3 ฟันเฟือง “นักธุรกิจแดนใต้-ศอ.บต.-ทูตไทยใน ตปท.” ใช้โอกาสทูตโอไอซีลงพื้นที่ปลายด้ามขวาน ดันสินค้าฮาลาลชายแดนใต้สู่ประเทศโลกมุสลิม หวังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น
วันพุธที่ 12 มิ.ย.67 คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นวันที่ 2 ที่ จ.ยะลา โดยได้พูดคุยกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และเยาวชนในพื้นที่ ณ ทีเคปาร์ค (ศูนย์การเรียนรู้) จ.ยะลา
ทั้งนี้ ศอ.บต. ซึ่งเป็นแม่งานหลัก ได้ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เปิดห้องประชุมใน ทีเค ปาร์คให้คณะทูตได้ซักถามเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ทั้งด้านการบริหารจัดการพื้นที่ นโยบายของรัฐบาล แนวทางการพัฒนา การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และอื่นๆ
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เผยถึงการนำคณะพูดกลุ่มประเทศมุสลิม 12 ประเทศ เยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป้าหมายของรัฐบาล ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสื่อสารให้ต่างชาติเห็นข้อเท็จจริง ภาพจริง และสัมผัสจากพื้นที่จริง เพื่อให้เข้าใจบริบทพื้นที่ชายแดนภาคใต้จากพื้นที่จริง ไม่ใช่ข่าวสาร หลายท่านมาพื้นที่นี้ครั้งแรกก็เห็นถึงความสวยงาม มีหลายเรื่องที่มีคุณภาพ คนในพื้นที่ก็มีความสุข เหตุผลข้อแรกนี้เป็นจุดมุ่งหมายที่ ศอ.บต. ต้องการสื่อสารให้ครบถ้วน
ส่วนเหตุผลข้อที่ 2 คือต้องการยกระดับความร่วมมือในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนเป้าหมายที่ 3 คือการขยายตลาด สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องถิ่น ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ของดีชุมชน
ทั้งนี้ยังสอดรับกับนักธุรกิจชายแดนใต้ที่นำสินค้ามาร่วมนำเสนอ ชวนชิม เพื่อเปิดโอกาสในการขยายตลาดสินค้าฮาลาลของไทยสู่ประเทศโลกมุสลิมทั่วโลก อาทิ สมุนไพร ขนมขบเคี้ยว สินค้าท้องถิ่น เป็นต้น
ด้านผู้แทนบริษัท โอมมี่ เยลลี่ จำกัด ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา กล่าวว่า ได้มาพบและนำเสนอสินค้าให้คณะทูตจากประเทศมุสลิมได้เห็น เพื่อต้องการนำเสนอศักยภาพของนักธุรกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้รัฐบาลส่งเสริมการขยายตลาดสินค้าสู่ประเทศโอไอซี เช่น การเปิดโอกาสให้กลุ่มชายแดนใต้เข้าสู่เทศกาลอาหารประเภทต่างๆ โดยขณะนี้ได้โฟกัสกลุ่มอาเซียนที่เป็นกลุ่มมุสลิม คือ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรกว่า 200 ล้านคน
นอกจากนั้นยังตั้งเป้าขยายตลาดไปยังซาอุดีอาระเบีย ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เพื่อเป็นประตูสู่แอฟริกาต่อไป
สำหรับ สินค้าแบรนด์ “เยลลี่ โอมมี่” ปัจจุบันไดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน 5 ประเทศแล้ว ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว และเมียนมา
นายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกของตนที่ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส มีความประทับใจมากๆ เนื่องจากมาถึงแล้ว พื้นที่มีความเรียบร้อย สงบสุข เป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ถ้าหากครอบครัวอยู่ที่ภาคอีสาน ก็อยากมาตั้งรกรากในพื้นที่
“ในส่วนของเหตุการณ์ความรุนแรงนั้น ต่างประเทศเข้าใจดีถึงความขัดแย้งในลักษณะนี้ บางครั้งอาจจะมีปัญหาก็แก้ไปทีละเปลาะ เราพร้อมที่จะเป็นคนกลางระหว่างจังหวัดชายแดนภาคใต้กับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเฉพาะเรื่องการค้าการลงทุน การศึกษา เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชายแดนใต้ให้ดีขึ้นไปอีก” เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี กล่าว
@@ เยี่ยมชมการจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะ ให้การต้อนรับคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม ณ ที่ทำการด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก จ.นราฦธิวาส และรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย หรือ สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 พร้อมรับฟังการนำเสนอข้อมูลด้านการค้า การส่งออก-นำเข้าสินค้าผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ตามโครงการพัฒนาความร่วมมือเพื่อยกระดับการค้าชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ผ่านโครงการยกระดับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับรัฐติดกับชายแดนไทยของมาเลเซียสู่การเป็นเมืองคู่แฝด TWIN CITIES พร้อมเยี่ยมชมความก้าวหน้าของโครงการ
สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งที่ 2 ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยความร่วมมือในการดำเนินการต่อไป ให้เมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็น TWIN CITIES หรือเมืองคู่แฝด และจะเป็นจุดร่วมของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและการขนส่งของทั้ง 2 ประเทศ ที่สามารถรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต