“บิ๊กเกรียง” อดีตแม่ทัพภาค 4 รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาการทหาร ในวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 66 ปี โรงเรียนเตรียมทหาร
วันศุกร์ที่ 26 ม.ค.67 มูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ได้จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ครบรอบปีที่ 66 และงานเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2567 ที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก
โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เป็นประธานในพิธี และมี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก วางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 และวางพวงมาลาอนุสรณ์สถาน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
จากนั้นมีพิธีแสดงมุทิตาจิตแด่อดีตผู้บังคับบัญชาและครูอาจารย์, พิธีมอบรางวัลจักรดาวสดุดี และพิธีมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาวแก่ศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี 2567 ณ หอประชุมนวนครินทร์ บรรยากาศเป็นการรำลึกเหตุการณ์อดีตของบรรดาพี่น้องศิษย์เก่ากลับคืนถิ่น
สำหรับรางวัลเกียรติยศจักรดาว เป็นรางวัลที่มอบให้กับศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่องค์กรและส่วนรวม แบ่งเป็นสาขาต่างๆ ประกอบด้วย สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ, การทหาร, วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม, พัฒนาสังคม, การเมืองและการบริหารรัฐกิจ, การวิจัย และสาขาอื่นๆ ซึ่งในปี 2567 มีผู้ได้รับรางวัลรวม 12 ท่าน
ในส่วนของกองทัพบกมี 5 ท่าน ได้แก่
1.พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ (เตรียมทหารรุ่นที่ 16) รับรางวัลสาขาพัฒนาสังคม
2.พล.อ.สุรใจ จิตต์แจ้ง (เตรียมทหารรุ่นที่ 16) รับรางวัลสาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
3.พล.อ.สุรพล เจียรณัย (เตรียมทหารรุ่นที่ 20) รับรางวัลสาขาการทหาร
4.พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ (เตรียมทหารรุ่นที่ 22) รับรางวัลสาขาการทหาร
5.พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (เตรียมทหารรุ่นที่ 23) รับรางวัลสาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
สำหรับประวัติของ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.2506 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22 ) และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 33 (จปร.33)
เริ่มรับราชการติดยศ ร้อยตรี เมื่อปี 2529 สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 (ร.25 พัน3) ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี ชีวิตราชการเติบโตอยู่ในกองทัพภาคที่ 4 มาตลอด จนขยับขึ้นมาสู่ตำแหน่งสูงสุดในกองทัพภาคที่ 4 ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อปี 2562 และถือเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนที่ 13 นับตั้งแต่ไฟใต้ปะทุขึ้นมาเมื่อปี 2547
สมัยดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.เกรียงไกร ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ “แบล็กฮอว์ก” ลงจอดฉุกเฉินที่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 ก.ค.65 ขณะเดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อไปปฏิบัติภารกิจ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานหลายเดือน
พล.อ.เกียงไกร ถือว่าเป็นทหารสายบู๊ถึงลูกถึงคน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง เวลามีปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น ยิงปะทะ ก็เข้าพื้นที่ตลอด ทำให้ใกล้ชิดกับผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ถือตัว นั่งล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกันกับกำลังพล
นอกจากนั้นยังมีบุคลิกที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นกันเอง ทั้งมีคอนเนคชั่นหลากหลายวงการ และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับภาคประชาสังคมหลากหลายกลุ่ม จนเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนในช่วงที่ทำงานอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทั่งได้ขยับขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. เข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.ในปีสุดท้ายของชีวิตราชการ ซึ่งเพิ่งเกษียณอายุราชการเมื่อ 30 ก.ย.66 ที่ผ่านมา