ผู้เลี้ยงนก 5 จังหวัดชายแดนใต้ จี้ปลดล็อก “นกกรงหัวจุก” ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ปรับเป็น “สัตว์เศรษฐกิจ” เต็มรูปแบบ ขณะที่ สส.เขต 8 สงขลา ประชาธิปัตย์ คาดอีก 2 เดือนชัดเจน หลังส่งข้อเรียกร้องไปยังนายกฯ - รมว.กระทรวงทรัพย์ ค่ายพระแม่ธรณีฯ
วันจันทร์ที่ 21 ต.ค.67 ที่สนามโรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์ อ.จะนะ จ.สงขลา กลุ่มผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขน หรือ “นกกรงหัวจุก” ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนนับพันคน เดินทางนำนกมาร่วมประชันเสียง ภายใต้กิจกรรม “สานฝันถอดถอนนกกรงหัวจุกไทย” โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กระทรวง ทส.) เร่งขับเคลื่อนการปลดล็อกนกกรงหัวจุก ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง
นายอิบรอฮีม อ้นบุตร ประธานชมรมผู้เลี้ยงนกและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ทางชมรมฯ ได้เริ่มขับเคลื่อนเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โดยได้นำรายชื่อเกือบ 2 แสนรายชื่อของกลุ่มผู้เลี้ยงนกและผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวเนื่องจากการเลี้ยงนกกรงหัวจุก เสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยืนยันถึงความจำเป็นที่จะต้องปลดล็อกให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจเต็มรูปแบบ และเป็น soft power ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยืนยันไม่สนับสนุนการนำนกป่า มาซื้อ-ขาย หรือ นำมาเลี้ยง
“กลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกต่างรอความหวังในการปลดล็อก เพื่อที่จะพัฒนาการเลี้ยงให้ได้นกที่มีคุณภาพ เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่นำรายได้มาสู่ผู้เพาะเลี้ยงและอาชีพที่เกี่ยวเนื่องต่อไป”
นายอิบรอฮีม กล่าวอีกว่า วันนี้การเพาะเลี้ยงนกกรงหัวจุกมีการพัฒนาไปไกลมาก นกสวยงาม อย่างนกกรงหัวจุกที่มีสีขาว ซึ่งเคยหายาก ราคาสูง ก็มีการเพาะเลี้ยงกันได้มากขึ้น ทำให้มีราคาที่จับต้องได้
“นอกจากผู้เพาะเลี้ยงนกกรงหัวจุกแล้วยังมีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องอีกจำนวนมาก ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วย ปลูกมะละกอ ไปจนถึงผู้เพาะเลี้ยงหนอนนก ผู้ปลูกไม้ ผู้ทำกรงนก อาชีพตัดเย็บผ้าคลุมกรงนกอีกจำนวนมาก จึงเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งรัดปลดล็อกนกกรงหัวจุก เพื่อให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจโดยเร็ว” ประธานชมรมผู้เลี้ยงนกและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.เขต 8 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ขับเคลื่อนการปลดล็อกนกกรงหัวจุก กล่าวว่า ได้เรียกร้องไปยัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ให้เร่งรัดดำเนินการปลดล็อกเพื่อให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 2 เดือนจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้
“ปัจจุบันนกกรงหัวจุกมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจ ต้องการซื้อนกกรงหัวจุก แต่ติดที่ยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ทำให้ไม่สามารถซื้อขายและส่งออกได้อย่างถูกต้อง โดยนกกรงหัวจุกคุณภาพจะมีราคาหลักแสนไปจนถึงหลายล้านบาท”
พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวอีกว่า หลายภาคส่วนได้ร่วมกันผลักดันการถอดบัญชีนกปรอดหัวโขน ซึ่งก็คือ “นกกรงหัวจุก” ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามพระราชบัญญัติการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า