงวนนามสกุล)
ส่วนมือระเบิดเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดลูกแรกของปี 68 หรือไม่ ต้องรอการสืบสวนขยายผลของตำรวจ!