แชร์คลิปทหารพรานยึด “ภาพอูละมาอ์ – ธงปาเลสไตน์” จากขบวนพาเหรดเยาวชนในพื้นที่รือเสาะ นราธิวาส แจ้งให้ไปรับคืนหลังเสร็จกิจกรรม ชาวบ้านไม่พอใจ วิจารณ์หนัก ด้าน ฉก.ทหารพราน 46 แจงเป็นข้อตกลงร่วมกัน ไม่แสดงสัญลักษณ์อื่นที่ไม่เกี่ยวกับกิจกรรม โต้กลุ่มเยาวชนต้นเหตุตั้งใจฝ่าฝืนกฎ คณะกรรมการจัดงานขอความร่วมมือทหารช่วยระงับเหตุการณ์
เมื่อเวลา 08.40 น.วันเสาร์ที่ 7 ก.ย.67 ได้เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารพรานซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นำกำลังทหารไปดักขบวนพาเหรดของเยาวชนที่ไปร่วมกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่จัดขึ้นโดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกสะตอ อ.รือเสาะ
ขบวนพาเหรดที่ทหารพรานไปดักสกัด เป็นของเยาวชนในพื้นที่ มีการถือภาพของอูละมาอ์ (นักวิชาการมุสลิม หรือผู้รู้ทางศาสนา) ที่ล่วงลับไปแล้ว และถือธงชาติปาเลสไตน์เพื่อรณรงค์ให้ยุติสงครามและการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ยึดภาพอูละมาอ์ และธงปาเลสไตน์จากขบวนพาเหรด โดยอ้างว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย และนายสั่งมา ทั้งยังแจ้งให้กลุ่มเยาวชนไปรับภาพที่ถูกยึดคืนได้หลังจบกิจกรรม ที่กองร้อยทหารพรานในพื้นที่
ปฏิบัติการของทหารพรานสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มเยาวชนในขบวนพาเหรด จึงได้มีการถ่ายภาพและคลิปวีดีโอนำไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย กระทั่งเกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางในพื้นที่
หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ประธานสภา อบต.โคกสะตอ และกลุ่มเยาวชนได้เดินทางไปที่กองร้อยทหารพรานที่ 4609 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เพื่อรับภาพที่ถูกยึดกลับคืน
@@ ชาวบ้านถาม ทำแบบนี้คุ้มตรงไหน
ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง กล่าวว่า ทหารไม่มีจิตวิทยาในการปฏิบัติหน้าที่เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันคุ้มแล้วหรือที่จะแลกกับมวลชน เพราะขณะเกิดเหตุคนเยอะมาก มาจากหลายอำเภอ เมื่อเกิดเหตุชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ไม่พอใจ เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทหาร และกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ทหารชุดนี้ไม่มีจิตวิทยาในการทำงานกับมวลชนในพื้นที่
“อยากให้รัฐบาลใหม่ได้เข้าใจและแก้ปัญหานี้โดยด่วน อยากรู้เหมือนกันว่า ถือรูปคนตายผิดกฎหมายหรืออย่างไร ธงปาเลสไตน์กับกิจกรรมที่รณรงค์ยุติความรุนแรงมันผิดด้วยหรือ เพราะก่อนที่จะจัดงาน ทุกฝ่ายได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันหมดแล้ว แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้น มันหมายความว่าอย่างไร”
@@ ทหารยังงง ทำไมไม่ใช้วิธีอื่น
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวความมั่นคง กล่าวว่า เหตุการณ์ตามคลิปที่แชร์กัน เกิดขึ้นจริง เป็นการปฏิบัติของหน่วยงานควบคุม กองกำลังทหารพรานในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ที่ได้เข้าไปเก็บรูปผู้รู้ในอิสลาม อูละมาอ์ในขบวนพาเหรด คนก็ตกใจกันหมด ซึ่งตามยุทธวิธีมีหลายวิธีทีสามารถปฏิบัติให้เบากว่านั้น แต่ก็ไม่เข้าใจทำไมถึงเกิดเหตุลักษณะนี้ได้ คิดว่าคงจะมีการชี้แจงเร็วๆนี้
@@ แจงเหตุยึดภาพเป็นข้อตกลงร่วม
ต่อมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีมีการแชร์ภาพวีดีโอที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานขอความร่วมมือเข้าไปเก็บป้ายรูปภาพและป้ายสัญลักษณ์ของกลุ่มเยาวชนในขบวนพาเหรดที่ อ.รือเสาะ
เนื้อหาในหนังสือระบุว่า “ขออนุญาตชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีชื่อว่า กิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมีการจัดการประชุมก่อนจัดกิจกรรม โดยมี นายมาหะมะ ลาเต๊ะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะตอ เป็นประธาน พร้อมทั้งชาวตำบลโคกสะตอและคณะกรรมการจัดกิจกรรม
ประชุมและหารือได้มีมติตกลงกันไว้ว่า ในการเดินขบวนพาเหรดในพิธีเปิดกิจกรรม จะต้องแสดงออกถึงประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นเท่านั้น จะต้องไม่มีการแสดงออกถึงสัญลักษณ์ที่สื่อนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมถึงความสามัคคีตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรม
@@ เยาวชนต้นเหตุจงใจฝ่าฝืนกฎ
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงาน โดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะตอ ได้เชิญอำเภอเข้าร่วมจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอยี่งอ และอำเภอจะแนะ ซึ่งก่อนเริ่มกิจกรรม ทุกอำเภอได้มีการลงทะเบียนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการแสดงสัญลักษณ์และสื่อนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
แต่มีเพียงเยาวชนบางกลุ่มเดินทางมาล่าช้า ไม่ผ่านการลงทะเบียน และมีความตั้งใจที่จะฝ่าฝืนกฎเกณฑ์การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คณะกรรมการจัดกิจกรรมได้ตรวจพบกลุ่มเยาวชนเหล่านี้ได้ทำผิดวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม และได้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ทหารทราบ เนื่องจากคณะกรรมการได้ให้การต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ซึ่งประธานในพิธีอยู่
@@ กรรมการจัดงานขอทหารเข้าระงับ
คณะกรรมการฯ จึงขอความร่วมมือให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปชี้แจงต่อกลุ่มเยาวชนให้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน และขอความร่วมมือผู้ควบคุมกลุ่มเยาวชนให้เก็บธงชาติปาเลสไตล์และรูปภาพ จึงทำให้เกิดเป็นประเด็นทางสื่อออนไลน์ขึ้นมา
ทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 มิได้มีเจตนาเข้าไปละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางสาธารณะ เพียงแค่หน่วยทำตามวัตถุประสงค์ของผู้จัดงาน เพื่อให้การดำเนินงานกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย”
-----------------------