หลังผ่านพ้นวันออกพรรษา เมื่อวันที่ 29 ต.ค.66 สิ้นสุดระยะการจำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ พุทธศาสนิกชนหลายๆพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการจัดกิจกรรมในทางศาสนาขึ้น
วันที่ 30 ต.ค.66 ที่วัดคูหาภิมุข (วัดถ้ำยะลา) อ.เมือง จ.ยะลา พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายธราวุธ ช่วยเกิด ปลัดจังหวัดยะลา นำชาวพุทธและชาวมอญในพื้นที่ ต.หน้าถ้ำ และพื้นที่ตำบลใกล้เคียง ร่วมสืบสานประเพณีวันออกพรรษา ร่วมตักบาตรเทโว ข้าวสาร อาหารแห้ง ดอกไม้ และปัจจัย เพื่อสืบทอดประเพณีสำคัญทางพุทธศาสนา ปลูกฝังเด็กและเยาวชนผู้สูงอายุและชุมชนชาวไทยพุทธได้ร่วมทำบุญสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นแก่ชุมชน ลดอบายมุขและหันหน้าเข้าวัด
ทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของชุมชนตำบลหน้าถ้ำ โดยทางวัดได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ และชาวตำบลหน้าถ้ำจัดขึ้น มีการจำลอง เทวดา และนางฟ้า แห่เสลี่ยงพระพุทธรูป นำพระภิกษุสงฆ์ เดินลงมาจากถ้ำรับบิณฑบาตรที่บริเวณเชิงบันไดนาค จากนั้นชาวพุทธได้ร่วมชักพระ โดยทางวัดได้มีการจัดทำเรือพระอย่างสวยงาม เพื่อเดินทางเข้าร่วมงานชักพระที่ทางเทศบาลบาลนครยะลาจัดขึ้น ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.66 – 2 พ.ย.66
การตักบาตรเทโวโรหณะ หรือ ตักบาตรเทโว เป็นประเพณีที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน ที่ได้สืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ เล็งเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์สืบทอดประเพณี ตลอดจนมีการส่งเสริมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
@@ เบตงจัดพิธีสมโภชเรือพระ วันออกพรรษา
ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่วัดพุทธาธิวาส (พระอารามหลวง) อ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พุทธศาสนิกชนชาวไทยในอำเภอเบตง นำเอาดอกไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง มาร่วมกันทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในวันออกพรรษา ประจำปี2566 เพื่อเป็นการบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี วัฒนธรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ส่งเสริมความรู้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนให้เล็งเห็นความสำคัญคุณค่าของประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นและเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวเนื่องในวันออกพรรษาอีกด้วย
ต่อมานายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เป็นประธานพิธีสมโภชเรือพระ ประจำปี 2566 ที่บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ตามโครงการอนุรักษ์สืบสานและเรียนรู้วัฒนธรรมออกพรรษา โดยมีเรือพระจากวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ เคลื่อนขบวนเรือพระ ร่วมในงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีทางพุทธศาสนา สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้ดำรงสืบไปและเพื่อปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนให้ประพฤติปฏิบัติตนตามแนวทางของพุทธศาสนิกชนที่ดี ได้รู้สึกหวงแหนและตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เป็นที่รู้จักทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ
โดยกิจกรรมในงานมีการประกวดเรือพระ การแข่งขันตีโพน การแข่งขันแทงต้ม และการแข่งขันกินต้ม ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเบตง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย มาร่วมชมความงดงามวิจิตรตระการตาของขบวนเรือพระอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ดูแลอย่างเข้มงวด
@@ เรือพระ 8 วัดเมืองนรา ร่วมประชันในงานชักพระ
วันที่ 30 ต.ค.66 ที่ สวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีชักพระ ประจำปี 2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ร่วมงานเป็นจำนวนมาก
การจัดงานในครั้งนี้เทศบาลเมืองนราธิวาส ได้ร่วมกับวัดและชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อสืบทอดประเพณีวัฒนธรรม โดยจัดให้มีกิจกรรมลากเรือพระมาเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากประเพณีลากพระ หรือชักพระ เป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของพุทธศาสนิกชนทางภาคใต้ และเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา ที่กระทำกันหลังจากวันออกพรรษาแล้ว 1 วัน กล่าวคือ ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พุทธศาสนิกชน จะพร้อมใจกันอาราธนาพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐานไว้บนบุษบกที่วางอยู่เหนือเรือ รถ หรือล้อเลื่อน แล้วแห่แหนชักลากไปตามถนนหนทาง เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ร่วมกันสักการะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลเนื่องในโอกาสเทศกาลออกพรรษา
ในงานมีการตักบาตรเทโว พระสงฆ์ จำนวน 30 รูป พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชเรือพระ จำนวน 8 ลำ จาก 8 วัด ประกอบด้วย วัดบางนรา วัดประชาภิรมย์ วัดพรหมนิวาส วัดพนาสณฑ์ วัดโคกเคียน วัดบ้านทุ่งกง วัดกำแพง และวัดลำภู พิธีปล่อยขบวนแห่เรือพระ การประกวดขบวนแห่เรือพระ แข่งขันโยนต้ม ซึ่งการจัดงานประเพณีชักพระในปีนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง จากวัด โรงเรียนและชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งส่วนราชการต่างๆในพื้นที่